free page hit counter

สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ประจำสหภาพยุโรป

Office of Agricultural Affairs | Royal Thai Embassy, Brussels
HomeRegulationสหภาพยุโรปต่ออนุญาตสารเสริมในอาหารสัตว์

สหภาพยุโรปต่ออนุญาตสารเสริมในอาหารสัตว์

photo of different puppies
Photo by Goochie Poochie Grooming on Pexels.com
  1. Commission Implementing Regulation (EU) 2024/2388 ว่าด้วย การต่ออนุญาตให้ preparation of Pediococcus pentosaceus DSM 23689 เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ ใน EU Official Journal L series โดยมีรายละเอียดดังนี้

    1) คณะกรรมาธิการยุโรปเห็นชอบต่อการอนุญาตให้ preparation of Pediococcus pentosaceus DSM 23689  เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ (feed additive) ภายใต้กลุ่มสารเสริมทางเทคโนโลยี (technological additives) โดยมีหน้าที่เป็นสารเร่งปฏิกริยาในหญ้าหมัก (silage additives) และอนุญาตให้ใช้กับสัตว์ทุกชนิด เป็นระยะเวลา 10 ปี ตั้งแต่วันที่กฎระเบียบฯ มีผลบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2577 เนื่องจากไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพสัตว์ ความปลอดภัยของผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม สารดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงจากการใช้งาน ผู้ใช้งานจึงควรสวมใส่ชุดป้องกัน

     2) กฎระเบียบดังกล่าวมีผลบังคับใช้ 20 วัน หลังจากที่ประกาศใน EU Official Journal (ประกาศ ณ วันที่ 10 กันยายน 2567) ทั้งนี้ รายละเอียดของกฎระเบียบดังกล่าว สามารถสืบค้นเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ ดังนี้

https://eur-lex.europa.eu/legal-content/EN/TXT/PDF/?uri=OJ:L_202402388

2. Commission Implementing Regulation (EU) 2024/2393 ว่าด้วย การต่ออนุญาตให้ sodium bisulphate เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ ใน EU Official Journal L series โดยมีรายละเอียดดังนี้

1) คณะกรรมาธิการยุโรปเห็นชอบต่อการอนุญาตให้ sodium bisulphate เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ (feed additive) ภายใต้กลุ่มสารเสริมทางเทคโนโลยี (technological additives) โดยมีหน้าที่เป็นสารกันเสีย (preservatives) และเพื่อช่วยควบคุมความเป็นกรด (acidity regulator) และภายใต้กลุ่มสารเสริมทางประสาทสัมผัส (sensory additives) โดยมีหน้าที่เป็นสารแต่งกลิ่น (flavouring compounds) อนุญาตให้ใช้กับสัตว์ทุกชนิด นอกเหนือจากสัตว์น้ำ เป็นระยะเวลา 10 ปี ตั้งแต่วันที่กฎระเบียบฯ มีผลบังคับใช้ ไปจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2577 เนื่องจากไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพสัตว์ ความปลอดภัยของผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม สารดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงจากการใช้งาน ผู้ใช้งานจึงควรสวมใส่ชุดป้องกัน

2) คณะกรรมาธิการยุโรปกำหนดการใช้สารเสริมที่ระดับสูงสุดในสัตว์ ดังนี้

         2.1) ภายใต้กลุ่มสารเสริมทางเทคโนโลยี (technological additives) โดยมีหน้าที่เป็นสารกันเสีย (preservatives):

                 (ก) สัตว์ทุกชนิด นอกเหนือจากสัตว์น้ำ แมว และเพียงพอน ระดับสูงสุดไม่เกิน 4,000 มิลลิกรัม/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)

                (ข) แมว ระดับสูงสุดไม่เกิน 20,000 มิลลิกรัม/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)

                (ค) เพียงพอน ระดับสูงสุดไม่เกิน 10,000 มิลลิกรัม/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)

        2.2) ภายใต้กลุ่มสารเสริมทางเทคโนโลยี (technological additives) โดยมีหน้าที่เพื่อช่วยควบคุมความเป็นกรด (acidity regulator):  

                 (ก) สัตว์ทุกชนิด นอกเหนือจากสัตว์น้ำ แมว และเพียงพอน ระดับสูงสุดไม่เกิน 4,000 มิลลิกรัม/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)

                (ข) แมว ระดับสูงสุดไม่เกิน 20,000 มิลลิกรัม/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)

