free page hit counter

สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ประจำสหภาพยุโรป

Office of Agricultural Affairs | Royal Thai Embassy, Brussels
Home Blog

ข้อมูลการขออนุญาตนำเข้าสัตว์เลี้ยง(สุนัขและแมว) ทางด่านกักสัตว์สุวรรณภูมิ / IMPORTATION OF DOG AND CAT

0

ขั้นตอนที่1 เอกสารสำหรับการขอ Import permit

– สำเนา passport ของผู้เดินทาง หรือผู้ที่ทำการนำเข้าสัตว์เลี้ยง

– ที่อยู่ประเทศต้นทาง และที่อยู่ที่ประเทศไทย

– รายละเอียดของสัตว์เลี้ยง (เช่น พันธุ์, เพศ, อายุ, สี, microchip เป็นต้น)

– ฝังไมโครชิพ

– สุนัขและแมวต้องมีอายุ 4 เดือนขึ้นไป

– เอกสารการฉีดวัคซีน (rabies vaccination, DHP/L etc.) เข็มแรกไม่น้อยกว่า 21 วันก่อนเดินทาง

– รูปภาพของสัตว์เลี้ยง

– รายละเอียดการเดินทาง (วัน, เวลา, flight ที่จะถึงประเทศไทย)

– ชื่อสนามบินที่ใช้ในการส่งออกสัตว์เลี้ยง

– แนบเอกสาร ร.1/1

– ชื่อผู้ใช้งานและรหัสผ่าน (ถ้ามี)

ขั้นตอนที่2 ในวันนำเข้า ยื่นเอกสารเพื่อขอใบอนุญาตฯ (แบบ ร.6, ร.7)

– สำเนา Import Permit

– เอกสาร Health Certificate ต้นฉบับ (รับรองตามเงื่อนไขใน Import Permit และ Requirement)

– สำเนา Air Way Bill

– สำเนา Invoice (ถ้ามี)

– Draft ใบขนสินค้าขาเข้าศุลกากร

ตัวอย่างเอกสารการนำเข้าสุนัขและแมว

เอกสารต่างๆ


 List of required documents for the Importation of pet dog and cat

1. To get a transit permit, all required documents must be submitted for review at least seven days before a permit will be issued.

– A copy of identification card of an importer.

– Address in your country and address in Thailand.

– Detail of your animal (such as type of breed, sex age, microchip etc.

– Your pet have over 4 months.

– Microchip

– History of vaccination (A copy of vaccination record : rabies and DHP/L vaccination) more than 21 days prior travelling.

– Picture of your animal.

– Approximate date of arrival to Thailand.

– Name of port of exit from your country.

– Form1/1

– Username and password (If you have it)

2. To get a transit license R6 and R7, the following documents are required on the day of animal arrival in Thailand.

– A photocopy of the import permit

– Original plus photocopy of the health certificate from the country or origin

– Photocopy of the airway bill

– Photocopy of the invoice

– A photocopy of the customs declaration form

Example Document (Health Certificate)

DOCUMENTS

ที่มาข้อมูล : ด่านกักกันสัตว์ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ, กรมปศุสัตว์

Source : Suvarnabhumi Airport Animal Quarantine, Department of Livestock

สหภาพยุโรปอนุญาตสารเสริมในอาหารสัตว์

0

1. Commission Implementing Regulation (EU) 2025/169 ว่าด้วย การอนุญาตให้ preparation of Saccharomyces cerevisiae DBVPG 48 SF เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ ใน EU Official Journal L series โดยมีรายละเอียดดังนี้

    1) คณะกรรมาธิการยุโรปเห็นชอบให้ preparation of Saccharomyces cerevisiae DBVPG 48 SF เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ (feed additive) ภายใต้กลุ่มสารเสริมเฉพาะทางสำหรับสัตว์ (zootechnical additives) เพื่อช่วยเพิ่มพารามิเตอร์สมรรถภาพสัตว์ (improvement of performance parameters) และอนุญาตให้ใช้กับสัตว์เคี้ยวเอื้องทุกชนิด (ยกเว้นสัตว์เคี้ยวเอื้องเลี้ยงผลิตนม) เป็นระยะเวลา 10 ปี ตั้งแต่วันที่กฎระเบียบฯ มีผลบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2578 เนื่องจากไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพสัตว์ ความปลอดภัยของผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม สารดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงจากการใช้งาน ผู้ใช้งานจึงควรสวมใส่อุปกรณ์ป้องกัน

    2) คณะกรรมาธิการยุโรปกำหนดปริมาณการใช้งานขั้นต่ำสุด ในสัตว์เคี้ยวเอื้องทุกชนิด (ยกเว้นโคนมและสัตว์เคี้ยวเอื้องเลี้ยงเพื่อผลิตนม)  ที่ปริมาณ 4 x 109 CFU/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)

    3) กฎระเบียบดังกล่าวมีผลบังคับใช้ 20 วัน หลังจากที่ประกาศใน EU Official Journal (ประกาศ ณ วันที่ 31 มกราคม 2568) ทั้งนี้ รายละเอียดของกฎระเบียบดังกล่าว สามารถสืบค้นเพิ่มเติมได้จาก QR code

