คณะกรรมาธิการยุโรปประกาศ Commission Implementing Regulation (EU) 2025/486 ว่าด้วย การกำหนดเงื่อนไขและกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการขึ้นสถานะเป็นผู้สำแดง CBAM ที่ได้รับอนุญาต (authorised CBAM declarant) ภายใต้กฎระเบียบกลไกการปรับคาร์บอนข้ามพรมแดนของสหภาพยุโรป (Carbon Border Adjustment Mechanism: CBAM) ใน EU Official Journal L series โดยสรุปสาระสำคัญ ดังนี้
- กระบวนการยื่นคำร้อง (procedures for application): การยื่นคำร้องเพื่อขอเป็นผู้สำแดง CBAM ที่ได้รับอนุญาต (authorised CBAM declarant) กำหนดให้กระทำผ่านระบบทะเบียน CBAM (CBAM Registry) ในรูปอิเล็กทรอนิกส์ สำหรับผู้ประกอบการที่มีสถานการผลิตในประเทศที่สามต้องแจ้งที่อยู่ในประเทศที่สาม ที่ตั้งสถานการผลิต และหมายเลข EORI ในประเทศสมาชิกที่ยื่นคำร้อง
- การปรับเปลี่ยนคำร้องที่ส่งไปแล้ว (adjustments to the submitted application): ผู้ยื่นคำร้องเพื่อขอเป็นผู้สำแดง CBAM ที่ได้รับอนุญาต สามารถขอปรับเปลี่ยนข้อมูลในคำร้องที่ส่งไปแล้วได้ โดยทำการแจ้งหน่วยงานผู้รับผิดชอบหลักทราบ ซึ่งหน่วยงานผู้รับผิดชอบหลักสามารถขยายเวลาการพิจารณาไปอีก 30 วัน และหากพบว่า การขอปรับเปลี่ยนมีนัยยะที่สำคัญ ก็สามารถขอให้ผู้ยื่นคำร้องทำการยื่นคำร้องใหม่อีกครั้ง
- การถอนคำร้องหลังจากเริ่มกระบวนการปรึกษาหารือ (withdrawal of application after the consultation procedure has been initiated): ในกรณีที่ผู้ยื่นคำร้องขอถอนคำร้องหลังจากเริ่มกระบวนการปรึกษาหารือตามมาตรา 11(1) หน่วยงานผู้รับผิดชอบหลักจะต้องยุติกระบวนการปรึกษาหารือและแจ้งให้หน่วยงานผู้รับผิดชอบหลักในประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปอื่นๆ และคณะกรรมาธิการยุโรปทราบ
- การประเมินคำร้องโดยหน่วยงานผู้รับผิดชอบหลัก (assessment of the application by the competent authority): หน่วยงานผู้รับผิดชอบหลักจะประเมินคำร้องภายใน 120 วันปฏิทินนับจากวันที่ได้รับคำร้อง ตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในมาตรา 17(2) Regulation (EU) 2023/956 โดยจะพิจารณาจากข้อสรุปของผู้เชี่ยวชาญ ข้อสรุปของบุคคลที่สาม และการตรวจสอบที่กระทำโดยผู้ยื่นคำร้อง
ในกรณีที่ผู้ยื่นคำร้องไม่ได้ตั้งอยู่ในประเทศสมาชิกที่ยื่นคำร้อง หน่วยงานผู้รับผิดชอบหลักจะปฏิเสธคำร้องโดยแจ้งให้ผู้ยื่นคำร้องทราบถึงการปฏิเสธและเหตุผลดังกล่าว
ทั้งนี้ สำหรับคำร้องเพื่อขอเป็นผู้สำแดง CBAM ที่ได้รับอนุญาต ที่ยื่นก่อนวันที่ 15 มิถุนายน 2568 หน่วยงานผู้รับผิดชอบหลักจะใช้เวลาพิจารณาคำร้องภายใน 180 วันปฏิทิน
5. การเรียกขอข้อมูลเพิ่มเติมโดยหน่วยงานผู้รับผิดชอบหลัก (request for additional information by the competent authority): หน่วยงานผู้รับผิดชอบหลักสามารถเรียกขอข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้ยื่นคำร้องที่จำเป็นสำหรับการประเมินเงื่อนไขและการปฏิบัติตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในมาตรา 17(2) Regulation (EU) 2023/956 โดยผู้ยื่นคำร้องต้องส่งมอบข้อมูลดังกล่าวภายใน 30 วันปฏิทิน และหน่วยงานผู้รับผิดชอบหลักสามารถขยายเวลาในการประเมินคำร้องหลังจากที่ได้ข้อมูลเพิ่มเติมได้ 30 วันปฏิทินหรือรวมแล้วไม่เกินกว่า 180 วันปฏิทินนับจากวันที่ได้รับคำร้อง
6. การตัดสินเชิงลบที่ตั้งใจและการอุทธรณ์ (intended negative decision and appeal): เมื่อหน่วยงานผู้รับผิดชอบหลักมีเจตนาที่จะปฏิเสธการอนุญาตให้สถานะผู้สำแดง CBAM ทางหน่วยงานผู้รับผิดชอบหลักจะแจ้งให้ผู้ยื่นคำร้องทราบและให้ผู้ยื่นคำร้องได้มีโอกาสส่งข้อสังเกตการณ์ (observations) ที่มีต่อการปฏิเสธดังกล่าวได้ภายใน 30 วันปฏิทิน หลังจากนั้นจึงจะระบุผลการปฏิเสธลงในระบบทะเบียน CBAM