                (ค) เพียงพอน ระดับสูงสุดไม่เกิน 10,000 มิลลิกรัม/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)

        2.3) ภายใต้กลุ่มสารเสริมทางประสาทสัมผัส (sensory additives) โดยมีหน้าที่เป็นสารแต่งกลิ่น (flavouring compounds):  

                 (ก) สัตว์เลี้ยง และสัตว์ที่ไม่ใช้ผลิตเพื่อเป็นอาหารอื่นๆ นอกเหนือจากสัตว์น้ำ แมว และเพียงพอน ระดับสูงสุดไม่เกิน 4,000 มิลลิกรัม/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)

                (ข) แมว ระดับสูงสุดไม่เกิน 20,000 มิลลิกรัม/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)

                (ค) เพียงพอน ระดับสูงสุดไม่เกิน 10,000 มิลลิกรัม/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)          

    3) กฎระเบียบดังกล่าวมีผลบังคับใช้ 20 วัน หลังจากที่ประกาศใน EU Official Journal (ประกาศ ณ วันที่ 10 กันยายน 2567) ทั้งนี้ รายละเอียดของกฎระเบียบดังกล่าว สามารถสืบค้นเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ ดังนี้

https://eur-lex.europa.eu/legal-content/EN/TXT/PDF/?uri=OJ:L_202402393

3. Commission Implementing Regulation (EU) 2024/2394 ว่าด้วย การต่ออนุญาตให้ preparation of Enterococcus lactis NCIMB 10415 เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ ใน EU Official Journal L series โดยมีรายละเอียดดังนี้

    1) คณะกรรมาธิการยุโรปเห็นชอบต่อการอนุญาตให้ preparation of Enterococcus lactis NCIMB 10415 เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ (feed additive) ภายใต้กลุ่มสารเสริมเฉพาะทางสำหรับสัตว์ (zootechnical additives) เพื่อช่วยควบคุมเชื้อในกระเพาะ (gut flora stabilisers) และอนุญาตให้ใช้กับแมวและสุนัข เป็นระยะเวลา 10 ปี ตั้งแต่วันที่กฎระเบียบฯ มีผลบังคับใช้ ไปจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2577 เนื่องจากไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพสัตว์ ความปลอดภัยของผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม สารดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงจากการใช้งาน ผู้ใช้งานจึงควรสวมใส่ชุดป้องกัน

    2) คณะกรรมาธิการยุโรปกำหนดการใช้สารเสริมที่ระดับต่ำสุดในสัตว์ ดังนี้

         (ก) แมว ระดับต่ำสุดไม่เกิน 7 x 109 CFU/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)

        (ข) สุนัข ระดับต่ำสุดไม่เกิน 2,5 x 109 CFU/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)

    3) คณะกรรมาธิการยุโรปกำหนดระยะเวลาเปลี่ยนผ่าน ดังนี้

        (ก) preparation of Enterococcus lactis NCIMB 10415 และสารผสมล่วงหน้า (premixture) ที่มีส่วนประกอบของสารดังกล่าวที่ผลิตและติดฉลากก่อนวันที่ 30 มีนาคม 2568 โดยปฏิบัติตามกฎระเบียบฉบับเดิมก่อนวันที่ 30 กันยายน 2567 สามารถวางจำหน่ายและใช้ได้จนกว่าสินค้าจะหมดไปจากคลังสินค้า 

        (ข) อาหารสัตว์ผสม (compound feeds) และวัตถุดิบอาหารสัตว์ (feed materials) ที่มีส่วนประกอบของ preparation of Enterococcus lactis NCIMB 10415 ที่ผลิตและติดฉลากก่อนวันที่ 30 กันยายน 2569 โดยปฏิบัติตามกฎระเบียบฉบับเดิมก่อนวันที่ 30 กันยายน 2567 สามารถวางจำหน่ายและใช้ได้จนกว่าสินค้าจะหมดไปจากคลังสินค้า

    4) กฎระเบียบดังกล่าวมีผลบังคับใช้ 20 วัน หลังจากที่ประกาศใน EU Official Journal (ประกาศ ณ วันที่ 10 กันยายน 2567) ทั้งนี้ รายละเอียดของกฎระเบียบดังกล่าว สามารถสืบค้นเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ ดังนี้

https://eur-lex.europa.eu/legal-content/EN/TXT/PDF/?uri=OJ:L_202402394