free page hit counter

สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ประจำสหภาพยุโรป

Office of Agricultural Affairs | Royal Thai Embassy, Brussels
HomeRegulationสหภาพยุโรปอนุญาตสารเสริมในอาหารสัตว์

สหภาพยุโรปอนุญาตสารเสริมในอาหารสัตว์

Featured Image under Unsplash

1. Commission Implementing Regulation (EU) 2024/1186 ว่าด้วย การอนุญาตให้น้ำมันหอมระเหยเปลือกอบเชย (cinnamon bark essential oil) และน้ำมันหอมระเหยใบอบเชย (cinnamon leaf essential oil) จากอบเชยเทศ (Cinnamomum verum J. Presl) เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ ใน EU Official Journal L series โดยมีรายละเอียดดังนี้

    1) คณะกรรมาธิการยุโรปเห็นชอบให้น้ำมันหอมระเหยเปลือกอบเชย (cinnamon bark essential oil) และน้ำมันหอมระเหยใบอบเชย (cinnamon leaf essential oil) จากอบเชยเทศ (Cinnamomum verum J. Presl) เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ (feed additive) ภายใต้กลุ่มสารเสริมทางประสาทสัมผัส (sensory additives) โดยมีหน้าที่เป็นสารแต่งกลิ่น (flavouring compounds) และอนุญาตให้ใช้กับสุกร โค สัตว์เคี้ยวเอื้อง สัตว์ปีก ปลา และสัตว์วัยเยาว์อื่นๆ เพื่อขุน ยกเว้นม้า เป็นระยะเวลา 10 ปี ตั้งแต่วันที่กฎระเบียบฯ มีผลบังคับใช้ ไปจนถึงวันที่ 15 พฤษภาคม 2577 เนื่องจากไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพสัตว์ ความปลอดภัยของผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม สารดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงจากการใช้งาน ผู้ใช้งานจึงควรสวมใส่ชุดป้องกัน

     2) คณะกรรมาธิการยุโรปกำหนดการใช้สารเสริมน้ำมันหอมระเหยเปลือกอบเชย (cinnamon bark essential oil) ที่ระดับสูงสุดในสัตว์ ดังนี้

         2.1)  สุกรเพื่อขุน ระดับสูงสุดไม่เกิน 25 มิลลิกรัม/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)

         2.2) หมูป่าเพื่อขุน ระดับสูงสุดไม่เกิน 50 มิลลิกรัม/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)

         2.3) ลูกสุกร-ลูกหมูป่า ระดับสูงสุดไม่เกิน 50 มิลลิกรัม/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)

         2.4) โค/แกะเพื่อขุน สัตว์เคี้ยวเอื้องวัยเยาว์/ลูกวัวเพื่อขุน ระดับสูงสุดไม่เกิน 10 มิลลิกรัม/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)

         2.5) ไก่/ไก่งวง/สัตว์ปีกวัยเยาว์เพื่อขุน ระดับสูงสุดไม่เกิน 5 มิลลิกรัม/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)

         2.6) ปลาซัลมอน และปลาวัยเยาว์ ยกเว้นพ่อแม่พันธุ์ปลา ระดับสูงสุดไม่เกิน 5 มิลลิกรัม/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)

         2.7) สัตว์วัยเยาว์อื่นๆ เพื่อขุน ยกเว้นม้า ระดับสูงสุดไม่เกิน 5 มิลลิกรัม/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)

    3) คณะกรรมาธิการยุโรปกำหนดการใช้สารเสริมน้ำมันหอมระเหยใบอบเชย (cinnamon leaf essential oil)  ที่ระดับสูงสุดในสัตว์ ดังนี้

         3.1)  สุกรเพื่อขุน ระดับสูงสุดไม่เกิน 50 มิลลิกรัม/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)

         3.2) หมูป่าเพื่อขุน ระดับสูงสุดไม่เกิน 50 มิลลิกรัม/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)

         3.3) ลูกสุกร-ลูกหมูป่า ระดับสูงสุดไม่เกิน 50 มิลลิกรัม/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)

         3.4) โค/แกะเพื่อขุน สัตว์เคี้ยวเอื้องวัยเยาว์/ลูกวัวเพื่อขุน ระดับสูงสุดไม่เกิน 50 มิลลิกรัม/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)

         3.5) ไก่/สัตว์ปีกวัยเยาว์เพื่อขุน ระดับสูงสุดไม่เกิน 40 มิลลิกรัม/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)

         3.6) ไก่งวงเพื่อขุน ระดับสูงสุดไม่เกิน 50 มิลลิกรัม/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)

         3.7) กระต่ายเพื่อขุน ระดับสูงสุดไม่เกิน 50 มิลลิกรัม/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)                                                                                                      

         3.8) ปลาซัลมอน และปลาวัยเยาว์ ยกเว้นพ่อแม่พันธุ์ปลา ระดับสูงสุดไม่เกิน 25 มิลลิกรัม/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)