2. Commission Implementing Regulation (EU) 2025/188 ว่าด้วย การอนุญาตให้ L-tryptophan  ที่ผลิตจาก Escherichia coli CGMCC 7.460 เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ ใน EU Official Journal L series โดยมีรายละเอียดดังนี้

    1) คณะกรรมาธิการยุโรปเห็นชอบให้ L-tryptophan  ที่ผลิตจาก Escherichia coli CGMCC 7.460 เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ (feed additive) ภายใต้กลุ่มสารเสริมทางโภชนาการ (nutritional additives) กลุ่มกรดอะมิโน เกลือของกรดอะมิโน และสารที่อยู่กลุ่มเดียวกัน (amino acids, their salts and analogues) และอนุญาตให้ใช้กับสัตว์ทุกชนิด เป็นระยะเวลา 10 ปี ตั้งแต่วันที่กฎระเบียบฯ มีผลบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2578 เนื่องจากไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพสัตว์ ความปลอดภัยของผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม สารดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงจากการใช้งาน ผู้ใช้งานจึงควรสวมใส่อุปกรณ์ป้องกัน

   2) กฎระเบียบดังกล่าวมีผลบังคับใช้ 20 วัน หลังจากที่ประกาศใน EU Official Journal (ประกาศ ณ วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568) ทั้งนี้ รายละเอียดของกฎระเบียบดังกล่าว สามารถสืบค้นเพิ่มเติมได้จาก QR code

สหภาพยุโรปออกมาตรการฉุกเฉินในกรณีการระบาดของโรคไข้หวัดนกสายพันธุ์รุนแรงสูง

คณะกรรมาธิการยุโรปได้ประกาศ Commission Implementing Decision (EU) 2025/124 ว่าด้วย การปรับแก้ภาคผนวก Implementing Decision (EU) 2023/2447 เกี่ยวกับมาตรการฉุกเฉินในกรณีการระบาดของโรคไข้หวัดนกสายพันธุ์รุนแรงสูงในประเทศสมาชิกบางประเทศ ใน EU Official Journal L series โดยมีรายละเอียดดังนี้

  • วัตถุประสงค์: เพื่อกำหนดเขตป้องกัน (protection zones) เขตเฝ้าระวัง (surveillance zones) และเขตควบคุม (restricted zones) สืบเนื่องจากเมื่อเดือนมกราคม 2568 ที่มีการระบาดของโรคไข้หวัดนกสายพันธุ์รุนแรงสูง (Highly Pathogenic Avian Influenza: HPAI) ในประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปบางประเทศเพิ่มขึ้น อาทิ เยอรมนี  อิตาลี ฮังการี และโปแลนด์ 
  • ข้อกำหนดที่เกี่ยวข้อง: กำหนดเขตป้องกัน (protection zones) เขตเฝ้าระวัง (surveillance zones) และเขตควบคุม (restricted zones) ในประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป จำนวน 7 ประเทศ ดังนี้ เช็ก เยอรมนี ฝรั่งเศส อิตาลี ฮังการี โปแลนด์ และโปรตุเกส
  • กฎระเบียบดังกล่าวมีผลบังคับใช้ในวันที่ประกาศใน EU Official Journal (ประกาศ ณ วันที่ 21 มกราคม 2568) เป็นต้นไป ทั้งนี้ รายละเอียดของกฎระเบียบดังกล่าว สามารถสืบค้นเพิ่มเติมได้จาก QR code

                                                                                                                   

           

สหภาพยุโรปออกมาตรการฉุกเฉินในกรณีการระบาดของโรคฝีดาษในแกะและแพะ (sheep pox and goat pox) ในประเทศบัลแกเรีย

คณะกรรมาธิการยุโรปได้ประกาศ Commission Implementing Decision (EU) 2025/213 ว่าด้วย การปรับแก้ Implementing Decision (EU) 2024/2918 เกี่ยวกับการกำหนดมาตรการฉุกเฉินในกรณีการระบาดของโรคฝีดาษในแกะและแพะ (sheep pox and goat pox) ในประเทศบัลแกเรีย ใน EU Official Journal L series สรุปสาระสำคัญ ดังนี้  

