1. Commission Implementing Regulation (EU) 2023/1332 ว่าด้วย การต่ออนุญาตให้ preparation of endo-1,4-beta-xylanase ที่ผลิตโดย Trichoderma reesei CBS 114044 เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ ใน EU Official Journal L 166/102 โดยมีรายละเอียดดังนี้
1) คณะกรรมาธิการยุโรปเห็นชอบต่อการอนุญาตให้ preparation of endo-1,4-beta-xylanase ที่ผลิตโดย Trichoderma reesei CBS 114044 เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ (feed additive) ภายใต้กลุ่มสารเสริมเฉพาะทางสำหรับสัตว์ (zootechnical additives) เพื่อช่วยเพิ่มความสามารถในการย่อยอาหาร (digestibility enhancers) และอนุญาตให้ใช้กับสัตว์ปีกและลูกสุกร เป็นระยะเวลา 10 ปี ตั้งแต่วันที่กฎระเบียบฯ มีผลบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 20 กรกฎาคม 2576 เนื่องจากไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพสัตว์ ความปลอดภัยของผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม สารดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงจากการใช้งาน ผู้ใช้งานจึงควรสวมใส่ชุดป้องกัน
2) คณะกรรมาธิการยุโรปกำหนดการใช้สารเสริมที่ระดับต่ำสุดในสัตว์ที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
– ไก่เพื่อขุนและเพื่อไข่ ระดับต่ำสุดไม่เกิน 8,000 BXU หน่วยกิจกรรม/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)
– ไก่งวงเพื่อขุนและเพื่อผสมพันธุ์ ระดับต่ำสุดไม่เกิน 16,000 BXU หน่วยกิจกรรม/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)
– ลูกสุกร (หย่านม) ระดับต่ำสุดไม่เกิน 24,000 BXU หน่วยกิจกรรม/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)
3) คณะกรรมาธิการยุโรปกำหนดระยะเวลาเปลี่ยนผ่าน ดังนี้
(ก) preparation of endo-1,4-beta-xylanase ที่ผลิตโดย Trichoderma reesei CBS 114044 และสารผสมล่วงหน้า (premixture) ที่มีส่วนประกอบของสารดังกล่าวที่ผลิตและติดฉลากก่อนวันที่ 20 มกราคม ๒๕67 โดยปฏิบัติตามกฎระเบียบฉบับเดิม ก่อนวันที่ 20 กรกฎาคม 2566 สามารถวางจำหน่ายและใช้ได้จนกว่าสินค้าจะหมดไปจากคลังสินค้า
(ข) วัตถุดิบอาหารสัตว์ (feed materials) และอาหารสัตว์ผสม (compound feeds) ที่มีส่วนประกอบของ preparation of endo-1,4-beta-xylanase ที่ผลิตโดย Trichoderma reesei CBS 114044 ที่ใช้สำหรับสัตว์ที่ผลิตเพื่อเป็นอาหาร ที่ผลิตและติดฉลากก่อนวันที่ 20 กรกฎาคม 2567 โดยปฏิบัติตามกฎระเบียบฉบับเดิม ก่อนวันที่ 20 กรกฎาคม 2566 สามารถวางจำหน่ายและใช้ได้จนกว่าสินค้าจะหมดไปจากคลังสินค้า
4) กฎระเบียบดังกล่าวมีผลบังคับใช้ 20 วัน หลังจากที่ประกาศใน EU Official Journal (ประกาศ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2566) ทั้งนี้ รายละเอียดของกฎระเบียบดังกล่าว สามารถสืบค้นเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ ดังนี้
2. Commission Implementing Regulation (EU) 2023/1334 ว่าด้วย การต่ออนุญาตให้ copper chelate of hydroxy analogue of methionine เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ ใน EU Official Journal L 166/111 โดยมีรายละเอียดดังนี้
