free page hit counter

สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ประจำสหภาพยุโรป

Office of Agricultural Affairs | Royal Thai Embassy, Brussels
HomeRegulationสหภาพยุโรปอนุญาตสารเสริมในอาหารสัตว์

สหภาพยุโรปอนุญาตสารเสริมในอาหารสัตว์

Featured Image under Unsplash

1. Commission Implementing Regulation (EU) 2023/1163 ว่าด้วย การอนุญาตให้ L-lysine monohydrochloride และ L-lysine sulphate ที่ผลิตโดย Corynebacterium glutamicum CGMCC 17927 เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ ใน EU Official Journal L 154/41 โดยมีรายละเอียดดังนี้

    1) คณะกรรมาธิการยุโรปเห็นชอบให้ L-lysine monohydrochloride และ L-lysine sulphate ที่ผลิตโดย Corynebacterium glutamicum CGMCC 17927 เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ (feed additive) ภายใต้กลุ่มสารเสริมทางโภชนาการ (nutritional additives) กลุ่มกรดอะมิโน เกลือของกรดอะมิโน และสารที่อยู่กลุ่มเดียวกัน (amino acids, their salts and analogues) และอนุญาตให้ใช้กับสัตว์ทุกชนิด เป็นระยะเวลา 10 ปี ตั้งแต่วันที่กฎระเบียบฯ มีผลบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 6 กรกฎาคม 2576 เนื่องจากไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพสัตว์ ความปลอดภัยของผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม สารดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงจากการใช้งาน ผู้ใช้งานจึงควรสวมใส่ชุดป้องกัน

    2) คณะกรรมาธิการยุโรปกำหนดการใช้งานของ L-lysine sulphate ที่ผลิตโดย Corynebacterium glutamicum CGMCC 17927 ระดับสูงสุดในสัตว์ทุกชนิด  ที่ปริมาณ 10,000 มิลลิกรัมของสาร/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)

    3) กฎระเบียบดังกล่าวมีผลบังคับใช้ 20 วัน หลังจากที่ประกาศใน EU Official Journal (ประกาศ ณ วันที่ 15 มิถุนายน 2566) ทั้งนี้ รายละเอียดของกฎระเบียบดังกล่าว สามารถสืบค้นเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ ดังนี้

https://eur-lex.europa.eu/legal-content/EN/TXT/PDF/?uri=CELEX:32023R1163

2. Commission Implementing Regulation (EU) 2023/1167 ว่าด้วย การอนุญาตให้ preparation of 6-phytase ที่ผลิตโดย Trichoderma reesei CBS 146250 เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ ใน EU Official Journal L 168/17 โดยมีรายละเอียดดังนี้

    1) คณะกรรมาธิการยุโรปเห็นชอบให้ preparation of 6-phytase ที่ผลิตโดย Aspergillus oryzae DSM 33699 เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ (feed additive) ภายใต้กลุ่มสารเสริมเฉพาะทางสำหรับสัตว์ (zootechnical additives) เพื่อช่วยเพิ่มความสามารถในการย่อยอาหาร (digestibility enhancers) และอนุญาตให้ใช้กับสัตว์ปีกและสุกร เป็นระยะเวลา 10 ปี ตั้งแต่วันที่กฎระเบียบฯ มีผลบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 6 กรกฎาคม 2576 เนื่องจากไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพสัตว์ ความปลอดภัยของผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม สารดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงจากการใช้งาน ผู้ใช้งานจึงควรสวมใส่ชุดป้องกัน

    2) คณะกรรมาธิการยุโรปกำหนดการใช้สารเสริมที่ระดับต่ำสุดในสัตว์ที่เกี่ยวข้อง ดังนี้

         – สัตว์ปีกทุกชนิด ยกเว้นสัตว์ปีกเพื่อไข่ และสุกร ระดับต่ำสุดที่ปริมาณ 500 FTU หน่วยกิจกรรม/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)

         – สัตว์ปีกเพื่อไข่  ระดับต่ำสุดที่ปริมาณ 300 FTU หน่วยกิจกรรม/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)

    3) กฎระเบียบดังกล่าวมีผลบังคับใช้ 20 วัน หลังจากที่ประกาศใน EU Official Journal (ประกาศ ณ วันที่ 16 มิถุนายน 2566) ทั้งนี้ รายละเอียดของกฎระเบียบดังกล่าว สามารถสืบค้นเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ ดังนี้

https://eur-lex.europa.eu/legal-content/EN/TXT/PDF/?uri=CELEX:32023R1167

3. Commission Implementing Regulation (EU) 2023/1169 ว่าด้วย การอนุญาตให้ preparation of endo-1,4-beta-xylanase, endo-1,4-beta-glucanase และ xyloglucan-specific endo-beta-1,4-glucanase ที่ผลิตโดย Trichoderma citrinoviride DSM 33578 เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ ใน EU Official Journal L 155/11 โดยมีรายละเอียดดังนี้