  • วัตถุประสงค์: จากการระบาดของโรคฝีดาษในแกะและแพะในประเทศบัลแกเรียล่าสุดเมื่อเดือน มกราคม 2568 คณะกรรมาธิการยุโรปเห็นควรกำหนดเขตป้องกัน (protection zones) เขตเฝ้าระวัง (surveillance zones) และเขตควบคุม (restricted zones) ให้มีความเป็นปัจจุบัน สอดคล้องกับสถานการณ์การระบาดของโรคฝีดาษในแกะและแพะในเขต Sliven ประเทศบัลแกเรีย ที่เพิ่มขึ้น โดยคำนึงถึงข้อกำหนดสุขภาพสัตว์บก (Terrestrial Animal Health Code) ขององค์การอนามัยสัตว์โลก (World Organisation for Animal Health: WOAH)
  • ข้อกำหนดที่เกี่ยวข้อง:
    • เขตSliven: กำหนดเขตป้องกัน (protection zones)  ให้มีผลไปจนถึงวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2568 เขตเฝ้าระวัง (surveillance zones) ให้มีผลไปจนถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 และเขตควบคุม (restricted zones) ให้มีผลไปจนถึงวันที่ 15 มีนาคม 2568
    • เขตStara Zagora: กำหนดเขตควบคุม (restricted zones) ให้มีผลไปจนถึงวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2568
    • เขตHaskovo: กำหนดเขตควบคุม (restricted zones) ให้มีผลไปจนถึงวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2568
    • เขตYambol: กำหนดเขตควบคุม (restricted zones) ให้มีผลไปจนถึงวันที่ 15 มีนาคม 2568
    • เขตKurdzhali: กำหนดเขตควบคุม (restricted zones) ให้มีผลไปจนถึงวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2568
  • กฎระเบียบดังกล่าวมีผลบังคับใช้ในวันที่ประกาศใน EU Official Journal (ประกาศ ณ วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568) เป็นต้นไป รายละเอียดของกฎระเบียบดังกล่าว สามารถสืบค้นเพิ่มเติมได้จาก QR code

สหภาพยุโรปต่ออนุญาตสารเสริมในอาหารสัตว์

  1. Commission Implementing Regulation (EU) 2025/168 ว่าด้วย การต่ออนุญาตให้ preparation of Limosilactobacillus fermentum NCIMB 30169 เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ ใน EU Official Journal L series โดยมีรายละเอียดดังนี้

1) คณะกรรมาธิการยุโรปเห็นชอบต่อการอนุญาตให้ preparation of Limosilactobacillus fermentum NCIMB 30169 เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ (feed additive) ภายใต้กลุ่มสารเสริมทางเทคโนโลยี (technological additives) โดยมีหน้าที่เป็นสารเร่งปฏิกริยาในหญ้าหมัก (silage additives) และอนุญาตให้ใช้กับสัตว์ทุกชนิด เป็นระยะเวลา 10 ปี ตั้งแต่วันที่กฎระเบียบฯ มีผลบังคับใช้ ไปจนถึงวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2578 เนื่องจากไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพสัตว์ ความปลอดภัยของผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม สารดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงจากการใช้งาน ผู้ใช้งานจึงควรสวมใส่อุปกรณ์ป้องกัน

    2) คณะกรรมาธิการยุโรปกำหนดระยะเวลาเปลี่ยนผ่าน ดังนี้

    สารเสริม preparation of Limosilactobacillus fermentum NCIMB 30169  และอาหารสัตว์ที่มีส่วนประกอบของสารดังกล่าวที่ผลิตและติดฉลากก่อนวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2569 โดยปฏิบัติตามกฎระเบียบฉบับเดิม ก่อนวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568 สามารถวางจำหน่ายและใช้ได้จนกว่าสินค้าจะหมดไปจากคลังสินค้า

    3)กฎระเบียบดังกล่าวมีผลบังคับใช้ 20 วัน หลังจากที่ประกาศใน EU Official Journal (ประกาศ ณ วันที่ 31 มกราคม 2568) ทั้งนี้ รายละเอียดของกฎระเบียบดังกล่าว สามารถสืบค้นเพิ่มเติมได้จาก QR code

    2. Commission Implementing Regulation (EU) 2025/193 ว่าด้วย การต่ออนุญาตให้ preparation of endo-1,4-beta-xylanase ที่ผลิตจาก Trichoderma reesei CBS 143953, subtilisin ที่ผลิตจาก Bacillus subtilis CBS 143946 และ alpha-amylase ที่ผลิตจาก Bacillus amyloliquefaciens CBS 143954 เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ ใน EU Official Journal L series โดยมีรายละเอียดดังนี้

        1) คณะกรรมาธิการยุโรปเห็นชอบต่อการอนุญาตให้ preparation of endo-1,4-beta-xylanase ที่ผลิตจาก Trichoderma reesei CBS 143953, subtilisin ที่ผลิตจาก Bacillus subtilis CBS 143946 และ alpha-amylase ที่ผลิตจาก Bacillus amyloliquefaciens CBS 143954 เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ (feed additive) ภายใต้กลุ่มสารเสริมเฉพาะทางสำหรับสัตว์ (zootechnical additives) เพื่อช่วยเพิ่มความสามารถในการย่อยอาหาร (digestibility enhancers) และอนุญาตให้ใช้กับเป็ด สัตว์ปีกเพื่อขุน เพื่อเพาะพันธุ์ และเพื่อไข่ เป็นระยะเวลา 10 ปี ตั้งแต่วันที่กฎระเบียบฯ มีผลบังคับใช้ ไปจนถึงวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2578 เนื่องจากไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพสัตว์ ความปลอดภัยของผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม สารดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงจากการใช้งาน ผู้ใช้งานจึงควรสวมใส่อุปกรณ์ป้องกัน

