free page hit counter

สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ประจำสหภาพยุโรป

Office of Agricultural Affairs | Royal Thai Embassy, Brussels
HomeUncategorizedสหภาพยุโรปอนุญาตสารเสริมในอาหารสัตว์

สหภาพยุโรปอนุญาตสารเสริมในอาหารสัตว์

1. Commission Implementing Regulation (EU) 2025/169 ว่าด้วย การอนุญาตให้ preparation of Saccharomyces cerevisiae DBVPG 48 SF เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ ใน EU Official Journal L series โดยมีรายละเอียดดังนี้

    1) คณะกรรมาธิการยุโรปเห็นชอบให้ preparation of Saccharomyces cerevisiae DBVPG 48 SF เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ (feed additive) ภายใต้กลุ่มสารเสริมเฉพาะทางสำหรับสัตว์ (zootechnical additives) เพื่อช่วยเพิ่มพารามิเตอร์สมรรถภาพสัตว์ (improvement of performance parameters) และอนุญาตให้ใช้กับสัตว์เคี้ยวเอื้องทุกชนิด (ยกเว้นสัตว์เคี้ยวเอื้องเลี้ยงผลิตนม) เป็นระยะเวลา 10 ปี ตั้งแต่วันที่กฎระเบียบฯ มีผลบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2578 เนื่องจากไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพสัตว์ ความปลอดภัยของผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม สารดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงจากการใช้งาน ผู้ใช้งานจึงควรสวมใส่อุปกรณ์ป้องกัน

    2) คณะกรรมาธิการยุโรปกำหนดปริมาณการใช้งานขั้นต่ำสุด ในสัตว์เคี้ยวเอื้องทุกชนิด (ยกเว้นโคนมและสัตว์เคี้ยวเอื้องเลี้ยงเพื่อผลิตนม)  ที่ปริมาณ 4 x 109 CFU/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)

    3) กฎระเบียบดังกล่าวมีผลบังคับใช้ 20 วัน หลังจากที่ประกาศใน EU Official Journal (ประกาศ ณ วันที่ 31 มกราคม 2568) ทั้งนี้ รายละเอียดของกฎระเบียบดังกล่าว สามารถสืบค้นเพิ่มเติมได้จาก QR code

2. Commission Implementing Regulation (EU) 2025/188 ว่าด้วย การอนุญาตให้ L-tryptophan  ที่ผลิตจาก Escherichia coli CGMCC 7.460 เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ ใน EU Official Journal L series โดยมีรายละเอียดดังนี้

    1) คณะกรรมาธิการยุโรปเห็นชอบให้ L-tryptophan  ที่ผลิตจาก Escherichia coli CGMCC 7.460 เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ (feed additive) ภายใต้กลุ่มสารเสริมทางโภชนาการ (nutritional additives) กลุ่มกรดอะมิโน เกลือของกรดอะมิโน และสารที่อยู่กลุ่มเดียวกัน (amino acids, their salts and analogues) และอนุญาตให้ใช้กับสัตว์ทุกชนิด เป็นระยะเวลา 10 ปี ตั้งแต่วันที่กฎระเบียบฯ มีผลบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2578 เนื่องจากไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพสัตว์ ความปลอดภัยของผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม สารดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงจากการใช้งาน ผู้ใช้งานจึงควรสวมใส่อุปกรณ์ป้องกัน

   2) กฎระเบียบดังกล่าวมีผลบังคับใช้ 20 วัน หลังจากที่ประกาศใน EU Official Journal (ประกาศ ณ วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568) ทั้งนี้ รายละเอียดของกฎระเบียบดังกล่าว สามารถสืบค้นเพิ่มเติมได้จาก QR code