คณะกรรมาธิการยุโรปประกาศ Commission Regulation (EU) 2023/1428 ว่าด้วย การปรับแก้ภาคผนวก Regulation (EU) No 231/2012 เกี่ยวกับข้อกำหนดของวัตถุเจือปนอาหาร mono- and diglycerides of fatty acids (E 471) ใน EU Official Journal L 175/6 ดังนี้
กำหนดให้ปรับแก้คุณลักษณะของวัตถุเจือปนอาหาร mono- and diglycerides of fatty acids (E 471) ใหม่ โดยให้ปรับลดค่าปริมาณขีดจำกัดที่ยอมรับได้สูงสุด (MLs) ของสารหนู ตะกั่ว ปรอท และแคทเมี่ยม ไม่เกินกว่า 0,1 มิลลิกรัม/กิโลกรัม 3-MCPD ไม่เกินกว่า 0,75 มิลลิกรัม/กิโลกรัม 3-MCPD fatty acid esters ไม่เกินกว่า 2,5 มิลลิกรัม/กิโลกรัม และ glycidyl fatty acids esters ไม่เกินกว่า 5 มิลลิกรัม/กิโลกรัมในอาหารทารกและเด็กเล็ก และไม่เกินกว่า 10 มิลลิกรัม/กิโลกรัมในการใช้อื่นๆ ตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคม 2566 – วันที่ 30 มกราคม 2567 และไม่เกินกว่า 5 มิลลิกรัม/กิโลกรัมในการใช้ทุกประเภท ตั้งแต่วันที่ 30 มกราคม 2567 เป็นต้นไป
กำหนดช่วงระยะเวลาเปลี่ยนผ่าน ดังนี้
กำหนดให้วัตถุเจือปนอาหาร mono- and diglycerides of fatty acids (E 471) ที่วางจำหน่ายในตลาดก่อนวันที่ 30 กรกฎาคม 2566 ที่ไม่ปฏิบัติตามค่าปริมาณขีดจำกัดที่ยอมรับได้สูงสุด (MLs) ของสารหนู ตะกั่ว ปรอท แคทเมี่ยม 3-MCPD และ 3-MCPD fatty acid esters (แสดงค่า 3-MCPD) หรือ erucic acid ปรับใช้ตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคม 2566 ให้สามารถใช้ในอาหารได้ตามภาคผนวก II และภาคผนวก III Regulation (EC) No 1333/2008 และ Regulation (EU) 2023/915 ไปจนถึงวันที่ 30 มกราคม 2567
กำหนดให้วัตถุเจือปนอาหาร mono- and diglycerides of fatty acids (E 471) ที่วางจำหน่ายในตลาดก่อนวันที่ 30 กรกฎาคม 2566 ที่ไม่ปฏิบัติตามค่าปริมาณขีดจำกัดที่ยอมรับได้สูงสุด (MLs) ของ glycidyl fatty acids esters (แสดงค่า glycidol) ปรับใช้ตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคม 2566 ให้สามารถใช้ในอาหารได้ ยกเว้นอาหารสำหรับทารกและเด็กเล็ก ตามภาคผนวก II และภาคผนวก III Regulation (EC) No 1333/2008 และ Regulation (EU) 2023/915 ไปจนถึงวันที่ 30 มกราคม 2567
กำหนดให้อาหารที่มีส่วนผสมของวัตถุเจือปนอาหาร mono- and diglycerides of fatty acids (E 471) ที่วางจำหน่ายในตลาดก่อนวันที่ 30 กรกฎาคม 2566 ที่ไม่ปฏิบัติตามค่าปริมาณขีดจำกัดที่ยอมรับได้สูงสุด (MLs) ของ สารหนู ตะกั่ว ปรอท แคทเมี่ยม 3-MCPD และ 3-MCPD fatty acid esters (แสดงค่า 3-MCPD) หรือ erucic acid ปรับใช้ตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคม 2566 ให้สามารถวางจำหน่ายในตลาดได้ไปจนถึงวันที่ 30 มกราคม 2567 หรือจนกว่าสินค้าจะหมดอายุ
กำหนดให้อาหาร ยกเว้นอาหารสำหรับทารกและเด็กเล็ก ที่มีส่วนผสมของวัตถุเจือปนอาหาร mono- and diglycerides of fatty acids (E 471) ที่วางจำหน่ายในตลาดก่อนวันที่ 30 กรกฎาคม 2566 ที่ไม่ปฏิบัติตามค่าปริมาณขีดจำกัดที่ยอมรับได้สูงสุด (MLs) ของ glycidyl fatty acids esters (แสดงค่า glycidol) ปรับใช้ตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคม 2566 ให้สามารถวางจำหน่ายในตลาดได้ไปจนถึงวันที่ 30 มกราคม 2567 หรือจนกว่าสินค้าจะหมดอายุ
กำหนดให้อาหารสำหรับทารกและเด็กเล็กที่วางจำหน่ายในตลาดก่อนวันที่ 30 กรกฎาคม 2566 ที่มีส่วนผสมของวัตถุเจือปนอาหาร mono- and diglycerides of fatty acids (E 471) ที่ไม่ปฏิบัติตามค่าปริมาณขีดจำกัดที่ยอมรับได้สูงสุด (MLs) ของ glycidyl fatty acids esters (แสดงค่า glycidol) ปรับใช้ตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคม 2566 ให้สามารถวางจำหน่ายในตลาดได้ไปจนกว่าสินค้าจะหมดอายุ
กำหนดให้วัตถุเจือปนอาหาร mono- and diglycerides of fatty acids (E 471) ที่วางจำหน่ายในตลาดหลังวันที่ 30 กรกฎาคม 2566 – จนถึงวันที่ 30 มกราคม 2567 ที่ไม่ปฏิบัติตามค่าปริมาณขีดจำกัดที่ยอมรับได้สูงสุด (MLs) ของ glycidyl fatty acids esters (แสดงค่า glycidol) ปรับใช้ตั้งแต่วันที่ 30 มกราคม 2567 ให้สามารถใช้ในอาหารได้ ยกเว้นในอาหารสำหรับทารกและเด็กเล็ก ตามภาคผนวก II และภาคผนวก III Regulation (EC) No 1333/2008 และ Regulation (EU) 2023/915 ไปจนกว่าสินค้าจะหมดไปจากคลังสินค้า
กำหนดให้อาหาร ยกเว้นอาหารสำหรับทารกและเด็กเล็ก ที่มีส่วนผสมของวัตถุเจือปนอาหาร mono- and diglycerides of fatty acids (E 471) ที่วางจำหน่ายในตลาดหลังวันที่ 30 กรกฎาคม 2566 – จนถึงวันที่ 30 มกราคม 2567 ที่ไม่ปฏิบัติตามค่าปริมาณขีดจำกัดที่ยอมรับได้สูงสุด (MLs) ของ glycidyl fatty acids esters (แสดงค่า glycidol) ปรับใช้ตั้งแต่วันที่ 30 มกราคม 2567 ให้สามารถวางจำหน่ายในตลาดได้ไปจนกว่าสินค้าจะหมดอายุ
กฎระเบียบดังกล่าวมีผลบังคับใช้ 20 วัน หลังจากที่ประกาศใน EU Official Journal (ประกาศ ณ วันที่ 10 มิถุนายน 2566) ทั้งนี้ รายละเอียดของกฎระเบียบดังกล่าว สามารถสืบค้นเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ ดังนี้
https://eur-lex.europa.eu/legal-content/EN/TXT/PDF/?uri=CELEX:32023R1428