7. วันที่การตัดสินคำร้องมีผลบังคับใช้ (date of effect of a decision on the application): การตัดสินเกี่ยวกับการยื่นคำร้องจะมีผลบังคับใช้ในวันที่หน่วยงานผู้รับผิดชอบหลักลงผลการตัดสินดังกล่าวในระบบทะเบียน CBAM และผู้ยื่นคำร้องได้รับแจ้งเกี่ยวกับการตัดสินผ่านทางทะเบียน CBAM
ในกรณีที่มีการเรียกขอหลักประกัน (guarantee) ตามมาตรา 17(5) Regulation (EU) 2023/956 การตัดสินจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ลงทะเบียนหลักประกันเรียบร้อยแล้ว ตามมาตรา 13 Regulation (EU) 2025/486
8. การระบุอัตลักษณ์ผู้นำเข้าไฟฟ้า (identification of importers of electricity): บุคคลที่ได้รับการจัดสรรในการนำเข้าไฟฟ้า ตามมาตรา 5(4) Regulation (EU) 2023/956 จะต้องจัดเตรียมเอกสารให้กับหน่วยงานผู้รับผิดชอบหลักภายใน 1 เดือนหลังจากยื่นสำแดงศุลกากรตามมาตรา 5(4) Regulation (EU) 2023/956
9. การละเมิดร้ายแรงหรือซ้ำๆ (serious or repeated infringements): เกณฑ์ที่กำหนดไว้ในมาตรา 17(2)(a) Regulation (EU) 2023/956 ผู้ยื่นคำร้อง บุคคลที่รับผิดชอบต่อการยื่นคำร้อง CBAM บุคคลที่รับผิดชอบต่อผู้ยื่นคำร้อง และบุคคลที่ดูแลควบคุมการจัดการของผู้ยื่นคำร้อง ต้องมีเงื่อนไขดังต่อไปนี้
- ไม่มีการตัดสินใด ๆ หลังจากกระบวนการทางปกครองหรือทางตุลาการที่สรุปว่า บุคคลดังกล่าวมีส่วนเกี่ยวข้องกับการละเมิดกฎหมายศุลกากร กฎภาษี กฎการฉ้อโกงตลาด ภายใต้ Regulation (EU) 2023/956 หรือภายใต้กฎหมายลำดับรองที่บังคับใช้ภายใต้ Regulation ดังกล่าวอย่างร้ายแรงหรือซ้ำๆ ในช่วง 3 ปีก่อนการยื่นคำร้อง
- ไม่มีประวัติการกระทำความผิดทางอาญาร้ายแรงเกี่ยวกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจ (economic activities) ในช่วง 5 ปี ก่อนยื่นคำร้อง
- ในกรณีที่ผู้ยื่นคำร้องมีการจัดตั้งมาไม่ถึง 5 ปี หน่วยงานผู้รับผิดชอบหลักของประเทศสมาชิกที่ตั้งจะประเมินคำร้องโดยพิจารณาจากบันทึกและข้อมูลที่มีอยู่
- หน่วยงานผู้รับผิดชอบหลักที่จะต้องเรียกขอข้อมูลต่อไปนี้ หากจำเป็นเพื่อยืนยันว่า ผู้ยื่นคำร้องไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการละเมิดที่ร้ายแรงหรือซ้ำๆ ตามที่ระบุในมาตรา 17(2)(a) Regulation (EU) 2023/956
(ก) ประวัติอาชญากรรมหรือเอกสารอื่นใดที่ได้รับการยอมรับภายใต้กฎหมายแห่งชาติว่าเป็นประวัติอาชญากรรมของบุคคลธรรมดาที่ยื่นคำขออนุญาต
(ข) ประวัติอาชญากรรมหรือเอกสารอื่นใดที่ได้รับการยอมรับภายใต้กฎหมายแห่งชาติว่าเป็นประวัติอาชญากรรมของเจ้าของผลประโยชน์ของนิติบุคคลที่เป็นผู้ยื่นคำร้องและผู้จัดการของนิติบุคคลนั้น
– ในกรณีที่หน่วยงานผู้รับผิดชอบหลักเรียกขอประวัติอาชญากรรมหรือเอกสารอื่นใดที่ได้รับการยอมรับภายใต้กฎหมายแห่งชาติว่าเป็นประวัติอาชญากรรมตามที่กล่าวถึงข้างต้น ให้เก็บบันทึกเอกสารดังกล่าวไว้เฉพาะระหว่างการอุทธรณ์ตามมาตรา 6(5) เท่านั้น และให้จำกัดการเข้าถึงประวัติอาชญากรรมเฉพาะบุคคลที่รับผิดชอบของหน่วยงานรับผิดชอบหลักในเรื่องดังกล่าว
10. เงื่อนไขความสามารถทางการเงินและการดำเนินงาน (conditions for financial and operational capacity): เกณฑ์ที่กำหนดไว้ในมาตรา 17(2)(b) Regulation (EU) 2023/956 จะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขต่อไปนี้:
- ผู้ยื่นคำร้องไม่ได้อยู่ภายใต้กระบวนการล้มละลาย