1) คณะกรรมาธิการยุโรปเห็นชอบต่อการอนุญาตให้ copper chelate of hydroxy analogue of methionine เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ (feed additive) ภายใต้กลุ่มสารเสริมทางโภชนาการ (nutritional additives) เพื่อช่วยเพิ่มแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย (compounds of trace elements) และอนุญาตให้ใช้กับสัตว์ทุกชนิด เป็นระยะเวลา 10 ปี ตั้งแต่วันที่กฎระเบียบฯ มีผลบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 20 กรกฎาคม 2576
เนื่องจากไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพสัตว์ ความปลอดภัยของผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม สารดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงจากการใช้งาน ผู้ใช้งานจึงควรสวมใส่ชุดป้องกัน
2) คณะกรรมาธิการยุโรปกำหนดการใช้สารเสริมที่ระดับสูงสุดในสัตว์ที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
– วัวก่อนเคี้ยวเอื้อง ระดับสูงสุดไม่เกิน 15 ปริมาณรวมของสาร (Cu) มิลลิกรัม/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)
– วัวชนิดอื่นๆ ระดับสูงสุดไม่เกิน 30 ปริมาณรวมของสาร (Cu) มิลลิกรัม/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)
– แพะ ระดับสูงสุดไม่เกิน 35 ปริมาณรวมของสาร (Cu) มิลลิกรัม/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)
– ลูกสุกร ระดับสูงสุดไม่เกิน 100 – 150 ปริมาณรวมของสาร (Cu) มิลลิกรัม/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)
– ครัชเตเชียน ระดับสูงสุดไม่เกิน 50 ปริมาณรวมของสาร (Cu) มิลลิกรัม/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)
– สัตว์อื่นๆ ระดับสูงสุดไม่เกิน 25 ปริมาณรวมของสาร (Cu) มิลลิกรัม/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)
3) คณะกรรมาธิการยุโรปกำหนดระยะเวลาเปลี่ยนผ่าน ดังนี้
(ก) copper chelate of hydroxy analogue of methionine และสารผสมล่วงหน้า (premixture) ที่มีส่วนประกอบของ copper chelate of hydroxy analogue of methionine ที่ผลิตและติดฉลากก่อนวันที่ 20 มกราคม 2567 โดยปฏิบัติตามกฎระเบียบฉบับเดิม ก่อนวันที่ 20 กรกฎาคม 2566 สามารถวางจำหน่ายและใช้ได้จนกว่าสินค้าจะหมดไปจากคลังสินค้า
(ข) อาหารสัตว์ผสม (compound feeds) และวัตถุดิบอาหารสัตว์ (feed materials) ที่ใช้สำหรับสัตว์ที่ผลิตเพื่อเป็นอาหาร ที่มีส่วนประกอบของ copper chelate of hydroxy analogue of methionine ที่ผลิตและติดฉลากก่อนวันที่ 20 กรกฎาคม 2567 โดยปฏิบัติตามกฎระเบียบฉบับเดิม ก่อนวันที่ 20 กรกฎาคม 2566 สามารถวางจำหน่ายและใช้ได้จนกว่าสินค้าจะหมดไปจากคลังสินค้า
(ค) อาหารสัตว์ผสม (compound feeds) และวัตถุดิบอาหารสัตว์ (feed materials) ที่ไม่ใช้สำหรับสัตว์ที่ผลิตเพื่อเป็นอาหาร ที่มีส่วนประกอบของ copper chelate of hydroxy analogue of methionine ที่ผลิตและติดฉลากก่อนวันที่ 20 กรกฎาคม 2568 โดยปฏิบัติตามกฎระเบียบฉบับเดิม ก่อนวันที่ 20 กรกฎาคม 2566 สามารถวางจำหน่ายและใช้ได้จนกว่าสินค้าจะหมดไปจากคลังสินค้า
4) กฎระเบียบดังกล่าวมีผลบังคับใช้ 20 วัน หลังจากที่ประกาศใน EU Official Journal (ประกาศ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2566) ทั้งนี้ รายละเอียดของกฎระเบียบดังกล่าว สามารถสืบค้นเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ ดังนี้
