free page hit counter

สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ประจำสหภาพยุโรป

Office of Agricultural Affairs | Royal Thai Embassy, Brussels
HomeRegulationสหภาพยุโรปอนุญาตสารเสริมในอาหารสัตว์

สหภาพยุโรปอนุญาตสารเสริมในอาหารสัตว์

Featured Image by chatnarin pramnapan on Unsplash
  1. Commission Implementing Regulation (EU) 2020/1755 ว่าด้วย การอนุญาตให้ Preparation of Bacillus coagulans DSM 32016 เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ ใน EU Official Journal L 395/5
    1. คณะกรรมาธิการยุโรปเห็นชอบให้ Preparation of Bacillus coagulans DSM 32016 เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ ภายใต้กลุ่ม zootechnical additives เพื่อช่วยควบคุมเชื้อในกระเพาะ (gut flora stabilisers) และอนุญาตให้ใช้กับลูกหมูป่า (วงศ์ Suidae) ที่หย่านมแล้วและลูกหมูป่าระยะหย่านม ไก่เพื่อขุน และนกสวยงาม เป็นระยะเวลา 10 ปี ตั้งแต่วันที่กฎระเบียบฯ มีผลบังคับใช้ ไปจนถึงวันที่ 15 ธันวาคม 2573 เนื่องจากไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพสัตว์ ความปลอดภัยของผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม สารดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงจากการใช้งาน ผู้ใช้งานจึงควรสวมใส่ชุดป้องกัน
    2. คณะกรรมาธิการยุโรปกำหนดให้ใช้สารเสริมดังกล่าวขั้นต่ำสุดที่ปริมาณ 1 x 109 CFU/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)
    3. กฎระเบียบดังกล่าวมีผลบังคับใช้ 20 วัน หลังจากที่ประกาศใน EU Official Journal (ประกาศ ณ วันที่ 25 พฤศจิกายน 2563) ทั้งนี้ รายละเอียดของกฎระเบียบดังกล่าว สามารถสืบค้นเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ ดังนี้ https://eur-lex.europa.eu/legal-content/EN/TXT/PDF/?uri=CELEX:32020R1755&from=EN
  2. Commission Implementing Regulation (EU) 2020/1761 ว่าด้วย การอนุญาตให้ L-cysteine hydrochloride monohydrate ที่ผลิตจากการหมักกับ Escherichia coli KCCM 80109 และ KCCM 80197 เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ ใน EU Official Journal L 397/10
    1. คณะกรรมาธิการยุโรปเห็นชอบให้ L-cysteine hydrochloride monohydrate ที่ผลิตจากการหมักกับ Escherichia coli KCCM 80109 และ KCCM 80197 เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ ภายใต้กลุ่มสารเสริมทางประสาทสัมผัส (sensory additives) โดยมีหน้าที่เป็นสารแต่งกลิ่น (flavouring compounds) และอนุญาตให้ใช้กับสัตว์ทุกชนิด เป็นระยะเวลา 10 ปี ตั้งแต่วันที่กฎระเบียบฯ มีผลบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 16 ธันวาคม 2573 เนื่องจากไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพสัตว์ ความปลอดภัยของผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม สารดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงจากการใช้งาน ผู้ใช้งานจึงควรสวมใส่ชุดป้องกัน
    2. คณะกรรมาธิการยุโรปกำหนดให้ใช้สารดังกล่าวโดยผสมกับอาหารสัตว์ในรูปของสารผสมล่วงหน้า (premixture) และมีค่าแนะนำการใช้สารที่ปริมาณสูงสุด 25 มิลลิกรัม/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)
    3. กฎระเบียบดังกล่าวมีผลบังคับใช้ 20 วัน หลังจากที่ประกาศใน EU Official Journal (ประกาศ ณ วันที่ 26 พฤศจิกายน 2563) ทั้งนี้ รายละเอียดของกฎระเบียบดังกล่าว สามารถสืบค้นเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ ดังนี้ https://eur-lex.europa.eu/legal-content/EN/TXT/PDF/?uri=CELEX:32020R1761&from=EN