- ผู้ยื่นคำร้องไม่มีหนี้ค้างชำระภาษีศุลกากร ภาษีหรือค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจาก หรือเกี่ยวข้องกับการนำเข้าสินค้าและภาระผูกพันด้านกฎระเบียบทางการเงิน
- ผู้ยื่นคำร้องแสดงสถานะทางการเงินที่เพียงพอในการปฏิบัติตามภาระผูกพันและปฏิบัติตามพันธกรณีโดยคำนึงถึงประเภทและปริมาณของกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ดำเนินการ โดยระบุตัวเลขทางการเงินและข้อมูลทางการเงินอื่นๆ
- ผู้ยื่นคำร้องมีองค์กรบริหารที่เหมาะสมสำหรับการปฏิบัติตามภาระผูกพันที่คาดว่าจะต้องส่งมอบ ใบรับรอง CBAM (CBAM certificates) และมีการควบคุมภายในที่สามารถป้องกัน ตรวจจับ และแก้ไขข้อผิดพลาดในการสำแดง CBAM และการจัดการใบรับรอง CBAM และป้องกันและตรวจจับธุรกรรมที่ผิดกฎหมายหรือผิดปกติ
- หากผู้ยื่นคำร้องจัดตั้งมาไม่ถึง 2 ปี ความสามารถทางการเงินตามที่อ้างถึงในมาตรา 17(2)(b) Regulation (EU) 2023/956 จะต้องได้รับการตรวจสอบและประเมินบนพื้นฐานของบันทึกและข้อมูลที่มีอยู่ 11. ขั้นตอนปรึกษาหารือและแบบฟอร์ม/รูปแบบในการให้การอนุญาต (consultation procedure and format for granting an autorisation): หน่วยงานผู้รับผิดชอบหลักจะเริ่มต้นขั้นตอนการปรึกษาหารือในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ผ่านทะเบียน CBAM โดยเกี่ยวข้องกับฝ่ายที่ได้รับการปรึกษาหารือตามที่อ้างถึงในมาตรา 17(1) วรรคย่อยที่สองของ Regulation (EU) 2023/956 (ขั้นตอนการปรึกษาหารือ) ภายใน 45 วันปฏิทินนับจากวันที่ได้รับคำร้องในระหว่างขั้นตอนการปรึกษาหารือจะเกี่ยวกับเรื่องต่อไปนี้:
(ก) การมีข้อโต้แย้งใดๆ ต่อการให้สถานะผู้สำแดง CBAM ที่ได้รับอนุญาต
(ข) ผู้ยื่นคำร้องได้ยื่นคำร้องขออนุญาตในประเทศสมาชิกของตนหรือไม่
(ค) ผู้ยื่นคำร้องได้รับอนุญาตในประเทศสมาชิกของตนหรือไม่
(ง) ผู้ยื่นคำร้องถูกเพิกถอนการอนุญาตในประเทศสมาชิกของตนหรือไม่
หน่วยงานผู้รับผิดชอบหลักสามารถขอข้อมูลและเอกสารเพิ่มเติมจากฝ่ายที่ปรึกษา ซึ่งจะต้องส่งมอบให้ภายใน 5 วันทำการ
12.ระยะเวลาการปรึกษาหารือ (period of consultation) : หน่วยงานผู้รับผิดชอบหลักจะกำหนดวันสิ้นสุด (deadline) สำหรับฝ่ายที่ขอคำปรึกษาในการให้ข้อสังเกตตามมาตรา 11(3)
- วันสิ้นสุด ซึ่งจะต้องไม่เกิน 5 วันทำการ หากข้อมูลที่ให้ไว้ในคำร้อง ระบุปริมาณการนำเข้าสินค้าต่อปีโดยประมาณ เท่ากับหรือน้อยกว่า 1 ตัน
- วันสิ้นสุด ซึ่งจะต้องไม่เกิน 15 วันทำการ หากตามข้อมูลที่ให้ไว้ในคำร้อง ระบุปริมาณการนำเข้าสินค้าต่อปีโดยประมาณ เกินกว่า 1 ตัน
- หน่วยงานผู้รับผิดชอบหลักสามารถขยายวันสิ้นสุดที่กำหนดไว้สำหรับการปรึกษาหารือ ในกรณีใดกรณีหนึ่งต่อไปนี้:
– ผู้ยื่นคำร้องขอการปรับเปลี่ยนตามมาตรา 2 ที่ได้รับการยอมรับจากหน่วยงานผู้รับผิดชอบหลักและ เกี่ยวข้องกับวัตถุประสงค์ของการปรึกษาหารือ
– ฝ่ายที่ขอคำปรึกษาร้องขอเวลาเพิ่มเติมเนื่องจากลักษณะของการตรวจสอบที่จะดำเนินการ
– การขยายเวลาจะต้องไม่เกิน 15 วันทำการ
13. การเตรียมการให้หลักประกัน (provision of a guarantee): หากจำเป็นต้องมีการจัดเตรียมการให้หลักประกันตามมาตรา 17(5) Regulation (EU) 2023/956 ผู้ยื่นคำร้องจะต้องจัดเตรียมการให้หลักประกันกับหน่วยงานผู้รับผิดชอบหลัก ซึ่งหน่วยงานผู้รับผิดชอบหลักจะต้องลงทะเบียนหลักประกันดังกล่าวในทะเบียน CBAM