        2) คณะกรรมาธิการยุโรปกำหนดการใช้สารเสริมที่ระดับต่ำสุดในสัตว์ ดังนี้

              (ก)  เป็ด ระดับต่ำสุดไม่เกิน endo-1,4-beta-xylanase 75 U subtilisin 1000 U  alpha-amylase 100 U หน่วยกิจกรรม/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)

             (ข)  สัตว์ปีกเพื่อขุน เพื่อเพาะพันธุ์  ระดับต่ำสุดไม่เกิน endo-1,4-beta-xylanase 187,5 U subtilisin 2500 U  alpha-amylase 250 U หน่วยกิจกรรม/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)

             (ค)  สัตว์ปีกเพื่อไข่ ระดับต่ำสุดไม่เกิน  endo-1,4-beta-xylanase 300 U subtilisin 4000 U  alpha-amylase 400 U หน่วยกิจกรรม/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)

        3) คณะกรรมาธิการยุโรปกำหนดระยะเวลาเปลี่ยนผ่าน ดังนี้

            (ก) preparation of endo-1,4-beta-xylanase ที่ผลิตจาก Trichoderma reesei CBS 143953, subtilisin ที่ผลิตจาก Bacillus subtilis CBS 143946 และ alpha-amylase ที่ผลิตจาก Bacillus amyloliquefaciens CBS 143954 และสารผสมล่วงหน้า (premixture) ที่มีส่วนประกอบของสารดังกล่าวสำหรับไก่/ไก่งวงเพื่อขุน เป็ด และไก่ไข่ ที่ผลิตและติดฉลากก่อนวันที่ 23 สิงหาคม ๒๕68 โดยปฏิบัติตามกฎระเบียบฉบับเดิมก่อนวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2568 สามารถวางจำหน่ายและใช้ได้จนกว่าสินค้าจะหมดไปจากคลังสินค้า 

            (ข) อาหารสัตว์ผสม (compound feeds) และวัตถุดิบอาหารสัตว์ (feed materials) ที่มีส่วนประกอบของ preparation of endo-1,4-beta-xylanase ที่ผลิตจาก Trichoderma reesei CBS 143953, subtilisin ที่ผลิตจาก Bacillus subtilis CBS 143946 และ alpha-amylase ที่ผลิตจาก Bacillus amyloliquefaciens CBS 143954  สำหรับไก่/ไก่งวงเพื่อขุน เป็ด และไก่ไข่ ที่ผลิตและติดฉลากก่อนวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ๒๕69 โดยปฏิบัติตามกฎระเบียบฉบับเดิมก่อนวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2568 สามารถวางจำหน่ายและใช้ได้จนกว่าสินค้าจะหมดไปจากคลังสินค้า

         4) กฎระเบียบดังกล่าวมีผลบังคับใช้ 20 วัน หลังจากที่ประกาศใน EU Official Journal (ประกาศ ณ วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568) ทั้งนี้ รายละเอียดของกฎระเบียบดังกล่าว สามารถสืบค้นเพิ่มเติมได้จาก QR code  ดังนี้

    สหภาพยุโรปออกมาตรการควบคุมพิเศษในกรณีการระบาดของโรคอหิวาห์แอฟริกาในสุกร (African Swine Fever: ASF) ในประเทศสมาชิก

    คณะกรรมาธิการยุโรปได้ประกาศ Commission Implementing Regulation (EU) 2025/164 ว่าด้วย การปรับแก้ภาคผนวก I Implementing Regulation (EU) 2023/594 เกี่ยวกับมาตรการควบคุมพิเศษในกรณีการระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (African Swine Fever: ASF) ในประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป ใน EU Official Journal L series โดยมีรายละเอียดดังนี้

    • วัตถุประสงค์: เพื่อกำหนดเขตควบคุม (restricted  zones) ให้มีความเป็นปัจจุบัน สอดคล้องกับสถานการณ์การระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรในประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป โดยคำนึงถึงข้อกำหนดสุขภาพสัตว์บก (Terrestrial Animal Health Code) ขององค์การอนามัยสัตว์โลก (World Organisation for Animal Health: WOAH)
    • ข้อกำหนดที่เกี่ยวข้อง: จากการระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรที่เพิ่มขึ้นในเขต Emilia Romagna อิตาลี เขต East Macedonia เขต Thrace กรีซ เขต Panevezio ลิทัวเนีย เขต Zachodniopomorskie เขต Pomorskie เขต Mazowieckie โปแลนด์ เขต Trenciansky เขต Nitriansky  สโลวาเกีย และเขต Dobeles ลัตเวีย ในช่วงเดือนธันวาคม 2567 – มกราคม 2568 คณะกรรมาธิการยุโรปจึงเห็นควรกำหนดเขตควบคุม (restricted  zones) ในประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป ดังนี้

