- Commission Implementing Regulation (EU) 2025/708 ว่าด้วย การอนุญาตให้ sodium ferrocyanide และ potassium ferrocyanide เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ ใน EU Official Journal L series โดยมีรายละเอียดดังนี้
1) คณะกรรมาธิการยุโรปเห็นชอบอนุญาตให้ sodium ferrocyanide และ potassium ferrocyanide เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ (feed additive) ภายใต้กลุ่มสารเสริมทางเทคโนโลยี (technological additives) เพื่อป้องกันการจับตัวเป็นก้อน (anticaking agents) และอนุญาตให้ใช้กับสัตว์ทุกชนิด เป็นระยะเวลา 10 ปี ตั้งแต่วันที่กฎระเบียบฯ มีผลบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 4 พฤษภาคม 2578 เนื่องจากไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพสัตว์ ความปลอดภัยของผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม สารดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงจากการใช้งาน ผู้ใช้งานจึงควรสวมใส่อุปกรณ์ป้องกัน
2) คณะกรรมาธิการยุโรปกำหนดปริมาณการใช้สารเสริมดังกล่าวในอาหารสัตว์ ดังนี้
– ไก่งวงเพื่อขุน/เพื่อเพาะพันธุ์ ไก่ไข่ สัตว์ปีกวัยเยาว์เพื่อไข่/เพาะพันธุ์ สุกร สัตว์เคี้ยวเอื้อง อูฐ กระต่าย ม้า ปลา สุนัข และแมว ที่ระดับสูงสุดไม่เกิน 80 มิลลิกรัมของ sodium ferrocyanide หรือ potassium ferrocyanide /กิโลกรัม NaCl
– สัตว์อื่นๆ ที่ระดับสูงสุดไม่เกิน 60 มิลลิกรัมของ sodium ferrocyanide หรือ potassium ferrocyanide /กิโลกรัม NaCl
3) คณะกรรมาธิการยุโรปกำหนดระยะเวลาเปลี่ยนผ่าน ดังนี้
(ก) sodium ferrocyanide และ potassium ferrocyanide ที่ได้รับอนุญาตตาม Commission Regulation (EC) No 1810/2005 และสารผสมล่วงหน้า (premixture) ที่มีส่วนประกอบของ sodium ferrocyanide และ potassium ferrocyanide ที่ผลิตและติดฉลากก่อนวันที่ 4 พฤศจิกายน 2568 โดยปฏิบัติตามกฎระเบียบฉบับเดิมก่อนวันที่ 4 พฤษภาคม 2568 สามารถวางจำหน่ายและใช้ได้จนกว่าสินค้าจะหมดไปจากคลังสินค้า
(ข) อาหารสัตว์ผสม (compound feeds) และวัตถุดิบอาหารสัตว์ (feed materials) ที่ใช้สำหรับสัตว์ที่ผลิตเพื่อเป็นอาหาร ที่มีส่วนประกอบของ sodium ferrocyanide และ potassium ferrocyanide ที่ผลิตและติดฉลากก่อนวันที่ 4 พฤษภาคม 2569 โดยปฏิบัติตามกฎระเบียบฉบับเดิมก่อนวันที่ 4 พฤษภาคม 2568 สามารถวางจำหน่ายและใช้ได้จนกว่าสินค้าจะหมดไปจากคลังสินค้า
(ค) อาหารสัตว์ผสม (compound feeds) และวัตถุดิบอาหารสัตว์ (feed materials) ที่ไม่ใช้สำหรับสัตว์ที่ผลิตเพื่อเป็นอาหาร ที่มีส่วนประกอบของ sodium ferrocyanide และ potassium ferrocyanide ที่ผลิตและติดฉลากก่อนวันที่ 4 พฤษภาคม 2570 โดยปฏิบัติตามกฎระเบียบฉบับเดิมก่อนวันที่ 4 พฤษภาคม 2568 สามารถวางจำหน่ายและใช้ได้จนกว่าสินค้าจะหมดไปจากคลังสินค้า
4) กฎระเบียบดังกล่าวมีผลบังคับใช้ 20 วัน หลังจากที่ประกาศใน EU Official Journal (ประกาศ ณ วันที่ 14 เมษายน 2568) ทั้งนี้ รายละเอียดของกฎระเบียบดังกล่าว สามารถสืบค้นเพิ่มเติมได้จาก QR code
2.Commission Implementing Regulation (EU) 2025/720 ว่าด้วย การอนุญาตให้ preparation of Lentilactobacillus buchneri DSM 32651 เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ ใน EU Official Journal L series โดยมีรายละเอียดดังนี้
1.คณะกรรมาธิการยุโรปเห็นชอบอนุญาตให้ preparation of Lentilactobacillus buchneri DSM 32651 เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ (feed additive) ภายใต้กลุ่มสารเสริมทางเทคโนโลยี (technological additives) โดยมีหน้าที่เป็นสารเร่งปฏิกริยาในหญ้าหมัก (silage additives) และอนุญาตให้ใช้กับสัตว์ทุกชนิด เป็นระยะเวลา 10 ปี ตั้งแต่วันที่กฎระเบียบฯ มีผลบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 6 พฤษภาคม 2578 เนื่องจากไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพสัตว์ ความปลอดภัยของผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม สารดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงจากการใช้งาน ผู้ใช้งานจึงควรสวมใส่อุปกรณ์ป้องกัน