3. Commission Implementing Regulation (EU) 2023/1341 ว่าด้วย การต่ออนุญาตให้ preparations of Lactiplantibacillus plantarum DSM 12836, Lactiplantibacillus plantarum DSM 12837, Lentilactobacillus buchneri DSM 16774, Pediococcus acidilactici DSM 16243, Pediococcus pentosaceus DSM 12834, Lacticaseibacillus paracasei DSM 16245, Levilactobacillus brevis DSM 12835, Lacticaseibacillus rhamnosus NCIMB 30121, Lactococcus lactis NCIMB 30160, Lentilactobacillus buchneri DSM 12856 และ Lactococcus lactis DSM 11037 เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ ใน EU Official Journal L 168/3 โดยมีรายละเอียดดังนี้
1) คณะกรรมาธิการยุโรปเห็นชอบต่อการอนุญาตให้ preparations of Lactiplantibacillus plantarum DSM 12836, Lactiplantibacillus plantarum DSM 12837, Lentilactobacillus buchneri DSM 16774, Pediococcus acidilactici DSM 16243, Pediococcus pentosaceus DSM 12834, Lacticaseibacillus paracasei DSM 16245, Levilactobacillus brevis DSM 12835, Lacticaseibacillus rhamnosus NCIMB 30121, Lactococcus lactis NCIMB 30160, Lentilactobacillus buchneri DSM 12856 และ Lactococcus lactis DSM 11037 เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ (feed additive) ภายใต้กลุ่มสารเสริมทางเทคโนโลยี (technological additives) โดยมีหน้าที่เป็นสารเร่งปฏิกริยาในหญ้าหมัก (silage additives) และอนุญาตให้ใช้กับสัตว์ทุกชนิด เป็นระยะเวลา 10 ปี ตั้งแต่วันที่กฎระเบียบฯ มีผลบังคับใช้ ไปจนถึงวันที่ 23 กรกฎาคม 2576 เนื่องจากไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพสัตว์ ความปลอดภัยของผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม สารดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงจากการใช้งาน ผู้ใช้งานจึงควรสวมใส่ชุดป้องกัน
2) คณะกรรมาธิการยุโรปกำหนดระยะเวลาเปลี่ยนผ่าน ดังนี้
preparations of Lactiplantibacillus plantarum DSM 12836, Lactiplantibacillus plantarum DSM 12837, Lentilactobacillus buchneri DSM 16774, Lacticaseibacillus paracasei DSM 16245, Levilactobacillus brevis DSM 12835, Lacticaseibacillus rhamnosus NCIMB 30121 และ Lentilactobacillus buchneri DSM 12856 และอาหารสัตว์ที่มีส่วนประกอบของสารดังกล่าวที่ผลิตและติดฉลากก่อนวันที่ 23 กรกฎาคม 2567 โดยปฏิบัติตามกฎระเบียบฉบับเดิม ก่อนวันที่ 23 กรกฎาคม 2566 สามารถวางจำหน่ายและใช้ได้จนกว่าสินค้าจะหมดไปจากคลังสินค้า
3) กฎระเบียบดังกล่าวมีผลบังคับใช้ 20 วัน หลังจากที่ประกาศใน EU Official Journal (ประกาศ ณ วันที่ 3 กรกฎาคม 2566) ทั้งนี้ รายละเอียดของกฎระเบียบดังกล่าว สามารถสืบค้นเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ ดังนี้
4. Commission Implementing Regulation (EU) 2023/1342 ว่าด้วย การต่ออนุญาตให้ preparation of 6-phytase ที่ผลิตโดย Aspergillus oryzae DSM 33699 เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ ใน EU Official Journal L 168/17 โดยมีรายละเอียดดังนี้
1) คณะกรรมาธิการยุโรปเห็นชอบต่อการอนุญาตให้ preparation of 6-phytase ที่ผลิตโดย Aspergillus oryzae DSM 33699 เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ (feed additive) ภายใต้กลุ่มสารเสริมเฉพาะทางสำหรับสัตว์ (zootechnical additives) เพื่อช่วยเพิ่มความสามารถในการย่อยอาหาร (digestibility enhancers) และอนุญาตให้ใช้กับสัตว์ปีกและสุกร เป็นระยะเวลา 10 ปี ตั้งแต่วันที่กฎระเบียบฯ มีผลบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 23 กรกฎาคม 2576 เนื่องจากไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพสัตว์ ความปลอดภัยของผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม สารดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงจากการใช้งาน ผู้ใช้งานจึงควรสวมใส่ชุดป้องกัน
