คณะกรรมาธิการยุโรปประกาศ Commission Regulation (EU) 2025/666 ว่าด้วย การปรับแก้ภาคผนวก II และ III Regulation (EC) No 1333/2008 เกี่ยวกับการใช้วัตถุเจือปนอาหารโซเดียมคาร์บอกซีเมทิลเซลลูโลส เซลลูโลสกัม (sodium carboxy methyl cellulose, cellulose gum: E 466) และการปรับแก้ภาคผนวก Commission Regulation (EU) No 231/2012 เกี่ยวกับข้อกำหนดเฉพาะของวัตถุเจือปนอาหาร (1) เซลลูโลส (cellulose: E 460) (2) เมทิลเซลลูโลส (methyl cellulose: E 461) (3) เอทิลเซลลูโลส (ethyl cellulose: E 462) (4) ไฮดรอกซีโพรพิล (hydroxypropyl cellulose: E 463) (5) ไฮดรอกซีโพรพิลเมทิลเซลลูโลส (hydroxypropyl methyl cellulose: E 464) (6) เอทิลเมทิลเซลลูโลส (ethyl methyl cellulose: E 465) (7) โซเดียมคาร์บอกซีเมทิลเซลลูโลส เซลลูโลสกัม (sodium carboxy methyl cellulose, cellulose gum: E 466) (8) โซเดียมคาร์บอกซีเมทิลเซลลูโลสเชื่อมโยงข้าม เซลลูโลสกัมเชื่องโยงข้าม (cross-linked sodium carboxy methyl cellulose, cross linked cellulose gum: E 468) และ (9) คาร์บอกซีเมทิลเซลลูโลสไฮโดรไลซ์ด้วยเอนไซม์ (enzymatically hydrolysed carboxy methyl cellulose: E 469) ใน EU Official Journal L series สาระสำคัญสรุปดังนี้
- กำหนดให้ถอนการใช้โซเดียมคาร์บอกซีเมทิลเซลลูโลส เซลลูโลสกัม (sodium carboxy methyl cellulose, cellulose gum: E 466) ในอาหาร 2 หมวด ได้แก่ หมวด 13.1.5.1 ได้แก่ อาหารสำหรับทารกเพื่อวัตถุประสงค์ทางการแพทย์พิเศษและสูตรพิเศษสำหรับทารก และหมวด 13.1.5.2 ได้แก่ อาหารสำหรับทารกและเด็กเล็กเพื่อวัตถุประสงค์ทางการแพทย์พิเศษตามที่กำหนดไว้ใน Directive 1999/21/EC
- กำหนดให้ปรับแก้คุณลักษณะของวัตถุเจือปนอาหาร จำนวน 9 รายการ ได้แก่ (1) เซลลูโลส (cellulose: E 460) (2) เมทิลเซลลูโลส (methyl cellulose: E 461) (3) เอทิลเซลลูโลส (ethyl cellulose: E 462) (4) ไฮดรอกซีโพรพิล (hydroxypropyl cellulose: E 463) (5) ไฮดรอกซีโพรพิลเมทิลเซลลูโลส (hydroxypropyl methyl cellulose: E 464) (6) เอทิลเมทิลเซลลูโลส (ethyl methyl cellulose: E 465) (7) โซเดียมคาร์บอกซีเมทิลเซลลูโลส เซลลูโลสกัม (sodium carboxy methyl cellulose, cellulose gum: E 466) (8) โซเดียมคาร์บอกซีเมทิลเซลลูโลสเชื่อมโยงข้ามเซลลูโลสกัมเชื่องโยงข้าม (cross-linked sodium carboxy methyl cellulose, cross linked cellulose gum: E 468) และ (9) คาร์บอกซีเมทิลเซลลูโลสไฮโดรไลซ์ด้วยเอนไซม์ (enzymatically hydrolysed carboxy methyl cellulose: E 469) โดยให้ปรับลดค่าปริมาณขีดจำกัดที่ยอมรับได้สูงสุด (MLs) ของสารโลหะหนัก อาทิ สารหนู สารตะกั่ว สารปรอท และสารแคทเมี่ยม ในวัตถุเจือปนอาหารทั้ง 9 รายการ เพื่อหลีกเลี่ยงการตกค้างของสารดังกล่าวสู่อาหารเพื่อการบริโภค (ตามปรากฏในภาคผนวก III Commission Regulation (EU) 2025/666)
- กำหนดช่วงระยะเวลาเปลี่ยนผ่าน ดังนี้