14. การติดตามหลักประกัน (monitoring the guarantee) : หน่วยงานผู้รับผิดชอบหลักในการให้สถานะผู้สำแดง CBAM ที่ได้รับอนุญาตจะต้องติดตามการให้หลักประกัน โดยผู้สำแดง CBAM ที่ได้รับอนุญาตจะต้องแน่ใจว่า หลักประกันนั้นอยู่ในระดับที่เพียงพอและอยู่ที่ระดับคงที่ที่จะครอบคลุมจำนวนใบรับรอง CBAM ที่ผู้สำแดง CBAM ที่ได้รับอนุญาตจะต้องส่งมอบตามมาตรา 22 Regulation (EU) 2023/956 ตามปริมาณสินค้าที่นำเข้าเมื่อเปรียบเทียบกับการประมาณการที่กระทำขึ้นตามมาตรา 5(5)(g) Regulation (EU) 2023/956 ทั้งนี้ หน่วยงานผู้รับผิดชอบหลักสามารถประเมินจำนวนเงินค้ำประกันใหม่ เพื่อปรับจำนวนเงินค้ำประกันให้สอดคล้องกับมาตรา 16 Regulation (EU) 2025/486 และมาตรา 17(6) Regulation (EU) 2023/956
15. การยอมรับหลักประกันรูปแบบอื่น ๆ (acceptance of other forms of guarantee): หน่วยงานผู้รับผิดชอบหลักต้องแจ้งให้คณะกรรมาธิการยุโรปทราบในกรณีที่มีการยอมรับรูปแบบการให้หลักประกันอื่น ๆ ตามมาตรา 17(5) วรรคที่สอง Regulation (EU) 2023/956
16. การปรับหลักประกันให้สอดคล้องกับสินค้าที่นำเข้า (adjustment of guarantee): ในกรณีที่หน่วยงานผู้รับผิดชอบหลักเห็นควรต้องปรับหลักประกันเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดในมาตรา 17(6) Regulation (EU) 2023/956 หน่วยงานผู้รับผิดชอบหลักดังกล่าวจะต้องกำหนดให้ผู้สำแดง CBAM ที่ได้รับอนุญาตปรับหลักประกันในทันที การตัดสินในการปรับจำนวนหลักประกันจะต้องพิจารณาจากจำนวนสินค้าที่นำเข้าที่สำแดงต่อศุลกากรและข้อมูลที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ที่หน่วยงานผู้รับผิดชอบหลักเข้าถึงได้ ซึ่งผู้สำแดง CBAM จะต้องจัดเตรียมหลักประกันที่ปรับแล้วภายในระยะเวลาที่หน่วยงานผู้รับผิดชอบหลักกำหนด ซึ่งจะต้องไม่เกิน 2 เดือนนับจากวันที่ได้รับแจ้ง และหน่วยงานที่มีอำนาจจะต้องลงทะเบียนหลักประกันที่ปรับใหม่แล้วในทะเบียน CBAM ในทันทีและสามารถขยายเวลาการปรับได้ไม่เกิน 3 เดือน หากผู้สำแดง CBAM ได้ยื่นคำขอที่มีเหตุผล
ในกรณีที่ผู้สำแดง CBAM ไม่ทำการปรับหลักประกันตามที่ได้รับแจ้งภายในกำหนดเวลาตามที่กำหนดไว้ หน่วยงานผู้รับผิดชอบหลักสามารถเริ่มขั้นตอนการเพิกถอนตามที่อ้างถึงในมาตรา 22 Regulation (EU) 2023/956 ได้
17. ข้อมูลการอนุญาต (autorisation information): การตัดสินให้สถานะผู้สำแดง CBAM ที่ได้รับอนุญาตจะต้องมีข้อมูลอย่างน้อยตามที่ระบุไว้ในภาคผนวก (Annex) Regulation (EU) 2025/486 โดยการอนุญาตจะขึ้นสถานะว่า “ใช้งานอยู่ (active)” ในทะเบียน CBAM และหมายเลขบัญชี CBAM ที่กำหนดตามมาตรา 16(1) Regulation (EU) 2023/956 จะต้องระบุ ชื่อประเทศสมาชิกที่หน่วยงานผู้รับผิดชอบหลักนั้นเป็นผู้อนุญาตให้สถานะผู้สำแดง CBAM ดังกล่าว
18. การประเมินสถานะผู้ยื่นคำประกาศ CBAM ที่ได้รับอนุญาตใหม่ (reassessment of the status of authorised CBAM declarant): หน่วยงานผู้รับผิดชอบหลักที่ให้สถานะผู้สำแดง CBAM ที่ได้รับอนุญาตจะต้องประเมินสถานะใหม่เป็นระยะ และอย่างน้อยในกรณีต่อไปนี้:
- ข้อมูลที่ผู้สำแดง CBAM ที่ได้รับอนุญาตให้ไว้ตามมาตรา 5(7) Regulation (EU) 2023/956 มีการเปลี่ยนแปลง
- หน่วยงานผู้รับผิดชอบหลักมีข้อมูลที่บ่งชี้ว่า เงื่อนไขที่อ้างถึงในมาตรา 22(2) Regulation (EU) 2023/956 อาจไม่เป็นไปตามนั้นอีกต่อไป
- หน่วยงานผู้รับผิดชอบหลักมีข้อมูลที่บ่งชี้ว่า การให้สถานะผู้สำแดง CBAM ที่ได้รับอนุญาตอาจไม่เป็นไปตามเกณฑ์ตามมาตรา 17(2) Regulation (EU) 2023/956
- หมายเลข EORI ถือเป็นโมฆะตามมาตรา 9(4) Regulation (EU) 952/2013
- หน่วยงานผู้รับผิดชอบหลักในประเทศสมาชิกอื่นที่ไม่ใช่หน่วยงานผู้รับผิดชอบหลักที่ให้สถานะผู้สำแดง CBAM ที่ได้รับอนุญาต และคณะกรรมาธิการยุโรปจะแจ้งให้หน่วยงานผู้รับผิดชอบหลักดังกล่าวทราบในทันที หากผู้สำแดง CBAM ที่ได้รับอนุญาตมีส่วนเกี่ยวข้องกับการละเมิดกฎหมายศุลกากร กฎภาษี หรือกฎการฉ้อโกงตลาดอย่างร้ายแรงหรือซ้ำๆ ตามมาตรา 17(2)(a) Regulation (EU) 2023/956