               1. เขตควบคุม I (restricted zones I): ในจำนวน 11 ประเทศ (เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2567 ที่มี 10 ประเทศ) ได้แก่ ประเทศเยอรมนี เอสโตเนีย ลัตเวีย ฮังการี โปแลนด์ สโลวาเกีย อิตาลี เช็ก กรีซ โครเอเชีย และลิทัวเนีย

               2. เขตควบคุม II (restricted zones II): ในจำนวน 11 ประเทศ (ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2567 ที่มี 12 ประเทศ) ได้แก่ ประเทศบัลแกเรีย เยอรมนี เอสโตเนีย ลัตเวีย ลิทัวเนีย ฮังการี โปแลนด์    สโลวาเกีย อิตาลี เช็ก และกรีซ

               3. เขตควบคุม III (restricted zones III): ในจำนวน 6 ประเทศ (ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2567 ที่มี 9 ประเทศ) ได้แก่ ประเทศอิตาลี โปแลนด์ โรมาเนีย เยอรมนี กรีซ สโลวาเกีย และโครเอเชีย   

    • กฎระเบียบดังกล่าวมีผลบังคับใช้ 1 วัน หลังจากที่ประกาศใน EU Official Journal (ประกาศ ณ วันที่ 24 มกราคม 2568) เป็นต้นไป ทั้งนี้ รายละเอียดของกฎระเบียบดังกล่าว สามารถสืบค้นเพิ่มเติมได้จาก QR code

    สหภาพยุโรปออกมาตรการฉุกเฉินในกรณีการระบาดของโรคปากและเท้าเปื่อย(foot and mouth disease) ในประเทศเยอรมนี

    คณะกรรมาธิการยุโรปได้ประกาศ Commission Implementing Decision (EU) 2025/186 ว่าด้วย การกำหนดมาตรการฉุกเฉินชั่วคราวในกรณีการระบาดของโรคปากและเท้าเปื่อย (foot and mouth disease) ในประเทศเยอรมนี ใน EU Official Journal L series สรุปสาระสำคัญ ดังนี้  

    • วัตถุประสงค์: จากการระบาดของโรคปากและเท้าเปื่อย (foot and mouth disease) ในประเทศเยอรมนี คณะกรรมาธิการยุโรปเห็นควรกำหนดเขตป้องกัน (protection zones) และเขตเฝ้าระวัง (surveillance zones) ให้มีความเป็นปัจจุบัน สอดคล้องกับสถานการณ์การระบาดของโรคปากและเท้าเปื่อยในเดือนมกราคม 2568 ในเขต Brandenburg และ Berlin ประเทศเยอรมนี โดยคำนึงถึงข้อกำหนดสุขภาพสัตว์บก (Terrestrial Animal Health Code) ขององค์การอนามัยสัตว์โลก (World Organisation for Animal Health: WOAH)
    • ข้อกำหนดที่เกี่ยวข้อง: เขต Brandenburg กำหนดเขตป้องกัน (protection zones)  ให้มีผลไปจนถึงวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568 และเขตเฝ้าระวัง (surveillance zones) ให้มีผลไปจนถึงวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568
    • กฎระเบียบดังกล่าวมีผลบังคับใช้ในวันที่ประกาศใน EU Official Journal (ประกาศ ณ วันที่ 28 มกราคม 2568) เป็นต้นไป ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวให้ปรับใช้ไปจนถึงวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568 รายละเอียดของกฎระเบียบดังกล่าว สามารถสืบค้นเพิ่มเติมได้จาก QR code

    สหภาพยุโรปปรับปริมาณสารตกค้างสูงสุด (MRLs) ของสารปราบศัตรูพืชในสินค้าพืชและสัตว์

    0

    Commission Regulation  (EU)  2025/115  ว่าด้วย การปรับปริมาณสารตกค้างสูงสุด (MRLs) ของสารปราบศัตรูพืช 4 รายการ ได้แก่ สาร fluxapyroxad สาร lambda-cyhalothrin  สาร metalaxyl  และสาร nicotine ในสินค้าพืชและสัตว์ ใน EU Official Journal  L series ดังนี้

          คณะกรรมาธิการยุโรปเห็นควรปรับปริมาณสารตกค้างสูงสุด (MRLs) ของสารปราบศัตรูพืช 4 รายการ ได้แก่ สาร fluxapyroxad สาร lambda-cyhalothrin  สาร metalaxyl และสาร nicotine ในสินค้าพืชและสัตว์ ดังนี้

