free page hit counter

สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ประจำสหภาพยุโรป

Office of Agricultural Affairs | Royal Thai Embassy, Brussels
HomeRegulationสหภาพยุโรปต่ออนุญาตสารเสริมในอาหารสัตว์

สหภาพยุโรปต่ออนุญาตสารเสริมในอาหารสัตว์

Featured Image by chatnarin pramnapan on Unsplash
  1. Commission Implementing Regulation (EU) 2024/1185 ว่าด้วย การต่ออนุญาตให้ orthophosphoric acid เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ ใน EU Official Journal L series โดยมีรายละเอียดดังนี้

    1) คณะกรรมาธิการยุโรปเห็นชอบต่อการอนุญาตให้ orthophosphoric acid เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ (feed additive) ภายใต้กลุ่มสารเสริมทางเทคโนโลยี (technological additives) โดยมีหน้าที่เป็นสารกันเสีย (preservatives) และอนุญาตให้ใช้กับสัตว์ทุกชนิด เป็นระยะเวลา 10 ปี ตั้งแต่วันที่กฎระเบียบฯ มีผลบังคับใช้ ไปจนถึงวันที่ 15 พฤษภาคม 2577 เนื่องจากไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพสัตว์ ความปลอดภัยของผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม สารดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงจากการใช้งาน ผู้ใช้งานจึงควรสวมใส่ชุดป้องกัน

     2)  คณะกรรมาธิการยุโรปกำหนดระยะเวลาเปลี่ยนผ่าน ดังนี้

         (ก) orthophosphoric acid และสารผสมล่วงหน้า (premixture) ที่มีส่วนประกอบของ orthophosphoric acid ที่ผลิตและติดฉลากก่อนวันที่ 15 พฤศจิกายน 2567 โดยปฏิบัติตามกฎระเบียบฉบับเดิม ก่อนวันที่ 15 พฤษภาคม 2567 สามารถวางจำหน่ายและใช้ได้จนกว่าสินค้าจะหมดไปจากคลังสินค้า

         (ข) อาหารสัตว์ผสม (compound feeds) และวัตถุดิบอาหารสัตว์ (feed materials) ที่ใช้สำหรับสัตว์ที่ผลิตเพื่อเป็นอาหาร ที่มีส่วนประกอบของ orthophosphoric acid ที่ผลิตและติดฉลากก่อนวันที่ 15 พฤษภาคม 2568 โดยปฏิบัติตามกฎระเบียบฉบับเดิม ก่อนวันที่ 15 พฤษภาคม 2567 สามารถวางจำหน่ายและใช้ได้จนกว่าสินค้าจะหมดไปจากคลังสินค้า

         (ค) อาหารสัตว์ผสม (compound feeds) และวัตถุดิบอาหารสัตว์ (feed materials) ที่ไม่ใช้สำหรับสัตว์ที่ผลิตเพื่อเป็นอาหาร ที่มีส่วนประกอบของ orthophosphoric acid ที่ผลิตและติดฉลากก่อนวันที่ 15 พฤษภาคม 2569 โดยปฏิบัติตามกฎระเบียบฉบับเดิม ก่อนวันที่ 15 พฤษภาคม 2567 สามารถวางจำหน่ายและใช้ได้จนกว่าสินค้าจะหมดไปจากคลังสินค้า   

    3) กฎระเบียบดังกล่าวมีผลบังคับใช้ 20 วัน หลังจากที่ประกาศใน EU Official Journal (ประกาศ ณ วันที่ 25 เมษายน 2567) ทั้งนี้ รายละเอียดของกฎระเบียบดังกล่าว สามารถสืบค้นเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ ดังนี้

https://eur-lex.europa.eu/legal-content/EN/TXT/PDF/?uri=OJ:L_202401185

2. Commission Implementing Regulation (EU) 2024/1189 ว่าด้วย การต่ออนุญาตให้ preparation of Lactiplantibacillus plantarum LMG P-21295  เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ ใน EU Official Journal L series โดยมีรายละเอียดดังนี้