19.ข้อสรุปจากการประเมินใหม่ (conclusions of the reassessment) : เมื่อการประเมินใหม่ตามที่ระบุในมาตรา 18 หน่วยงานผู้รับผิดชอบหลักซึ่งเป็นผู้ให้สถานะแก่ผู้สำแดง CBAM ที่ได้รับอนุญาต ลงความเห็นว่า ต้องปรับเปลี่ยนสถานะของผู้สำแดง CBAM ที่ได้รับอนุญาต หน่วยงานดังกล่าวจะต้องแจ้งข้อสรุปของตนให้ผู้สำแดง CBAM ทราบในทันที ซึ่งผู้สำแดง CBAM ที่ได้รับอนุญาตสามารถตอบกลับการแจ้งดังกล่าวได้ภายใน 30 วันปฏิทินนับจากวันที่ได้รับแจ้ง หน่วยงานผู้รับผิดชอบหลักจะสามารถเริ่มขั้นตอนการเพิกถอนสถานะของผู้สำแดง CBAM ที่ได้รับอนุญาตตามมาตรา 22 Regulation (EU) 2025/486 โดยการสรุปจะคำนึงถึงข้อสังเกตการณ์ที่ผู้สำแดง CBAM ที่ได้รับอนุญาตแจ้งให้ทราบ ซึ่งพบว่า ผู้สำแดง CBAM ที่ได้รับอนุญาตไม่ปฏิบัติตรงตามเกณฑ์และเงื่อนไขในการขออนุญาตตามมาตรา 17 Regulation (EU) 2023/956 อีกต่อไป
20. บทบัญญัติทั่วไปเกี่ยวกับการเพิกถอนสถานะผู้ประกาศ CBAM ที่ได้รับอนุญาต (general provisions on revocation of the status of authorised CBAM declarant): บุคคลซึ่งถูกเพิกถอนสถานะผู้สำแดง CBAM ที่ได้รับอนุญาตจะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดในการยื่นคำสำแดง CBAM ตามมาตรา 6 Regulation (EU) 2023/956 สำหรับสินค้าที่นำเข้าก่อนการเพิกถอน ทั้งนี้ บุคคลซึ่งถูกเพิกถอนสถานะผู้สำแดง CBAM ที่ได้รับอนุญาตสามารถยื่นคำขออนุญาตใหม่ได้ตลอดเวลา หากปฏิบัติตามข้อกำหนดที่กล่าวถึงในมาตรา 6 ข้างต้น
21. ขั้นตอนการเพิกถอนเมื่อได้รับคำร้องขอจากผู้ประกาศ CBAM ที่ได้รับอนุญาต (revocation procedure upon request of the authorised CBAM declarant):
- ในกรณีที่ผู้ยื่นคำร้องขอเพิกถอนการอนุญาตจาก CBAM จะต้องระบุเหตุผลและวันที่การเพิกถอนจะมีผล (วันที่เพิกถอน) วันเพิกถอนไม่สามารถเกิดขึ้นก่อนวันที่ยื่นคำร้องขอการเพิกถอนได้ หน่วยงานผู้รับผิดชอบหลักจะต้องทำการลงทะเบียนเหตุผลของการขอเพิกถอน
- ในกรณีที่วันที่เพิกถอนเป็นวันที่ก่อนหรือเป็นวันที่ 31 พฤษภาคมของทุกปี การประกาศ CBAM จะต้องรวมถึงข้อมูลตามมาตรา 6(2) (a) (b) และ (c) และข้อมูลตามมาตรา 6(2)(d) Regulation (EU) 2023/956 เกี่ยวกับสินค้าที่นำเข้าก่อนวันที่เพิกถอนและไม่ได้ครอบคลุมโดยการสำแดง CBAM
- ในกรณีที่วันที่เพิกถอนเป็นวันที่หลังวันที่ 31 พฤษภาคมของทุกปี การประกาศ CBAM จะต้องรวมถึงข้อมูลตามมาตรา 6(2) (a) (b) และ (c) และข้อมูลตามมาตรา 6(2) จุด (d) Regulation (EU) 2023/956 เกี่ยวกับสินค้าที่นำเข้าระหว่างตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมของปีนั้นจนถึงวันที่เพิกถอน
- ผู้ยื่นคำสำแดง CBAM ที่ได้รับอนุญาต ที่ร้องขอการเพิกถอนจะต้องยื่นคำสำแดงภายใน 1 เดือนนับจากวันที่เพิกถอน
- ในกรณีที่ผู้ยื่นคำสำแดง CBAM ที่ได้รับอนุญาตไม่สามารถยื่นคำสำแดง จะต้องแจ้งต่อหน่วยงานผู้รับผิดชอบหลัก พร้อมกับคำร้องขอการเพิกถอน โดยผู้ยื่นคำสำแดง CBAM ที่ได้รับอนุญาตจะต้องแจ้งข้อมูลที่ระบุในมาตรา 6(2) (a) Regulation (EU) 2023/956 แก่หน่วยงานผู้รับผิดชอบหลักในวันเพิกถอน
- หน่วยงานที่มีอำนาจจะต้องจัดทำประกาศ CBAM สำหรับสินค้าที่นำเข้าซึ่งไม่ได้ระบุไว้ในประกาศ CBAM ภายในหนึ่งเดือนนับจากวันที่เพิกถอน โดยอิงจากข้อมูลที่ได้รับตามมาตรา 25(3) Regulation (EU) 2023/956 และข้อมูลการปล่อยมลพิษที่เกิดจากการผลิต ซึ่งกำหนดโดยการอ้างอิงถึงค่าปริยายตามวิธีที่กำหนดในภาคผนวก IV Regulation (EU) 2023/956
