ด้วยเมื่อวันที่ 10 – 12 ธันวาคม 2567 กรรมาธิการเกษตรและพัฒนาชนบทแห่งสหภาพยุโรป (DG AGRI) ได้จัดการประชุมสัมมนา The 2024 EU Agricultural Outlook Conference ภายใต้หัวข้อ « ความสำเร็จและทิศทางในอนาคต (Achievements and future directions) » เกี่ยวข้องกับแนวทางการผลิตสินค้าเกษตร-อาหารของสหภาพยุโรปในอนาคต มีผู้เข้าร่วมการประชุม 3,500 ราย จาก 56 ประเทศ สรุปสาระสำคัญดังนี้
เป้าหมายของสหภาพยุโรป: นาง Ursula von der Leyen ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป กล่าวในพิธีเปิดงานต่อการให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อภาคการผลิตสินค้าเกษตร-อาหารในสหภาพยุโรป เพื่อนำไปสู่ระบบอาหารที่ยั่งยืน (sustainable food system) โดยกำหนดยุทธศาสตร์สำคัญ 3 ประการ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในสหภาพยุโรป ได้แก่ (1) การช่วยลดหย่อนภาระทางการดำเนินการ (administrative burden) (2) การให้ความสำคัญต่อห่วงโซ่คุณค่า (value chain) การกำหนดราคาตลาดไม่ให้ต่ำกว่าราคาต้นทุนการผลิต และต่อต้านการค้าที่ไม่เป็นธรรม (anti-unfair trade) และ (3) การสนับสนุนให้เกษตรกรรุ่นใหม่หันมายึดมั่นในอาชีพเกษตรกรรมเพิ่มมากขึ้น โดยสร้างแรงจูงใจการมีรายได้ที่เป็นธรรม การมีสิทธิในที่ดิน และเข้าถึงเงินทุนในการทำเกษตรกรรม
แนวทางการผลิตที่ยั่งยืน: ภายใต้นโยบายเกษตรร่วม (CAP) ฉบับประจำปี 2023 – 2037 ในปี 2567 สหภาพยุโรปมุ่งเน้นสนับสนุนเกษตรกรหนุ่ม-สาวให้หันมายึดการทำเกษตรกรรมมากยิ่งขึ้น ซึ่งในปัจจุบันเกษตรกรส่วนใหญ่ในสหภาพยุโรปเป็นกลุ่มผู้มีอายุมากกว่า 40 ปี โดยเกษตรกรที่มีอายุน้อยกว่า 40 ปี มีเพียงร้อยละ 12 โดยสหภาพยุโรปใช้งบประมาณร้อยละ 25 เป็นการจ่ายเงินช่วยเหลือโดยตรง (direct payment) ให้แก่เกษตรกรเพื่อผลักดันให้เกษตรกรรุ่นใหม่ยึดแนวทางการทำเกษตรกรรมที่ยั่งยืน ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยลง ตลอดจนเร่งนำความรู้ เทคโนโลยี นวัตกรรมที่ทันสมัยมาใช้ปรับปรุงระบบการทำฟาร์มให้ดีขึ้น การลดการพึ่งพาสารปราบศัตรูพืชและยาต้านจุลชีพในสัตว์ การพัฒนาสวัสดิภาพสัตว์ และการสนับสนุนการทำเกษตรกรรมอินทรีย์ให้เพิ่มมากขึ้นในสหภาพยุโรป
การสนับสนุนเกษตรกรในสหภาพยุโรป: ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา เกษตรกรในสหภาพยุโรปได้รับผลกระทบจาก Covid-19 สงครามรัสเซีย-ยูเครน และอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งที่ประชุมได้เชิญเกษตรกรจากประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป อาทิ ออสเตรีย โปแลนด์ เช็ก เนเธอร์แลนด์ บัลแกเรีย สเปน ไอร์แลนด์ สวีเดน