    1. สาร fluxapyroxad ปรับเพิ่มระดับค่า MRLs ในพืช ดังนี้ กากี/พลับญี่ปุ่น ที่ระดับ 0,2 มิลลิกรัม/กิโลกรัม เห็ดเพาะ ที่ระดับ 0,3 มิลลิกรัม/กิโลกรัม
    2. สาร  lambda-cyhalothrin ปรับเพิ่มระดับค่า MRLs ตามที่เม็กซิโกเสนอภายใต้ Import tolerance ในอาโวคาโด ที่ระดับ 0,15 มิลลิกรัม/กิโลกรัม ปรับเพิ่มค่า MRLs ในสัตว์ ดังนี้ สัตว์ปีก ที่ระดับ 0,03 มิลลิกรัม/กิโลกรัม ไข่นก ที่ระดับ 0,02 มิลลิกรัม/กิโลกรัม
    3. สาร metalaxyl  ปรับค่า MRLs ตามค่าที่ Codex กำหนด (CXLs) ในพืช ดังนี้ สับปะรด ที่ระดับ 0,1 มิลลิกรัม/กิโลกรัม โสมแห้ง ที่ระดับ 0,06 มิลลิกรัม/กิโลกรัม
    4. สาร nicotine ปรับเพิ่มระดับค่า MRLs เป็นการชั่วคราว ในเมล็ดกาแฟ ที่ระดับ 0,05 มิลลิกรัม/กิโลกรัม
    5. กฎระเบียบดังกล่าวมีผลบังคับใช้  20 วันหลังจากที่ประกาศใน EU Official Journal  (ประกาศ ณ วันที่ 22 มกราคม 2568) ทั้งนี้ รายละเอียดของกฎระเบียบดังกล่าวสามารถสืบค้นเพิ่มเติมได้จาก QR code

    สหภาพยุโรปอนุญาตสารออกฤทธิ์ที่มีความเสี่ยงต่ำในผลิตภัณฑ์อารักขาพืช

    0

    1. Commission Implementing Regulation (EU) 2025/103 ว่าด้วย การอนุญาตให้ Betabaculovirus phoperculellae เป็นสารออกฤทธิ์ที่มีความเสี่ยงต่ำในผลิตภัณฑ์อารักขาพืช ใน EU Official Journal L series โดยมีรายละเอียดดังนี้

        1) คณะกรรมาธิการยุโรปเห็นชอบให้ใช้ Betabaculovirus phoperculellae ซึ่งเป็นสารออกฤทธิ์ที่มีความเสี่ยงต่ำในผลิตภัณฑ์อารักพืช ตั้งแต่วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2568  –  12 กุมภาพันธ์ 2583

        2) กฎระเบียบดังกล่าวมีผลบังคับใช้ 20 วัน หลังจากที่ประกาศใน EU Official Journal (ประกาศ ณ วันที่ 23 มกราคม 2568) ทั้งนี้ รายละเอียดของกฎระเบียบดังกล่าวสามารถสืบค้นเพิ่มเติมได้จาก QR code

    2. Commission Implementing Regulation (EU) 2025/106 ว่าด้วย การอนุญาตให้ Bacillus subtilis strain RTI477 เป็นสารออกฤทธิ์ที่มีความเสี่ยงต่ำในผลิตภัณฑ์อารักขาพืช ใน EU Official Journal L series โดยมีรายละเอียดดังนี้

        1) คณะกรรมาธิการยุโรปเห็นชอบให้ใช้ Bacillus subtilis strain RTI477 ซึ่งเป็นสารออกฤทธิ์ที่มีความเสี่ยงต่ำในผลิตภัณฑ์อารักพืช ตั้งแต่วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2568  –  12 กุมภาพันธ์ 2583

        2) กฎระเบียบดังกล่าวมีผลบังคับใช้ 20 วัน หลังจากที่ประกาศใน EU Official Journal (ประกาศ ณ วันที่ 23 มกราคม 2568) ทั้งนี้ รายละเอียดของกฎระเบียบดังกล่าวสามารถสืบค้นเพิ่มเติมได้จาก QR code

    3. Commission Implementing Regulation (EU) 2025/109 ว่าด้วย การอนุญาตให้ Bacillus velezensis strain RTI301 เป็นสารออกฤทธิ์ที่มีความเสี่ยงต่ำในผลิตภัณฑ์อารักขาพืช ใน EU Official Journal L series โดยมีรายละเอียดดังนี้

        1) คณะกรรมาธิการยุโรปเห็นชอบให้ใช้ Bacillus velezensis strain RTI301 ซึ่งเป็นสารออกฤทธิ์ที่มีความเสี่ยงต่ำในผลิตภัณฑ์อารักพืช ตั้งแต่วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2568  –  12 กุมภาพันธ์ 2583

        2) กฎระเบียบดังกล่าวมีผลบังคับใช้ 20 วัน หลังจากที่ประกาศใน EU Official Journal (ประกาศ ณ วันที่ 23 มกราคม 2568) ทั้งนี้ รายละเอียดของกฎระเบียบดังกล่าวสามารถสืบค้นเพิ่มเติมได้จาก QR code

    สหภาพยุโรปอนุญาตให้หนอนนก (Tenebrio molitor larva) ในรูปผงที่ผ่านกรรมวิธีรังสียูวีขึ้นทะเบียนเป็นอาหารใหม่ (Novel food) 

    คณะกรรมาธิการยุโรปประกาศ Commission Implementing Regulation (EU) 2025/89 ว่าด้วย การอนุญาตให้วางจำหน่ายหนอนนก (Tenebrio molitor larva) เป็นอาหารใหม่ (novel food) ภายใต้ Regulation (EU) 2015/2283 ซึ่งเป็นการปรับแก้ Commission Implementing Regulation (EU) 2017/2470 ใน EU Official Journal L series โดยมีรายละเอียดดังนี้