    1) คณะกรรมาธิการยุโรปเห็นชอบให้ preparation of endo-1,4-beta-xylanase, endo-1,4-beta-glucanase และ xyloglucan-specific endo-beta-1,4-glucanase ที่ผลิตโดย Trichoderma citrinoviride DSM 33578  เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ (feed additive) ภายใต้กลุ่มสารเสริมเฉพาะทางสำหรับสัตว์ (zootechnical additives) เพื่อช่วยเพิ่มความสามารถในการย่อยอาหาร (digestibility enhancers) และอนุญาตให้ใช้กับสัตว์ปีกและนกสวยงาม เป็นระยะเวลา 10 ปี ตั้งแต่วันที่กฎระเบียบฯ มีผลบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 6 กรกฎาคม 2576 เนื่องจากไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพสัตว์ ความปลอดภัยของผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม สารดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงจากการใช้งาน ผู้ใช้งานจึงควรสวมใส่ชุดป้องกัน

    2) คณะกรรมาธิการยุโรปกำหนดการใช้สารเสริมที่เกี่ยวข้องในสัตว์ปีกเพื่อขุน สัตว์ปีกเลี้ยงเพื่อไข่/เพื่อผสมพันธุ์ และนกสวยงาม ดังนี้

         – endo-1,4-beta-xylanase ระดับต่ำสุดที่ปริมาณ 1,500 EPU หน่วยกิจกรรม/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)

         –  endo-1,4-beta-glucanase ระดับต่ำสุดที่ปริมาณ 100 CU หน่วยกิจกรรม/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)

          –  xyloglucan-specific endo-beta-1,4-glucanase ระดับต่ำสุดที่ปริมาณ 100 XGU หน่วยกิจกรรม/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)

    3) กฎระเบียบดังกล่าวมีผลบังคับใช้ 20 วัน หลังจากที่ประกาศใน EU Official Journal (ประกาศ ณ วันที่ 16 มิถุนายน 2566) ทั้งนี้ รายละเอียดของกฎระเบียบดังกล่าว สามารถสืบค้นเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ ดังนี้

https://eur-lex.europa.eu/legal-content/EN/TXT/PDF/?uri=CELEX:32023R1169

4. Commission Implementing Regulation (EU) 2023/1170 ว่าด้วย การอนุญาตให้ preparation of Saccharomyces cerevisiae CNCM I-1077 เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ ใน EU Official Journal L 155/15 โดยมีรายละเอียดดังนี้

    1) คณะกรรมาธิการยุโรปเห็นชอบให้ preparation of Saccharomyces cerevisiae CNCM I-1077 เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ (feed additive) ภายใต้กลุ่มสารเสริมเฉพาะทางสำหรับสัตว์ (zootechnical additives) เพื่อช่วยควบคุมเชื้อในกระเพาะ (gut flora stabilisers) เป็นระยะเวลา 10 ปี ตั้งแต่วันที่กฎระเบียบฯ มีผลบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 6 กรกฎาคม 2576 เนื่องจากไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพสัตว์ ความปลอดภัยของผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม สารดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงจากการใช้งาน ผู้ใช้งานจึงควรสวมใส่ชุดป้องกัน

    2) คณะกรรมาธิการยุโรปกำหนดให้ใช้สารเสริมดังกล่าว ดังนี้

        – โคเพื่อขุน สัตว์เคี้ยวเอื้องทุกชนิดเพื่อขุน และอูฐเพื่อขุน ระดับต่ำสุดที่ปริมาณ 5 x 108  CFU/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)

        – โคนม ระดับต่ำสุดที่ปริมาณ 4 x 108  CFU/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)

    3) คณะกรรมาธิการยุโรปกำหนดระยะเวลาเปลี่ยนผ่าน ดังนี้

        (ก) preparation of Saccharomyces cerevisiae CNCM I-1077 และสารผสมล่วงหน้า (premixture) ที่มีส่วนประกอบของสารดังกล่าวสำหรับโคนมและโคเพื่อขุน ที่ผลิตและติดฉลากก่อนวันที่ 6 มกราคม 2567 โดยปฏิบัติตามกฎระเบียบฉบับเดิม ก่อนวันที่ 6 กรกฎาคม 2566 สามารถวางจำหน่ายและใช้ได้จนกว่าสินค้าจะหมดไปจากคลังสินค้า 