2.กฎระเบียบดังกล่าวมีผลบังคับใช้ 20 วัน หลังจากที่ประกาศใน EU Official Journal (ประกาศ ณ วันที่ 16 เมษายน 2568) ทั้งนี้ รายละเอียดของกฎระเบียบดังกล่าว สามารถสืบค้นเพิ่มเติมได้จาก QR code
3. Commission Implementing Regulation (EU) 2025/756 ว่าด้วย การอนุญาตให้ L-valine ที่ผลิตโดย Escherichia coli CGMCC 22721 เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ ใน EU Official Journal L series โดยมีรายละเอียดดังนี้
- คณะกรรมาธิการยุโรปเห็นชอบอนุญาตให้ L-valine ที่ผลิตโดย Escherichia coli CGMCC 22721 เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ (feed additive) ภายใต้กลุ่มสารเสริมทางโภชนาการ (nutritional additives) กลุ่มกรด อะมิโน เกลือของกรดอะมิโน และสารที่อยู่กลุ่มเดียวกัน (amino acids, their salts and analogues) และอนุญาตให้ใช้กับสัตว์ทุกชนิด เป็นระยะเวลา 10 ปี ตั้งแต่วันที่กฎระเบียบฯ มีผลบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 12 พฤษภาคม 2578 เนื่องจากไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพสัตว์ ความปลอดภัยของผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม สารดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงจากการใช้งาน ผู้ใช้งานจึงควรสวมใส่อุปกรณ์ป้องกัน
- กฎระเบียบดังกล่าวมีผลบังคับใช้ 20 วัน หลังจากที่ประกาศใน EU Official Journal (ประกาศ ณ วันที่ 22 เมษายน 2568) ทั้งนี้ รายละเอียดของกฎระเบียบดังกล่าว สามารถสืบค้นเพิ่มเติมได้จาก QR code
4. Commission Implementing Regulation (EU) 2025/757 ว่าด้วย การอนุญาตให้ sepiolite เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ ใน EU Official Journal L series โดยมีรายละเอียดดังนี้
1) คณะกรรมาธิการยุโรปเห็นชอบอนุญาตให้ sepiolite เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ (feed additive) ภายใต้กลุ่มสารเสริมทางเทคโนโลยี (technological additives) เพื่อช่วยยึดเกาะ (binders) และอนุญาตให้ใช้กับสัตว์ทุกชนิด เป็นระยะเวลา 10 ปี ตั้งแต่วันที่กฎระเบียบฯ มีผลบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 12 พฤษภาคม 2578 เนื่องจากไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพสัตว์ ความปลอดภัยของผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม สารดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงจากการใช้งาน ผู้ใช้งานจึงควรสวมใส่อุปกรณ์ป้องกัน
2) คณะกรรมาธิการยุโรปกำหนดปริมาณการใช้สารเสริมดังกล่าวในอาหารสัตว์ทุกชนิด ที่ระดับสูงสุดไม่เกิน 20,000 มิลลิกรัม/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)
3) คณะกรรมาธิการยุโรปกำหนดระยะเวลาเปลี่ยนผ่าน ดังนี้
(ก) sepiolite ที่ได้รับอนุญาตตาม Directive 70/524/EEC และสารผสมล่วงหน้า (premixture) ที่มีส่วนประกอบของ sepiolite ที่ผลิตและติดฉลากก่อนวันที่ 12 พฤศจิกายน 2568 โดยปฏิบัติตามกฎระเบียบฉบับเดิมก่อนวันที่ 12 พฤษภาคม 2568 สามารถวางจำหน่ายและใช้ได้จนกว่าสินค้าจะหมดไปจากคลังสินค้า
(ข) อาหารสัตว์ผสม (compound feeds) และวัตถุดิบอาหารสัตว์ (feed materials) ที่ใช้สำหรับสัตว์ที่ผลิตเพื่อเป็นอาหาร ที่มีส่วนประกอบของ sepiolite ที่ผลิตและติดฉลากก่อนวันที่ 12 พฤษภาคม 2569 โดยปฏิบัติตามกฎระเบียบฉบับเดิมก่อนวันที่ 12 พฤษภาคม 2568 สามารถวางจำหน่ายและใช้ได้จนกว่าสินค้าจะหมดไปจากคลังสินค้า
(ค) อาหารสัตว์ผสม (compound feeds) และวัตถุดิบอาหารสัตว์ (feed materials) ที่ไม่ใช้สำหรับสัตว์ที่ผลิตเพื่อเป็นอาหาร ที่มีส่วนประกอบของ sepiolite ที่ผลิตและติดฉลากก่อนวันที่ 12 พฤษภาคม 2570 โดยปฏิบัติตามกฎระเบียบฉบับเดิมก่อนวันที่ 12 พฤษภาคม 2568 สามารถวางจำหน่ายและใช้ได้จนกว่าสินค้าจะหมดไปจากคลังสินค้า
4) กฎระเบียบดังกล่าวมีผลบังคับใช้ 20 วัน หลังจากที่ประกาศใน EU Official Journal (ประกาศ ณ วันที่ 22 เมษายน ๒๕๖8) ทั้งนี้ รายละเอียดของกฎระเบียบดังกล่าว สามารถสืบค้นเพิ่มเติมได้จาก QR code