    1. เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2562 บริษัท Nutri’Earth ของฝรั่งเศสได้ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมาธิการยุโรปเพื่อขอขึ้นทะเบียนหนอนนก (Tenebrio molitor larva/yellow mealworm)  ในรูปผงที่ผ่านกรรมวิธีรังสียูวี (UV-treated powder) เป็นอาหารใหม่ภายใต้ Regulation (EU) 2015/2283 มาตรา 10(1)
    2. หน่วยงานความปลอดภัยอาหารประจำสหภาพยุโรป (EFSA) พิจารณาแล้วเห็นว่า หนอนนก (Tenebrio molitor larva)  มีความปลอดภัยต่อการบริโภค และเป็นไปตามข้อกำหนดของ Regulation (EU) 2015/2283 ว่าด้วย อาหารใหม่ คณะกรรมาธิการยุโรปจึงเห็นชอบอนุญาตให้หนอนนกขึ้นทะเบียนเป็นอาหารใหม่บรรจุอยู่ใน Commission Implementing Regulation (EU) 2017/ 2470 โดยอนุญาตให้ใช้ในขนมปัง/โรล เค้ก ผลิตภัณฑ์จากพาสตา ผลิตภัณฑ์มันฝรั่งแปรรูป เนยแข็ง/ผลิตภัณฑ์เนยแข็ง และคอมโพท ผลไม้/ผัก และกำหนดสัดส่วนการบริโภคสูงสุด (Maximum levels) ระหว่าง 1 – 4 กรัม/100 กรัม (ขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์)
    3. คณะกรรมาธิการยุโรปกำหนดให้สินค้าที่มีส่วนผสมของหนอนนก (Tenebrio molitor larva)  ต้องติดฉลากโดยระบุว่า ‘สินค้าดังกล่าวสามารถก่อให้เกิดอาการแพ้ต่อผู้บริโภคที่เคยมีอาการแพ้ครัชเตเชียน (สัตว์จำพวกกุ้ง กั้ง และปู) และไรฝุ่น’ และ ‘มีส่วนผสมของวิตามิน ดี จากการผลิตที่ผ่านกรรมวิธีรังสียูวี’
    4. การขึ้นทะเบียนหนอนนก (Tenebrio molitor larva) เป็นอาหารใหม่เพื่อการบริโภคให้แก่บริษัทผู้ยื่นคำร้อง Nutri’Earth ของฝรั่งเศสในครั้งนี้  ไม่ได้ถือเป็นการกีดกันให้ผู้ยื่นคำร้องรายอื่น ๆ ไม่สามารถขอขึ้นทะเบียนสินค้าชนิดเดียวกันได้ หากข้อมูลที่ใช้ประกอบการยื่นคำร้องมีความถูกต้อง/ครบถ้วนเป็นไปตามกฎระเบียบ แม้ว่า บริษัท Nutri’Earth จะได้ยื่นขอการปกป้องข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่เป็นกรรมสิทธิ์ เป็นเวลา 5 ปี จนถึงวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2573
    5. ปัจจุบัน สหภาพยุโรอนุญาตหนอนนก (Tenebrio molitor larva) ขึ้นทะเบียนเป็นอาหารใหม่ให้แก่ผู้ยื่นคำร้องแล้วจำนวน 3 ราย ได้แก่ (1) บริษัท SAS EAP Group ประเทศฝรั่งเศส สหภาพยุโรปให้การอนุญาตเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2564 (2) ให้แก่บริษัท Fair Insects BV ประเทศเนเธอร์แลนด์ สหภาพยุโรปให้การอนุญาตเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565 และ (3) หนอนนกในรูปผงที่ผ่านกรรมวิธีรังสียูวี ให้แก่บริษัท Nutri’Earth ประเทศฝรั่งเศส สหภาพยุโรปให้การอนุญาตเมื่อวันที่ 21 มกราคม 2568
    6. กฎระเบียบดังกล่าวมีผลบังคับใช้ 20 วัน หลังจากที่ประกาศใน EU Official Journal (ประกาศ ณ วันที่ 21 มกราคม 2568) ทั้งนี้ รายละเอียดของกฎระเบียบดังกล่าว สามารถสืบค้นเพิ่มเติมได้จาก QR code

    สหภาพยุโรปขยายเวลาให้สารออกฤทธิ์ระหว่างรอผลประเมินต่ออายุการอนุญาต

    0

    คณะกรรมาธิการยุโรปประกาศ Commission Implementing Regulation (EU) 2025/99 ว่าด้วย การปรับปรุง Implementing Regulation (EU) No 540/2011 ด้านการขยายระยะเวลาการอนุญาตให้ Aureobasidium pullulans (strains DSM 14940 and DSM 14941), Bacillus amyloliquefaciens subsp. plantarum D747, benalaxyl-M, cyprodinil, dichlorprop-P, formetanate, fosetyl, halosulfuron-methyl, imazamox, milbemectin, phenmedipham, pirimicarb, Pseudomonas sp. strain DSMZ 13134, pyrimethanil, pyriofenone, pyroxsulam, spinosad, sulphur, Trichoderma harzianum Rifai strains T-22 and ITEM 908, Trichoderma asperellum (formerly T. harzianum) strains ICC012, T-25 and TV-1, Trichoderma atroviride (formerly T. harzianum) strain T11, Trichoderma gamsii (formerly T. viride) strain ICC080, triticonazole และ ziram ซึ่งเป็นสารออกฤทธิ์ ใน EU Official Journal L series โดยมีรายละเอียดดังนี้