        (ข) อาหารสัตว์ผสม (compound feeds) และวัตถุดิบอาหารสัตว์ (feed materials) ที่มีส่วนประกอบของ preparation of Saccharomyces cerevisiae CNCM I-1077 สำหรับโคนมและโคเพื่อขุน ที่ผลิตและติดฉลากก่อนวันที่ 6 กรกฎาคม 2567 โดยปฏิบัติตามกฎระเบียบฉบับเดิม ก่อนวันที่ 6 กรกฎาคม 2566 สามารถวางจำหน่ายและใช้ได้จนกว่าสินค้าจะหมดไปจากคลังสินค้า

    4) กฎระเบียบดังกล่าวมีผลบังคับใช้ 20 วัน หลังจากที่ประกาศใน EU Official Journal (ประกาศ ณ วันที่ 16 มิถุนายน 2566) ทั้งนี้ รายละเอียดของกฎระเบียบดังกล่าว สามารถสืบค้นเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ ดังนี้

https://eur-lex.europa.eu/legal-content/EN/TXT/PDF/?uri=CELEX:32023R1170

5. Commission Implementing Regulation (EU) 2023/1172 ว่าด้วย การอนุญาต/ไม่อนุญาต ให้ preparation of lasalocid A sodium (Avatec 150 G) เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ และการถอน preparation of lasalocid A sodium (Avatec 15% cc) ออกจากการวางจำหน่าย ใน EU Official Journal L 155/22 โดยมีรายละเอียดดังนี้

    1) คณะกรรมาธิการยุโรปพิจารณาลงความเห็นต่อ preparation of lasalocid A sodium (Avatec 150 G) และ preparation of lasalocid A sodium (Avatec 15% cc) ดังนี้ 

         1.1) อนุญาตให้ preparation of lasalocid A sodium (Avatec 150 G)  เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ (feed additive) ภายใต้กลุ่ม Coccidiostats และ Histomonostats และอนุญาตให้ใช้กับไก่เพื่อขุน เป็นระยะเวลา 10 ปี ตั้งแต่วันที่กฎระเบียบฯ มีผลบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 6 กรกฎาคม 2576 เนื่องจากไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพสัตว์ ความปลอดภัยของผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม สารดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงจากการใช้งาน ผู้ใช้งานจึงควรสวมใส่ชุดป้องกัน โดยกำหนดปริมาณใช้สารเสริมต่ำสุด/สูงสุด ที่ระดับ 90 มิลลิกรัม/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)

        1.2) ไม่อนุญาตให้ preparation of lasalocid A sodium (Avatec 150 G)  เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ใช้กับไก่เลี้ยงเพื่อไข่

        1.3) ถอนการวางจำหนาย preparation of lasalocid A sodium (Avatec 15% cc) ออกจากตลาด

    2) กฎระเบียบดังกล่าวมีผลบังคับใช้ 20 วัน หลังจากที่ประกาศใน EU Official Journal (ประกาศ ณ วันที่ 16 มิถุนายน 2566) ทั้งนี้ รายละเอียดของกฎระเบียบดังกล่าว สามารถสืบค้นเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ ดังนี้

https://eur-lex.europa.eu/legal-content/EN/TXT/PDF/?uri=CELEX:32023R1172

6. Commission Implementing Regulation (EU) 2023/1333 ว่าด้วย การอนุญาตให้ preparation of endo-1,3(4)-beta-glucanase ที่ผลิตโดย Aspergillus fijiensis CBS 589.94 เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ ใน EU Official Journal L 166/106 โดยมีรายละเอียดดังนี้

    1) คณะกรรมาธิการยุโรปเห็นชอบให้ preparation of endo-1,3(4)-beta-glucanase ที่ผลิตโดย Aspergillus fijiensis CBS 589.94 เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ (feed additive) ภายใต้กลุ่มสารเสริมเฉพาะทางสำหรับสัตว์ (zootechnical additives) เพื่อช่วยเพิ่มความสามารถในการย่อยอาหาร (digestibility enhancers) และอนุญาตให้ใช้กับสัตว์ปีกและสุกร เป็นระยะเวลา 10 ปี ตั้งแต่วันที่กฎระเบียบฯ มีผลบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 20 กรกฎาคม 2576 เนื่องจากไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพสัตว์ ความปลอดภัยของผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม สารดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงจากการใช้งาน ผู้ใช้งานจึงควรสวมใส่ชุดป้องกัน

    2) คณะกรรมาธิการยุโรปกำหนดการใช้สารเสริมที่ระดับต่ำสุดในสัตว์ที่เกี่ยวข้อง ดังนี้