- จำนวนรวมของใบรับรอง CBAM ที่คำนวณจากข้อมูลที่ระบุไว้ในคำสำแดง จะต้องส่งมอบโดยผู้สำแดงCBAM ที่ได้รับอนุญาต เพื่อขอเพิกถอนภายใน 15 วันปฏิทิน
- ผู้สำแดง CBAM ที่ได้รับอนุญาตสามารถถอนคำร้องการขอเพิกถอนการอนุญาตได้ตลอดเวลา ก่อนที่ หน่วยงานผู้รับผิดชอบหลักจะตัดสินคำร้องขอเพิกถอนนั้น
- หน่วยงานผู้รับผิดชอบหลักจะแจ้งให้ผู้สำแดง CBAM ที่ได้รับอนุญาต คณะกรรมาธิการยุโรป และหน่วยงานผู้รับผิดชอบหลักอื่นๆ ทราบถึงการเพิกถอนสถานะของผู้สำแดง CBAM ที่ได้รับอนุญาต 22.เจตนาที่จะเริ่มกระบวนการเพิกถอนโดยหน่วยงานที่มีอำนาจ (intention to initiate the revocation procedure by the competent authority: ในกรณีที่หน่วยงานผู้รับผิดชอบหลักมีเจตนาที่จะเพิกถอนการอนุญาต จะต้องทำการประเมินเงื่อนไขและเกณฑ์ที่อ้างถึงในมาตรา 17(8) Regulation (EU) 2023/956 และตามที่ระบุไว้ในมาตรา 9 และ 10 Regulation (EU) 2025/486 ซึ่งเมื่อพิจารณาแล้วพบว่า ผู้ยื่นคำสำแดง CBAM ที่ได้รับอนุญาตมีส่วนเกี่ยวข้องกับการละเมิดอย่างร้ายแรงหรือซ้ำๆ ตามที่อ้างถึงในมาตรา 22(1) หรือในมาตรา 22(2) Regulation (EU) 2023/956 หน่วยงานผู้รับผิดชอบหลักจะต้องพิจารณาปัจจัยต่อไปนี้:
- ความพร้อมของผู้แจ้ง CBAM ที่ได้รับอนุญาตในการปฏิบัติตามคำขอให้ส่งมอบใบรับรอง CBAM ในจำนวนที่ถูกต้องหรือเพื่อให้แน่ใจว่ามีใบรับรอง CBAM ในบัญชี CBAM ที่เพียงพอ
- พฤติกรรมโดยเจตนาหรือประมาทของผู้สำแดง CBAM ที่ได้รับอนุญาต
- พฤติกรรมในอดีตของผู้สำแดง CBAM ที่ได้รับอนุญาต
- ระดับความร่วมมือของผู้สำแดง CBAM ที่ได้รับอนุญาตในการยุติการละเมิดหรือพฤติกรรมซ้ำๆ
- ผู้สำแดง CBAM ที่ได้รับอนุญาตได้ดำเนินการโดยสมัครใจเพื่อให้แน่ใจว่าการละเมิดที่คล้ายคลึงกันจะไม่เกิดขึ้นอีกในอนาคต
หน่วยงานผู้รับผิดชอบหลักสามารถขอให้ผู้ยื่นคำสำแดง CBAM ที่ได้รับอนุญาตจัดเตรียมข้อมูลเพิ่มเติม และให้ข้อสังเกตการณ์เกี่ยวกับข้อมูลที่หน่วยงานผู้รับผิดชอบหลักจะใช้เป็นฐานในการตัดสินเพิกถอนการอนุญาต ก่อนการตัดสินหรือเริ่มขั้นตอนการปรึกษาหารือตามมาตรา 25 ซึ่งจะต้องส่งมอบไม่เกิน 10 วันทำการ
23. การตัดสินเพิกถอนสถานะผู้สำแดง CBAM ที่ได้รับอนุญาต (decision to revoke the status of authorised CBAM declarant):
- ตามการประเมินตามมาตรา 22 และหลังจากได้รับฟังผู้ประกาศ CBAM ที่ได้รับอนุญาตตามมาตรา 27 หน่วยงานผู้รับผิดชอบหลักสามารถตัดสินเพิกถอนสถานะ และแจ้งการเพิกถอนในทะเบียน CBAM ในทันที
- ในกรณีที่การตัดสินเพิกถอนเกิดขึ้นก่อนหรือเกิดขึ้นในวันที่ 31 พฤษภาคมของทุกปี การสำแดง CBAM จะต้องมีข้อมูลตามที่ระบุในมาตรา 6(2)(a) (b) และ (c) และข้อมูลตามที่ระบุในมาตรา 6(2)(d) Regulation (EU) 2023/956 เกี่ยวกับสินค้าที่นำเข้าก่อนวันที่ได้รับแจ้งการตัดสินเพิกถอนและไม่ได้ครอบคลุมโดยการสำแดง CBAM
- ในกรณีที่การตัดสินเพิกถอนเกิดขึ้นหลังจากวันที่ 31 พฤษภาคมของทุกปี การสำแดง CBAM จะต้องมีข้อมูลตามที่ระบุในมาตรา 6(2) จุด (a) (b) และ (c) และข้อมูลที่อ้างอิงในมาตรา 6(2) จุด (d) Regulation (EU) 2023/956 เกี่ยวกับสินค้าที่นำเข้าระหว่างวันที่ 1 มกราคมของปีนั้นถึงวันที่ได้รับแจ้งการตัดสินเพิกถอน
- บุคคลที่ถือใบอนุญาตที่ถูกเพิกถอนจะต้องยื่นคำสำแดงตามที่ระบุในวรรค 2 หรือ 3 ภายใน 1 เดือนนับจากวันที่ได้รับแจ้งการเพิกถอน
- ในกรณีที่ผู้ถือใบอนุญาตที่ถูกเพิกถอนไม่สามารถยื่นคำสำแดงที่ระบุในวรรค 2 หรือ 3 ของมาตรา 17 นี้ได้ ผู้ถือใบอนุญาตจะต้องแจ้งต่อหน่วยงานผู้รับผิดชอบหลักภายใน 1 เดือนนับจากวันที่ได้รับแจ้งการตัดสินเพิกถอนใบอนุญาต และต้องแจ้งข้อมูลที่ระบุในมาตรา 6(2) (a) Regulation (EU) 2023/956 ดังกล่าวให้หน่วยงานดังกล่าวทราบในทันที