            1. เนื่องจากการอนุญาตใช้สารออกฤทธิ์ (Active Substances) จำนวน 24 รายการ จะสิ้นสุดลงในช่วงวันที่ 31 มกราคม – 30 เมษายน 2568 ซึ่งการต่ออายุการอนุญาตใช้งานสารดังกล่าวยังอยู่ระหว่างการดำเนินการ ดังนั้น เพื่อมิให้การใช้สารดังกล่าวได้รับผลกระทบก่อนการประกาศผลการพิจารณา คณะกรรมาธิการยุโรปจึงเห็นควรให้ขยายระยะเวลาการใช้สารทั้ง 24 รายการ เป็นการชั่วคราว ดังนี้

               1.1 รายชื่อสารที่ได้รับอนุญาตขยายเวลาการใช้งานไปจนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2569

                     1) milbemectin                           

               1.2 รายชื่อสารที่ได้รับอนุญาตขยายเวลาการใช้งานไปจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2569

                      1) pyrimethanil                                                  

               1.3 รายชื่อสารที่ได้รับอนุญาตขยายเวลาการใช้งานไปจนถึงวันที่ 31 กรกฏาคม 2569

                      1) sulphur                            

               1.4 รายชื่อสารที่ได้รับอนุญาตขยายเวลาการใช้งานไปจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2569

                      1) phenmedipham                           2) formetanate         

               1.5 รายชื่อสารที่ได้รับอนุญาตขยายเวลาการใช้งานไปจนถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2569

                     1) pirimicarb                                   4) dichlorprop-P       

                     2) cyprodinil                                   5) spinosad

                     3) fosetyl                            

               1.6 รายชื่อสารที่ได้รับอนุญาตขยายเวลาการใช้งานไปจนถึงวันที่ 15 พฤศจิกายน 2569

                     1) halosulfuron-methyl

               1.7 รายชื่อสารที่ได้รับอนุญาตขยายเวลาการใช้งานไปจนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2569

                     1) Trichoderma atroviride (formerly T. harzianum) strain T11                                         2) Trichoderma harzianum Rifai strains T-22 and ITEM 908

                     3) Trichoderma asperellum (formerly T. harzianum) strains ICC012, T-25 and TV-1

                     4) Trichoderma gamsii (formerly T. viride) strain ICC080

               1.8 รายชื่อสารที่ได้รับอนุญาตขยายเวลาการใช้งานไปจนถึงวันที่ 31 มกราคม 2570

                      1) ziram                                            2) triticonazole        

                                                                                                              

                1.9 รายชื่อสารที่ได้รับอนุญาตขยายเวลาการใช้งานไปจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2570

                     1) Pseudomonas sp. strain DSMZ 13134   

                     2) Aureobasidium pullulans (strains DSM 14940 and DSM 14941)   

                     3) pyriofenone                              4) imazamox

               1.10 รายชื่อสารที่ได้รับอนุญาตขยายเวลาการใช้งานไปจนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2570

                        1) Bacillus amyloliquefaciens subsp. plantarum D747                                                                                                

               1.11 รายชื่อสารที่ได้รับอนุญาตขยายเวลาการใช้งานไปจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2570

                       1) benalaxyl-M                           2) pyroxsulam

            2. คณะกรรมาธิการยุโรปได้กำหนดเงื่อนไขการควบคุมการขยายเวลาดังนี้

               2.1 ในกรณีที่คณะกรรมาธิการยุโรปพิจารณาแล้วเห็นควรไม่อนุญาตให้ต่ออายุการใช้สารนั้น ๆ ให้คณะกรรมาธิการยุโรปปรับใช้วันสิ้นสุดของการอนุญาตเดิม หรือวันที่กฎระเบียบการระงับการใช้สารนั้น ๆ มีผลบังคับใช้

               2.2 ในกรณีที่คณะกรรมาธิการยุโรปพิจารณาแล้วเห็นควรอนุญาตต่ออายุการใช้สารนั้น ๆ ให้คณะกรรมาธิการยุโรปดำเนินการกำหนดวันที่มีผลปรับใช้โดยเร็วที่สุด

            3. กฎระเบียบดังกล่าวมีผลบังคับใช้ 3 วัน หลังจากที่ประกาศใน EU Official Journal (ประกาศ ณ วันที่ 22 มกราคม 2568) ทั้งนี้ รายละเอียดของกฎระเบียบดังกล่าว สามารถสืบค้นเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ ดังนี้