         – สัตว์ปีกเพื่อขุน และสุกรหย่านม ระดับต่ำสุดที่ปริมาณ 10 FBG หน่วยกิจกรรม/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)

    3) คณะกรรมาธิการยุโรปกำหนดระยะเวลาเปลี่ยนผ่าน ดังนี้

        (ก) preparation of endo-1,3(4)-beta-glucanase ที่ผลิตโดย Aspergillus fijiensis CBS 589.94 และ

สารผสมล่วงหน้า (premixture) ที่มีส่วนประกอบของสารดังกล่าว ที่ผลิตและติดฉลากก่อนวันที่ 20 มกราคม 2567 โดยปฏิบัติตามกฎระเบียบฉบับเดิม ก่อนวันที่ 20 กรกฎาคม 2566 สามารถวางจำหน่ายและใช้ได้จนกว่าสินค้าจะหมดไปจากคลังสินค้า 

        (ข) อาหารสัตว์ผสม (compound feeds) และวัตถุดิบอาหารสัตว์ (feed materials) ที่มีส่วนประกอบของ preparation of endo-1,3(4)-beta-glucanase ที่ผลิตโดย Aspergillus fijiensis CBS 589.94 ที่ผลิตและติดฉลากก่อนวันที่ 20 กรกฎาคม 2567 โดยปฏิบัติตามกฎระเบียบฉบับเดิม ก่อนวันที่ 20 กรกฎาคม 2566 สามารถวางจำหน่ายและใช้ได้จนกว่าสินค้าจะหมดไปจากคลังสินค้า

    4) กฎระเบียบดังกล่าวมีผลบังคับใช้ 20 วัน หลังจากที่ประกาศใน EU Official Journal (ประกาศ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2566) ทั้งนี้ รายละเอียดของกฎระเบียบดังกล่าว สามารถสืบค้นเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ ดังนี้

https://eur-lex.europa.eu/legal-content/EN/TXT/PDF/?uri=CELEX:32023R1333

7. Commission Implementing Regulation (EU) 2023/1405 ว่าด้วย การอนุญาตให้ preparation of Lactiplantibacillus plantarum ATCC 55058 และ preparation of Lactiplantibacillus plantarum ATCC 55942 เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ ใน EU Official Journal L 169/31 โดยมีรายละเอียดดังนี้

    1) คณะกรรมาธิการยุโรปเห็นชอบให้ preparation of Lactiplantibacillus plantarum ATCC 55058 และ preparation of Lactiplantibacillus plantarum ATCC 55942 เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ (feed additive) ภายใต้กลุ่มสารเสริมทางเทคโนโลยี (technological additives) โดยมีหน้าที่เป็นสารเร่งปฏิกริยาในหญ้าหมัก (silage additives) และอนุญาตให้ใช้กับสัตว์ทุกชนิด เป็นระยะเวลา 10 ปี ตั้งแต่วันที่กฎระเบียบฯ มีผลบังคับใช้ ไปจนถึงวันที่ 24 กรกฎาคม 2576 เนื่องจากไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพสัตว์ ความปลอดภัยของผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม สารดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงจากการใช้งาน ผู้ใช้งานจึงควรสวมใส่ชุดป้องกัน

     2) คณะกรรมาธิการยุโรปกำหนดระยะเวลาเปลี่ยนผ่าน ดังนี้

         preparation of Lactiplantibacillus plantarum ATCC 55058 และ preparation of Lactiplantibacillus plantarum ATCC 55942 และอาหารสัตว์ที่มีส่วนประกอบของสารดังกล่าวที่ผลิตและติดฉลากก่อนวันที่ 24 กรกฎาคม 2567 โดยปฏิบัติตามกฎระเบียบฉบับเดิม ก่อนวันที่ 24 กรกฎาคม 2566 สามารถวางจำหน่ายและใช้ได้จนกว่าสินค้าจะหมดไปจากคลังสินค้า

     3) กฎระเบียบดังกล่าวมีผลบังคับใช้ 20 วัน หลังจากที่ประกาศใน EU Official Journal (ประกาศ ณ วันที่ 4 กรกฎาคม 2566) ทั้งนี้ รายละเอียดของกฎระเบียบดังกล่าว สามารถสืบค้นเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ ดังนี้

https://eur-lex.europa.eu/legal-content/EN/TXT/PDF/?uri=CELEX:32023R1405

8. Commission Implementing Regulation (EU) 2023/1417 ว่าด้วย การอนุญาตให้ butyric acid, ethyl butyrate, ethyl isobutyrate, ethyl isovalerate, methyl isovalerate, 2-methyl-2-pentenoic acid, 6-methylhept-5-en-2-one, undecan-2-one, octan-2-one, nonan-2-one, octan-3-one, tridecan-2-one, 5-methylhept-2-en-4-one, dodecano-1,5-lactone, tetradecano-1,5-lactone, 5-methylfurfural, 4-phenylbut-3-en-2-one, p-anisyl alcohol, 4-methoxybenzaldehyde, piperonal, vanillin, p-anisyl acetate, benzyl benzoate, isobutyl salicylate, isopentyl salicylate, benzyl salicylate และ diphenyl ether เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ ใน EU Official Journal L 171/11 โดยมีรายละเอียดดังนี้                                                                                           