1) คณะกรรมาธิการยุโรปเห็นชอบต่อการอนุญาตให้  preparation of Lactiplantibacillus plantarum LMG P-21295 เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ (feed additive) ภายใต้กลุ่มสารเสริมทางเทคโนโลยี (technological additives) โดยมีหน้าที่เป็นสารเร่งปฏิกริยาในหญ้าหมัก (silage additives) และอนุญาตให้ใช้กับสัตว์ทุกชนิด เป็นระยะเวลา 10 ปี ตั้งแต่วันที่กฎระเบียบฯ มีผลบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 15 พฤษภาคม 2577 เนื่องจากไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพสัตว์ ความปลอดภัยของผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม สารดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงจากการใช้งาน ผู้ใช้งานจึงควรสวมใส่ชุดป้องกัน

         2) คณะกรรมาธิการยุโรปกำหนดระยะเวลาเปลี่ยนผ่าน ดังนี้

             preparation of Lactiplantibacillus plantarum LMG P-21295 และอาหารสัตว์ที่มีส่วนประกอบของ preparation of Lactiplantibacillus plantarum LMG P-21295 ที่ผลิตและติดฉลากก่อนวันที่ 15 พฤษภาคม 2568 โดยปฏิบัติตามกฎระเบียบฉบับเดิม ก่อนวันที่ 15 พฤษภาคม 2567 สามารถวางจำหน่ายและใช้ได้จนกว่าสินค้าจะหมดไปจากคลังสินค้า

         3) กฎระเบียบดังกล่าวมีผลบังคับใช้ 20 วัน หลังจากที่ประกาศใน EU Official Journal (ประกาศ ณ วันที่ 25 เมษายน 2567) ทั้งนี้ รายละเอียดของกฎระเบียบดังกล่าว สามารถสืบค้นเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ ดังนี้

    https://eur-lex.europa.eu/legal-content/EN/TXT/PDF/?uri=OJ:L_202401189

    3. Commission Implementing Regulation (EU) 2024/1190 ว่าด้วย การอนุญาตให้ preparation of Enterococcus lactis DSM 7134 เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์  ใน EU Official Journal L series โดยมีรายละเอียดดังนี

         1) คณะกรรมาธิการยุโรปเห็นชอบให้ preparation of Enterococcus lactis DSM 7134 เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ (feed additive) ภายใต้กลุ่ม zootechnical additives เพื่อช่วยควบคุมเชื้อในกระเพาะ (gut flora stabilisers)  และอนุญาตให้ใช้กับไก่เลี้ยงเพื่อไข่  สัตว์ปีกวัยเยาว์เลี้ยงเพื่อขุน เพื่อไข่ และเพาะพันธุ์ เป็นระยะเวลา 10 ปี ตั้งแต่วันที่กฎระเบียบฯ มีผลบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 15 พฤษภาคม 2577 เนื่องจากไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพสัตว์ ความปลอดภัยของผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม สารดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงจากการใช้งาน ผู้ใช้งานจึงควรสวมใส่ชุดป้องกัน

         2) คณะกรรมาธิการยุโรปกำหนดให้ใช้สารเสริมดังกล่าวขั้นต่ำสุดที่ปริมาณ 5 x 108  CFU/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)

         3) คณะกรรมาธิการยุโรปกำหนดระยะเวลาเปลี่ยนผ่าน ดังนี้

            (ก) preparation of Enterococcus lactis DSM 7134 และสารผสมล่วงหน้า (premixture) ที่มีส่วนประกอบของสารดังกล่าวที่ผลิตและติดฉลากก่อนวันที่ 15 พฤศจิกายน 2567 โดยปฏิบัติตามกฎระเบียบฉบับเดิมก่อนวันที่ 15 พฤษภาคม 2567 สามารถวางจำหน่ายและใช้ได้จนกว่าสินค้าจะหมดไปจากคลังสินค้า 

            (ข) อาหารสัตว์ผสม (compound feeds) และวัตถุดิบอาหารสัตว์ (feed materials) ที่มีส่วนประกอบของ preparation of Enterococcus lactis DSM 7134 ที่ผลิตและติดฉลากก่อนวันที่ 15 พฤษภาคม 2568 โดยปฏิบัติตามกฎระเบียบฉบับเดิมก่อนวันที่ 15 พฤษภาคม 2567 สามารถวางจำหน่ายและใช้ได้จนกว่าสินค้าจะหมดไปจากคลังสินค้า