เอสโตเนีย และกรีซ ซึ่งต่างเรียกร้องให้สหภาพยุโรปให้ความช่วยเหลือและความสนับสนุนในเรื่องการต่อสู้กับภาวะสภาพอากาศแปรปรวน (ภัยแล้ง น้ำท่วม) นวัตกรรม (innovation) และเครื่องมือดิจิทัลทางการเกษตร (digitalisation) ที่ทันสมัย ให้การสนับสนุนกลุ่มเกษตรกรและสหกรณ์ในสหภาพยุโรปให้มีความเข้มแข็ง อุดหนุนเงินช่วยเหลือให้แก่ฟาร์มขนาดเล็ก กำหนดราคาสินค้าเกษตร-อาหารที่มีความยุติธรรมกับเกษตรกรในการต่อสู้กับสินค้าประเภทเดียวกันที่นำเข้าจากประเทศที่สาม รวมถึงการณรงค์ให้ผู้บริโภคซื้อสินค้าอาหารท้องถิ่น (local) มากยิ่งขึ้น มาตรการบรรเทาผลกระทบจากกฎระเบียบ CBAM ที่เกษตรกรในสหภาพยุโรปต้องจ่ายค่าปุ๋ยในราคาที่สูงขึ้น และแนวทางป้องกันผลกระทบจากข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหภาพยุโรป-กลุ่มประเทศละตินอเมริกา Mercosur ที่จะทำให้สินค้าเนื้อวัว เนื้อสัตว์ปีก น้ำผึ้ง และถั่วเหลือง เข้ามาตีตลาด
ในสหภาพยุโรปในอนาคต
การวิจัยและนวัตกรรมสู่ความยั่งยืน: ให้แก่การผลิตสินค้าเกษตร-อาหารของสหภาพยุโรป ครอบคลุมการศึกษาวิจัยผ่านโครงการ Horizon 2020 อาทิ โครงการ TOMRES เทคโนโลยีการปลูกมะเขือเทศในภาวะแล้ง โดยระบบเซ็นเซอร์ร่วมกับใช้แบคทีเรีย Rhizobial เพื่อพัฒนาสภาพดิน โครงการ NOMAD คิดค้นปุ๋ยธรรมชาติ (Bio-fertilizer) ทดลองใช้ในฟาร์มที่มอลต้าและสหราชอาณาจักร โดยพบว่าให้ผลดีเทียบเท่าปุ๋ยเคมี โครงการ EXCALIBUR ใช้วิธีเติมเชื้อแบคทีเรีย (bacterial inoculants) ในการเพาะปลูกเพื่อลดการใช้สารเคมี โครงการ VIVALDI เครื่องมือตรวจสอบโรคสัตว์ได้อย่างฉับพลัน อาทิ โรคไข้หวัดนกและเชื้อซัลโมแนลลา และโครงการ RUBIZMO platform ซึ่งผู้บริโภคสามารถสั่งซื้อปลากับชาวประมงในสหภาพยุโรปได้โดยตรง
แนวโน้มการบริโภคเนื้อสัตว์/ผักและผลไม้ในอนาคต: จากสถิติ 2024 EU Agricultural Outlook Report โดย DG AGRI ระบุว่า สหภาพยุโรปผลิตอาหารได้เพียงพอต่อการบริโภคในประเทศ แต่ยังคงต้องพึ่งพาการนำเข้าสินค้าอาหารทะเลจากประเทศที่สาม โดยมีแนวโน้มการบริโภค ดังนี้
– แนวโน้มการบริโภคเนื้อสัตว์โดยรวมของชาวยุโรปในปี 2035 เรียงตามลำดับ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์นม ร้อยละ 42 เนื้อสุกร ร้อยละ 23 เนื้อสัตว์ปีก ร้อยละ 19 เนื้อวัว ร้อยละ 8 และไข่ ร้อยละ 7 ซึ่งมีแนวโน้มค่อนข้างคงที่ ยกเว้นการบริโภคเนื้อสัตว์ปีก ที่จะมีปริมาณเพิ่มขึ้นร้อยละ 2
– แนวโน้มการบริโภคผักและผลไม้โดยรวมของชาวยุโรปในปี 2035 อยู่ที่ปริมาณ 85 กิโลกรัม/คน/ปี โดยมีความนิยมบริโภคมะเขือเทศ แอปเปิ้ล แพร์/เนคทารีน และส้ม
ทั้งนี้ รายละเอียดเพิ่มเติม สามารถศึกษาได้จากเว็บไซต์ ดังนี้