- กำหนดให้วัตถุเจือปนอาหาร 9 รายการ ได้แก่ (1) เซลลูโลส (cellulose: E 460) (2) เมทิลเซลลูโลส (methyl cellulose: E 461) (3) เอทิลเซลลูโลส (ethyl cellulose: E 462) (4) ไฮดรอกซีโพรพิล (hydroxypropyl cellulose: E 463) (5) ไฮดรอกซีโพรพิลเมทิลเซลลูโลส (hydroxypropyl methyl cellulose: E 464) (6) เอทิลเมทิลเซลลูโลส (ethyl methyl cellulose: E 465) (7) โซเดียมคาร์บอกซีเมทิลเซลลโลส เซลลูโลสกัม (sodium carboxy methyl cellulose, cellulose gum: E 466) (8) โซเดียมคาร์บอกซีเมทิลเซลลูโลสเชื่อมโยงข้าม เซลลูโลสกัมเชื่องโยงข้าม (cross-linked sodium carboxy methyl cellulose, cross linked cellulose gum: E 468) และ (9) คาร์บอกซีเมทิลเซลลูโลสไฮโดรไลซ์ด้วยเอนไซม์ (enzymatically hydrolysed carboxy methyl cellulose: E 469) ที่วางจำหน่ายในตลาดก่อนวันที่ 27 ตุลาคม 2568 ให้สามารถใช้ในอาหารได้ตามภาคผนวก II และภาคผนวก III Regulation (EC) No 1333/2008 ไปจนกว่าสินค้าจะหมดไปจากคลังสินค้า
- กำหนดให้อาหารที่มีส่วนผสมของวัตถุเจือปนอาหาร ทั้ง 9 รายการ ได้แก่ (1) เซลลูโลส (cellulose: E 460) (2) เมทิลเซลลูโลส (methyl cellulose: E 461) (3) เอทิลเซลลูโลส (ethyl cellulose: E 462) (4) ไฮดรอกซีโพรพิล (hydroxypropyl cellulose: E 463) (5) ไฮดรอกซีโพรพิลเมทิลเซลลูโลส (hydroxypropyl methyl cellulose: E 464) (6) เอทิลเมทิลเซลลูโลส (ethyl methyl cellulose: E 465) (7) โซเดียมคาร์บอกซีเมทิลเซลลโลส เซลลูโลสกัม (sodium carboxy methyl cellulose, cellulose gum: E 466) (8) โซเดียมคาร์บอกซีเมทิลเซลลูโลสเชื่อมโยงข้าม เซลลูโลสกัมเชื่องโยงข้าม (cross-linked sodium carboxy methyl cellulose, cross linked cellulose gum: E 468) และ (9) คาร์บอกซีเมทิลเซลลูโลสไฮโดรไลซ์ด้วยเอนไซม์ (enzymatically hydrolysed carboxy methyl cellulose: E 469) ที่วางจำหน่ายในตลาดก่อนวันที่ 27 ตุลาคม 2568 ให้สามารถวางจำหน่ายได้จนถึงวันที่สินค้าอยู่ในสภาพที่ไม่ควรบริโภค (until their date of minimum durability) หรือวันที่สินค้าหมดอายุ (use-by-date)
- กำหนดให้อาหารหมวด 13.1.5.1 อาหารสำหรับทารกเพื่อวัตถุประสงค์ทางการแพทย์พิเศษและสูตรพิเศษสำหรับทารก และอาหารหมวด 13.1.5.2 อาหารสำหรับทารกและเด็กเล็กเพื่อวัตถุประสงค์ทางการแพทย์พิเศษตามที่กำหนดไว้ใน Directive 1999/21/EC ที่มีส่วนผสมของวัตถุเจือปนอาหาร โซเดียมคาร์บอกซีเมทิลเซลลโลส เซลลูโลสกัม (sodium carboxy methyl cellulose, cellulose gum: E 466) ตามภาคผนวก II และ III Regulation (EC) No 1333/2008 ที่วางจำหน่ายในตลาดก่อนวันที่ 27 เมษายน 2570 ให้สามารถวางจำหน่ายได้จนถึงวันที่สินค้าอยู่ในสภาพที่ไม่ควรบริโภค (until their date of minimum durability) หรือวันที่สินค้าหมดอายุ (use-by-date) 5.กฎระเบียบดังกล่าวมีผลบังคับใช้ 20 วัน หลังจากที่ประกาศใน EU Official Journal (ประกาศ ณ วันที่ 7 เมษายน 2568) ทั้งนี้ การถอนการใช้โซเดียมคาร์บอกซีเมทิลเซลลูโลส เซลลูโลสกัม (sodium carboxy methyl cellulose, cellulose gum: E 466) ในอาหารหมวด 13.1.5.1 และ 13.1.5.2 ให้ปรับใช้ตั้งแต่วันที่ 27 เมษายน 2570 และการปฏิบัติตามเกณฑ์ปรับลดค่าปริมาณขีดจำกัดที่ยอมรับได้สูงสุด (MLs) ของสารโลหะหนักในวัตถุเจือปนอาหารทั้ง 9 รายการ ให้ปรับใช้ตั้งแต่วันที่ 27 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป รายละเอียดของกฎระเบียบดังกล่าว สามารถสืบค้นเพิ่มเติมได้จาก QR code