2) คณะกรรมาธิการยุโรปกำหนดการใช้สารเสริมดังกล่าวในสัตว์ปีก ลูกสุกร สุกรเพื่อขุน และสุกรตัวเมีย ที่ระดับต่ำสุดไม่เกิน 500 FYT หน่วยกิจกรรม/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)
3) คณะกรรมาธิการยุโรปกำหนดระยะเวลาเปลี่ยนผ่าน ดังนี้
(ก) preparation of 6-phytase ที่ผลิตโดย Aspergillus oryzae DSM 33699 และสารผสมล่วงหน้า (premixture) ที่มีส่วนประกอบของสารดังกล่าวที่ผลิตและติดฉลากก่อนวันที่ 23 มกราคม 2567 โดยปฏิบัติตามกฎระเบียบฉบับเดิม ก่อนวันที่ 23 กรกฎาคม 2566 สามารถวางจำหน่ายและใช้ได้จนกว่าสินค้าจะหมดไปจากคลังสินค้า
(ข) อาหารสัตว์ผสม (compound feeds) และวัตถุดิบอาหารสัตว์ (feed materials) ที่มีส่วนประกอบของ preparation of 6-phytase ที่ผลิตโดย Aspergillus oryzae DSM 33699 ที่ผลิตและติดฉลากก่อนวันที่ 23 กรกฎาคม 2567 โดยปฏิบัติตามกฎระเบียบฉบับเดิม ก่อนวันที่ 23 กรกฎาคม 2566 สามารถวางจำหน่ายและใช้ได้จนกว่าสินค้าจะหมดไปจากคลังสินค้า
3) กฎระเบียบดังกล่าวมีผลบังคับใช้ 20 วัน หลังจากที่ประกาศใน EU Official Journal (ประกาศ ณ วันที่ 3 กรกฎาคม 2566) ทั้งนี้ รายละเอียดของกฎระเบียบดังกล่าว สามารถสืบค้นเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ ดังนี้
5. Commission Implementing Regulation (EU) 2023/1416 ว่าด้วย การต่ออนุญาตให้ preparation of Lactiplantibacillus plantarum DSM 8862 และ DSM 8866 เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ ใน EU Official Journal L 171/8 โดยมีรายละเอียดดังนี้
1) คณะกรรมาธิการยุโรปเห็นชอบต่อการอนุญาตให้ preparation of Lactiplantibacillus plantarum DSM 8862 และ DSM 8866 เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ (feed additive) ภายใต้กลุ่มสารเสริมทางเทคโนโลยี (technological additives) โดยมีหน้าที่เป็นสารเร่งปฏิกริยาในหญ้าหมัก (silage additives) และอนุญาตให้ใช้กับสัตว์ทุกชนิด เป็นระยะเวลา 10 ปี ตั้งแต่วันที่กฎระเบียบฯ มีผลบังคับใช้ ไปจนถึงวันที่ 26 กรกฎาคม 2576 เนื่องจากไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพสัตว์ ความปลอดภัยของผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม สารดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงจากการใช้งาน ผู้ใช้งานจึงควรสวมใส่ชุดป้องกัน
2) คณะกรรมาธิการยุโรปกำหนดระยะเวลาเปลี่ยนผ่าน ดังนี้
preparation of Lactiplantibacillus plantarum DSM 8862 และ DSM 8866 และอาหารสัตว์ที่มีส่วนประกอบของสารดังกล่าวที่ผลิตและติดฉลากก่อนวันที่ 26 กรกฎาคม 2567 โดยปฏิบัติตามกฎระเบียบฉบับเดิม ก่อนวันที่ 26 กรกฎาคม 2566 สามารถวางจำหน่ายและใช้ได้จนกว่าสินค้าจะหมดไปจากคลังสินค้า
3) กฎระเบียบดังกล่าวมีผลบังคับใช้ 20 วัน หลังจากที่ประกาศใน EU Official Journal (ประกาศ ณ วันที่ 6 กรกฎาคม 2566) ทั้งนี้ รายละเอียดของกฎระเบียบดังกล่าว สามารถสืบค้นเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ ดังนี้