        4) กฎระเบียบดังกล่าวมีผลบังคับใช้ 20 วัน หลังจากที่ประกาศใน EU Official Journal (ประกาศ ณ วันที่ 25 เมษายน 2567) ทั้งนี้ รายละเอียดของกฎระเบียบดังกล่าว สามารถสืบค้นเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ ดังนี้

    https://eur-lex.europa.eu/legal-content/EN/TXT/PDF/?uri=OJ:L_202401190

    5. Commission Implementing Regulation (EU) 2024/1193 ว่าด้วย การต่ออนุญาตให้ sodium hydroxide เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ ใน EU Official Journal L series โดยมีรายละเอียดดังนี้

    1) คณะกรรมาธิการยุโรปเห็นชอบต่อการอนุญาตให้  sodium hydroxide เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ (feed additive) ภายใต้กลุ่มสารเสริมทางเทคโนโลยี (technological additives) เพื่อช่วยควบคุมความเป็นกรด (acidity regulator) และอนุญาตให้ใช้กับแมว สุนัข และปลาสวยงาม เป็นระยะเวลา 10 ปี ตั้งแต่วันที่กฎระเบียบฯ มีผลบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 15 พฤษภาคม 2577 เนื่องจากไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพสัตว์ ความปลอดภัยของผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม สารดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงจากการใช้งาน ผู้ใช้งานจึงควรสวมใส่ชุดป้องกัน

           2) คณะกรรมาธิการยุโรปกำหนดระยะเวลาเปลี่ยนผ่าน ดังนี้

               (ก) sodium hydroxide และสารผสมล่วงหน้า (premixture) ที่มีส่วนประกอบของสารดังกล่าวที่ผลิตและติดฉลากก่อนวันที่ 15 พฤศจิกายน 2567 โดยปฏิบัติตามกฎระเบียบฉบับเดิมก่อนวันที่ 15 พฤษภาคม 2567 สามารถวางจำหน่ายและใช้ได้จนกว่าสินค้าจะหมดไปจากคลังสินค้า 

              (ข) อาหารสัตว์ผสม (compound feeds) และวัตถุดิบอาหารสัตว์ (feed materials) ที่มีส่วนประกอบของ sodium hydroxide ที่ผลิตและติดฉลากก่อนวันที่ 15 พฤษภาคม 2568 โดยปฏิบัติตามกฎระเบียบฉบับเดิมก่อนวันที่ 15 พฤษภาคม 2567 สามารถวางจำหน่ายและใช้ได้จนกว่าสินค้าจะหมดไปจากคลังสินค้า

           3) กฎระเบียบดังกล่าวมีผลบังคับใช้ 20 วัน หลังจากที่ประกาศใน EU Official Journal (ประกาศ ณ วันที่ 25 เมษายน 2567) ทั้งนี้ รายละเอียดของกฎระเบียบดังกล่าว สามารถสืบค้นเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ ดังนี้

      https://eur-lex.europa.eu/legal-content/EN/TXT/PDF/?uri=OJ:L_202401193

      6. Commission Implementing Regulation (EU) 2024/1194 ว่าด้วย การต่ออายุการอนุญาตให้ nicotinic acid และ niacinamide เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ ใน EU Official Journal L series โดยมีรายละเอียดดังนี้

          1) คณะกรรมาธิการยุโรปเห็นชอบต่อการอนุญาตให้ nicotinic acid และ niacinamide เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ (feed additive) ภายใต้กลุ่มสารเสริมทางโภชนาการ (nutritional additives) โดยมีหน้าที่เป็นวิตามิน โปรวิตามิน และสารเคมีที่มีผลคล้ายคลึง (vitamins, pro-vitamins and chemically well-defined substances having similar effect) และอนุญาตให้ใช้กับสัตว์ทุกชนิด เป็นระยะเวลา 10 ปี ตั้งแต่วันที่กฎระเบียบฯ มีผลบังคับใช้ ไปจนถึงวันที่ 26 มีนาคม 2577 เนื่องจากไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพสัตว์ ความปลอดภัยของผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม สารดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงจากการใช้งาน ผู้ใช้งานจึงควรสวมใส่ชุดป้องกัน