- หน่วยงานผู้รับผิดชอบหลักจะต้องจัดทำสำแดง CBAM ภายใน 1 เดือนนับจากวันที่ได้รับข้อมูล สำหรับสินค้าที่นำเข้าซึ่งไม่ได้ระบุไว้ในสำแดง CBAM โดยอิงตามข้อมูลที่ได้รับ ซึ่งได้แก่ ข้อมูลที่สื่อสารตามมาตรา 25(3) Regulation (EU) 2023/956 ข้อมูลที่อยู่ในครอบครอง และข้อมูลการปล่อยมลพิษจากการผลิต ซึ่งกำหนดโดยอ้างอิงถึงค่าปริยายตามวิธีที่กำหนดไว้ในภาคผนวก IV Regulation (EU) 2023/956
- จำนวนโดยรวมของใบรับรอง CBAM ที่คำนวณจากข้อมูลที่ระบุไว้ในคำสำแดง ซึ่งจะต้องส่งมอบโดยบุคคลที่ถือใบอนุญาตที่ถูกเพิกถอนภายใน 15 วันปฏิทิน
24. วันที่มีผลบังคับใช้ (date of effect):
– การเพิกถอนสถานะของผู้สำแดง CBAM ที่ได้รับอนุญาตจะมีผลบังคับใช้ในวันถัดจากวันที่มีการแจ้งผลการตัดสินเกี่ยวกับการเพิกถอนตามมาตรา 21(9) และมาตรา 23(1) Regulation (EU) 2025/486 ซึ่งจะต้องลงผลการตัดสินในทะเบียน CBAM และถือเป็นการแจ้งให้ผู้สำแดง CBAM ทราบ
– การเพิกถอนจะไม่มีผลต่อการนำเข้าสินค้าและการปล่อยมลพิษที่เกี่ยวข้องที่เกิดขึ้นก่อนที่สถานะผู้สำแดง CBAM ถูกเพิกถอนในทะเบียน CBAM
– ในกรณีที่มีการเพิกถอนการอนุญาต CBAM ตามมาตรา 21 หรือมาตรา 23 บัญชี CBAM จะยังคงอยู่ภายใต้สถานะ “ปิด (closed)” ตามมาตรา 16(4) Regulation (EU) 2023/956 จนถึงปีที่ 5 ภายหลังจากการเพิกถอน ซึ่งหลังจากนั้น บัญชี CBAM จะถูกปิดอย่างถาวร
– บัญชี CBAM ที่ “ปิด (closed)” จะต้องเปิดใหม่โดยหน่วยงานผู้รับผิดชอบหลัก ซึ่งอนุญาตให้เจ้าของที่ปฏิบัติตามข้อกำหนดในการส่งมอบใบรับรอง CBAM ตามจำนวนที่ถูกต้องเพิ่มเติม หลังจากการตรวจสอบคำสำแดง CBAM ตามมาตรา 19(5) Regulation (EU) 2023/956
25. การเพิกถอนทันที (immediate revocation):
– หน่วยงานผู้รับผิดชอบหลักสามารถตัดสินเพิกถอนสถานะของผู้สำแดง CBAM ที่ได้รับอนุญาตในกรณีใดกรณีหนึ่ง ดังต่อไปนี้
(ก) ข้อสรุปจากการประเมินใหม่ตามมาตรา 19 ซึ่งแสดงให้เห็นว่า มีเหตุมีผลที่เพียงพอ
(ข) ผู้ยื่นสำแดง CBAM ที่ได้รับอนุญาตได้ยุติกิจกรรมทางเศรษฐกิจของตน
(ค) การตัดสินให้การอนุญาตเกิดขึ้นจากข้อมูลที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน ซึ่งผู้ยื่นสำแดง CBAM ทราบหรือน่าจะทราบว่า ข้อมูลนั้นไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน
– หลังจากที่ได้รับฟังคำชี้แจงจากผู้สำแดง CBAM ที่ได้รับอนุญาตตามมาตรา 27 แล้ว หน่วยงานผู้รับผิดชอบหลักสามารถแจ้งผลการตัดสินต่อผู้สำแดง CBAM ที่ได้รับอนุญาตในทะเบียน CBAM เกี่ยวกับการเพิกถอนและเหตุผลของการเพิกถอนได้ในทันที
– การแจ้งการเพิกถอนต้องประกอบด้วยข้อกำหนดตามมาตรา 23 วรรค (2)-(7)
– เมื่อหน่วยงานผู้รับผิดชอบหลักตัดสินเพิกถอนสถานะของผู้สำแดง CBAM ที่ได้รับอนุญาตในทันที จะต้องเปลี่ยนสถานะของการอนุญาตว่าเป็น “เพิกถอน (revoked)”
26. ขั้นตอนการปรึกษาหารือเพื่อการเพิกถอน (consultation procedure for revocation):
– หน่วยงานผู้รับผิดชอบหลักจะเริ่มขั้นตอนการปรึกษาหารือที่เกี่ยวข้องกับฝ่ายที่ปรึกษาในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ในทะเบียน CBAM และระบุการเจตนาที่จะเพิกถอนสถานะของผู้ยื่นคำสำแดง CBAM ที่ได้รับอนุญาต และขอข้อมูลเพิ่มเติมตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในมาตรา 17(2) Regulation (EU) 2023/956 เพื่อประกอบการตัดสิน
– ในกรณีที่ฝ่ายให้คำปรึกษาพิจารณาแล้วพบว่า ผู้ยื่นคำสำแดง CBAM ที่ได้รับอนุญาตไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขและเกณฑ์ที่กำหนดไว้เกินกว่า 1 ข้อขึ้นไป ซึ่งถือว่าสมควรที่จะเพิกถอนภายใต้มาตรา 17(8) Regulation (EU) 2023/956 ฝ่ายที่ให้คำปรึกษาจะต้องแจ้งท่าทีของตนให้หน่วยงานผู้รับผิดชอบหลักทราบ โดยต้องมีเอกสารเป็นหลักฐานและเหตุผลประกอบ