    1) คณะกรรมาธิการยุโรปเห็นชอบให้สารเสริม จำนวน 27 รายการ ซึ่งได้แก่ butyric acid, ethyl butyrate, ethyl isobutyrate, ethyl isovalerate, methyl isovalerate, 2-methyl-2-pentenoic acid, 6-methylhept-5-en-2-one, undecan-2-one, octan-2-one, nonan-2-one, octan-3-one, tridecan-2-one, 5-methylhept-2-en-4-one, dodecano-1,5-lactone, tetradecano-1,5-lactone, 5-methylfurfural, 4-phenylbut-3-en-2-one, p-anisyl alcohol, 4-methoxybenzaldehyde, piperonal, vanillin, p-anisyl acetate, benzyl benzoate, isobutyl salicylate, isopentyl salicylate, benzyl salicylate และ diphenyl ether เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ (feed additive) ภายใต้กลุ่มสารเสริมทางประสาทสัมผัส (sensory additives) โดยมีหน้าที่เป็นสารแต่งกลิ่น (flavouring compounds) และอนุญาตให้ใช้กับสัตว์ทุกชนิด เป็นระยะเวลา 10 ปี ตั้งแต่วันที่กฎระเบียบฯ มีผลบังคับใช้ ไปจนถึงวันที่ 26 กรกฎาคม 2576 เนื่องจากไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพสัตว์ ความปลอดภัยของผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม สารดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงจากการใช้งาน ผู้ใช้งานจึงควรสวมใส่ชุดป้องกัน

     2) คณะกรรมาธิการยุโรปได้กำหนดมาตรการเปลี่ยนผ่าน ดังนี้

        (ก) สารเสริมทั้ง 27 รายการที่มีรายชื่อปรากฏในภาคผวกและสารผสมล่วงหน้า (premixture) ที่มีส่วนประกอบของสารเสริมดังกล่าวที่ผลิตและติดฉลากก่อนวันที่ 26 มกราคม 2566 โดยปฏิบัติตามกฎระเบียบฉบับเดิม ก่อนวันที่ 26 กรกฎาคม 2566 สามารถวางจำหน่ายและใช้ได้จนกว่าสินค้าจะหมดไปจากคลังสินค้า

        (ข) อาหารสัตว์ผสม (compound feeds) และวัตถุดิบอาหารสัตว์ (feed materials) ที่ใช้สำหรับสัตว์ที่ผลิตเพื่อเป็นอาหาร ที่มีส่วนประกอบของสารเสริมทั้ง 27 รายการดังกล่าว ที่ผลิตและติดฉลากก่อนวันที่ 26 กรกฎาคม 2567 โดยปฏิบัติตามกฎระเบียบฉบับเดิม ก่อนวันที่ 26 กรกฎาคม 2566 สามารถวางจำหน่ายและใช้ได้จนกว่าสินค้าจะหมดไปจากคลังสินค้า

        (ค) อาหารสัตว์ผสม (compound feeds) และวัตถุดิบอาหารสัตว์ (feed materials) ที่ไม่ใช้สำหรับสัตว์ที่ผลิตเพื่อเป็นอาหาร ที่มีส่วนประกอบของน้ำมันหอมระเหยดังกล่าว ที่ผลิตและติดฉลากก่อนวันที่ 26 กรกฎาคม 2568 โดยปฏิบัติตามกฎระเบียบฉบับเดิม ก่อนวันที่ 26 กรกฎาคม 2566 สามารถวางจำหน่ายและใช้ได้จนกว่าสินค้าจะหมดไปจากคลังสินค้า

   3) กฎระเบียบดังกล่าวมีผลบังคับใช้ 20 วัน หลังจากที่ประกาศใน EU Official Journal (ประกาศ ณ วันที่ 6 กรกฎาคม 2566) ทั้งนี้ รายละเอียดของกฎระเบียบดังกล่าว สามารถสืบค้นเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ ดังนี้

https://eur-lex.europa.eu/legal-content/EN/TXT/PDF/?uri=CELEX:32023R1417