          2) คณะกรรมาธิการยุโรปกำหนดระยะเวลาเปลี่ยนผ่าน ดังนี้

              (ก) nicotinic acid และสารผสมล่วงหน้า (premixture) ที่มีส่วนประกอบของ nicotinic acid ที่ผลิตและติดฉลากก่อนวันที่ 15 พฤศจิกายน ๒๕67 โดยปฏิบัติตามกฎระเบียบฉบับเดิม ก่อนวันที่ 15 พฤษภาคม 2567 สามารถวางจำหน่ายและใช้ได้จนกว่าสินค้าจะหมดไปจากคลังสินค้า

               (ข) อาหารสัตว์ผสม (compound feeds) และวัตถุดิบอาหารสัตว์ (feed materials) ที่ใช้สำหรับสัตว์ที่ผลิตเพื่อเป็นอาหาร ที่มีส่วนประกอบของ nicotinic acid ที่ผลิตและติดฉลากก่อนวันที่ 15 พฤษภาคม 2568 โดยปฏิบัติตามกฎระเบียบฉบับเดิม ก่อนวันที่ 15 พฤษภาคม 2567 สามารถวางจำหน่ายและใช้ได้จนกว่าสินค้าจะหมดไปจากคลังสินค้า

               (ค) อาหารสัตว์ผสม (compound feeds) และวัตถุดิบอาหารสัตว์ (feed materials) ที่ไม่ใช้สำหรับสัตว์ที่ผลิตเพื่อเป็นอาหาร ที่มีส่วนประกอบของ nicotinic acid ที่ผลิตและติดฉลากก่อนวันที่ 15 พฤษภาคม 2569 โดยปฏิบัติตามกฎระเบียบฉบับเดิม ก่อนวันที่ 15 พฤษภาคม 2567 สามารถวางจำหน่ายและใช้ได้จนกว่าสินค้าจะหมดไปจากคลังสินค้า  

          3) กฎระเบียบดังกล่าวมีผลบังคับใช้ 20 วัน หลังจากที่ประกาศใน EU Official Journal (ประกาศ ณ วันที่ 25 เมษายน 2567) ทั้งนี้ รายละเอียดของกฎระเบียบดังกล่าว สามารถสืบค้นเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ ดังนี้

      https://eur-lex.europa.eu/legal-content/EN/TXT/PDF/?uri=OJ:L_202401194

      7. Commission Implementing Regulation (EU) 2024/1196 ว่าด้วย การต่ออนุญาตให้ preparation of Lentilactobacillus buchneri DSM 19455 เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ ใน EU Official Journal L series โดยมีรายละเอียดดังนี้

      1) คณะกรรมาธิการยุโรปเห็นชอบต่อการอนุญาตให้  preparation of Lentilactobacillus buchneri DSM 19455 เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ (feed additive) ภายใต้กลุ่มสารเสริมทางเทคโนโลยี (technological additives) โดยมีหน้าที่เป็นสารเร่งปฏิกริยาในหญ้าหมัก (silage additives) และอนุญาตให้ใช้กับสัตว์ทุกชนิด เป็นระยะเวลา 10 ปี ตั้งแต่วันที่กฎระเบียบฯ มีผลบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 16 พฤษภาคม 2577 เนื่องจากไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพสัตว์ ความปลอดภัยของผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม สารดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงจากการใช้งาน ผู้ใช้งานจึงควรสวมใส่ชุดป้องกัน

             2) คณะกรรมาธิการยุโรปกำหนดระยะเวลาเปลี่ยนผ่าน ดังนี้

                 preparation of Lentilactobacillus buchneri DSM 19455 และอาหารสัตว์ที่มีส่วนประกอบของ preparation of Lentilactobacillus buchneri DSM 19455 ที่ผลิตและติดฉลากก่อนวันที่ 16 พฤษภาคม 2568 โดยปฏิบัติตามกฎระเบียบฉบับเดิม ก่อนวันที่ 16 พฤษภาคม 2567 สามารถวางจำหน่ายและใช้ได้จนกว่าสินค้าจะหมดไปจากคลังสินค้า

             3) กฎระเบียบดังกล่าวมีผลบังคับใช้ 20 วัน หลังจากที่ประกาศใน EU Official Journal (ประกาศ ณ วันที่ 26 เมษายน 2567) ทั้งนี้ รายละเอียดของกฎระเบียบดังกล่าว สามารถสืบค้นเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ ดังนี้

        https://eur-lex.europa.eu/legal-content/EN/TXT/PDF/?uri=OJ:L_202401196