– หน่วยงานผู้รับผิดชอบหลักสามารถขอข้อมูลและเอกสารเพิ่มเติมจากฝ่ายที่ให้คำปรึกษาในกรณีที่พิจารณาแล้วว่าจำเป็นเพื่อสามารถใช้ในการตัดสินเพิกถอน
– หน่วยงานผู้รับผิดชอบหลักจะกำหนดวันสิ้นสุดการปรึกษาหารือ ซึ่งจะต้องไม่เกิน 15 วันทำการ นับจากวันที่หน่วยงานผู้รับผิดชอบหลักแจ้งเงื่อนไขและเกณฑ์ที่ฝ่ายที่ปรึกษาหารือต้องตรวจสอบ ในบางกรณีสามารถกำหนดวันสิ้นสุดที่เร็วขึ้นกว่าได้ หากพบว่า การกระทำของผู้สำแดงคำประกาศ CBAM มีความผิดร้ายแรง
– หากฝ่ายที่ปรึกษาหารือไม่ตอบกลับภายในวันที่กำหนด จะถือว่า การปฏิบัติตามเงื่อนไขและเกณฑ์ที่ขั้นตอนการปรึกษาหารือได้ดำเนินไปแล้ว
27. สิทธิในการได้รับการไต่สวนกรณีเพิกถอนและอุทธรณ์ (right to be heard for revocation and appeal):
– หน่วยงานผู้รับผิดชอบหลักจะต้องให้ผู้สำแดง CBAM ได้มีโอกาสให้ข้อคิดเห็นก่อนที่จะเพิกถอนสถานะของผู้ประกาศ CBAM ที่ได้รับอนุญาตรายนั้น
– ในการสื่อสารไปยังผู้สำแดง CBAM ที่ได้รับอนุญาต หน่วยงานที่มีอำนาจจะต้องระบุ
(ก) การอ้างอิงถึงเอกสารและข้อมูลที่หน่วยงานผู้รับผิดชอบหลักจะใช้เป็นฐานในการตัดสิน
(ข) ผู้ยื่นคำสำแดง CBAM ที่ได้รับอนุญาตสามารถส่งข้อคิดเห็นได้ภายในไม่เกิน 15 วันทำการ
(ค) ในกรณีที่เป็นการเพิกถอนในทันทีตามที่ระบุในมาตรา 25 ผู้ยื่นคำสำแดง CBAM ที่ได้รับอนุญาตสามารถส่งข้อคิดเห็นได้ ภายในไม่เกิน 5 วันทำการ
– ในกรณีที่ผู้ยื่นสำแดง CBAM ที่ได้รับอนุญาตให้ข้อคิดเห็นก่อนสิ้นสุดระยะเวลาที่อ้างถึงข้างต้น หน่วยงานผู้รับผิดชอบหลักสามารถดำเนินการตัดสินขั้นสุดท้ายโดยคำนึงถึงข้อคิดเห็นที่เกี่ยวข้อง เว้นแต่บุคคลนั้นจะไม่แสดงเจตนาที่จะยื่นข้อคิดเห็นเพิ่มเติมภายในระยะเวลาที่กำหนดในเวลาเดียวกัน
– ในกรณีที่หน่วยงานผู้รับผิดชอบหลักเพิกถอนสถานะของผู้ยื่นคำสำแดง CBAM ที่ได้รับอนุญาต และมีการใช้สิทธิอุทธรณ์ หน่วยงานผู้รับผิดชอบหลักจะแจ้งการอุทธรณ์ดังกล่าวและบันทึกข้อสรุปของกระบวนการอุทธรณ์ในทะเบียน CBAM
– การอุทธรณ์จะไม่ถือว่าเป็นการระงับการตัดสินเพิกถอน
28. การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (personal data protection):
– ข้อมูลส่วนบุคคลที่ระบุในข้อบังคับนี้และลงทะเบียนในทะเบียน CBAM ซึ่งจัดทำขึ้นตามมาตรา 14(6) Regulation (EU) 2023/956 จะต้องได้รับการประมวลผลเพื่อวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องกับการให้และการเพิกถอนสถานะของผู้สำแดง CBAM ที่ได้รับอนุญาต
– ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่อ้างถึงข้างต้น หน่วยงานผู้รับผิดชอบหลักที่ให้หรือเพิกถอนสถานะของผู้สำแดง CBAM ที่ได้รับอนุญาตจะถือเป็นผู้ควบคุมตามมาตรา 4(7) Regulation (EU) 2016/679
– จะไม่มีการบันทึกหมวดหมู่ข้อมูลพิเศษตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 9 Regulation (EU) 2016/679 และมาตรา 10 Regulation (EU) 2018/1725 เพื่อวัตถุประสงค์ในการยื่นคำร้องและการให้สถานะของผู้สำแดง CBAM ที่ได้รับอนุญาต
29. ภาคผนวก – รายละเอียดข้อมูลประกอบการตัดสินให้สถานะผู้สำแดง CBAM ที่ได้รับอนุญาต
30. กฎระเบียบดังกล่าวมีผลบังคับใช้ 1 วันหลังจากที่ประกาศใน EU Official Journal (ประกาศ ณ วันที่ 18 มีนาคม 2568 และกำหนดจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม 2568 ทั้งนี้ รายละเอียดของกฎระเบียบดังกล่าว สามารถสืบค้นเพิ่มเติมได้จาก QR code