         3.9) สัตว์วัยเยาว์อื่นๆ เพื่อขุน ยกเว้นม้า ระดับสูงสุดไม่เกิน 25 มิลลิกรัม/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)

    4) คณะกรรมาธิการยุโรปกำหนดระยะเวลาเปลี่ยนผ่านในการอนุญาต ดังนี้

        (ก) น้ำมันหอมระเหยเปลือกอบเชย (cinnamon bark essential oil) และน้ำมันหอมระเหยใบอบเชย (cinnamon leaf essential oil)  จากอบเชยเทศ (Cinnamomum verum J. Presl) และสารผสมล่วงหน้า (premixture) ที่มีส่วนประกอบของน้ำมันหอมระเหยเปลือกอบเชย (cinnamon bark essential oil) และน้ำมันหอมระเหยใบอบเชย (cinnamon leaf essential oil)  จากอบเชยเทศ (Cinnamomum verum J. Presl) ที่ผลิตและติดฉลากก่อนวันที่ 15 พฤศจิกายน 2567 โดยปฏิบัติตามกฎระเบียบฉบับเดิม ก่อนวันที่ 15 พฤษภาคม 2567 สามารถวางจำหน่ายและใช้กับสัตว์ที่ระบุในภาคผนวกได้จนกว่าสินค้าจะหมดไปจากคลังสินค้า

        (ข) อาหารสัตว์ผสม (compound feeds) และวัตถุดิบอาหารสัตว์ (feed materials) ที่มีส่วนประกอบของน้ำมันหอมระเหยเปลือกอบเชย (cinnamon bark essential oil) และน้ำมันหอมระเหยใบอบเชย (cinnamon leaf essential oil)  จากอบเชยเทศ (Cinnamomum verum J. Presl) ที่ผลิตและติดฉลากก่อนวันที่ 15 พฤษภาคม 2568 โดยปฏิบัติตามกฎระเบียบฉบับเดิม ก่อนวันที่ 15 พฤษภาคม 2567 สามารถวางจำหน่ายและใช้กับสัตว์ที่ระบุในภาคผนวกได้จนกว่าสินค้าจะหมดไปจากคลังสินค้า

    5) คณะกรรมาธิการยุโรปกำหนดระยะเวลาเปลี่ยนผ่านในการถอนสินค้าออกจากตลาด ดังนี้

         (ก) สต็อกคงค้างของน้ำมันหอมระเหยเปลือกอบเชย  (cinnamon bark essential oil)  และน้ำมันหอมระเหยใบอบเชย (cinnamon leaf essential oil)  จากอบเชยเทศ (Cinnamomum verum J. Presl) ที่ปฏิบัติตามกฎระเบียบเดิม Directive 70/524/EEC สามารถวางจำหน่ายและใช้กับสัตว์ นอกเหนือจากที่ระบุในภาคผนวกได้ถึงวันที่ 15 พฤษภาคม 2568

        (ข) สารผสมล่วงหน้า (premixture) ที่มีส่วนประกอบของน้ำมันหอมระเหยเปลือกอบเชย (cinnamon bark essential oil) และน้ำมันหอมระเหยใบอบเชย (cinnamon leaf essential oil)  จากอบเชยเทศ (Cinnamomum verum J. Presl) สามารถวางจำหน่ายและใช้กับสัตว์ นอกเหนือจากที่ระบุในภาคผนวกได้จนถึงวันที่ 15 สิงหาคม 2568

        (ค) อาหารสัตว์ผสม (compound feeds) และวัตถุดิบอาหารสัตว์ (feed materials) ที่มีส่วนประกอบของน้ำมันหอมระเหยเปลือกอบเชย (cinnamon bark essential oil) และน้ำมันหอมระเหยใบอบเชย (cinnamon leaf essential oil)  จากอบเชยเทศ (Cinnamomum verum J. Presl) สามารถวางจำหน่ายและใช้กับสัตว์ นอกเหนือจากที่ระบุในภาคผนวกได้จนถึงวันที่ 15 พฤษภาคม 2569

    6) กฎระเบียบดังกล่าวมีผลบังคับใช้ 20 วัน หลังจากที่ประกาศใน EU Official Journal (ประกาศ ณ วันที่ 25 เมษายน 2567) ทั้งนี้ รายละเอียดของกฎระเบียบดังกล่าว สามารถสืบค้นเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ ดังนี้

https://eur-lex.europa.eu/legal-content/EN/TXT/PDF/?uri=OJ:L_202401186

2. Commission Implementing Regulation (EU) 2024/1195 ว่าด้วย การอนุญาตให้น้ำมันหอมระเหยอบเชยจีน (cassia essential oil) จากอบเชยจีน (Cinnamomum aromaticum Nees) เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ ใน EU Official Journal L series โดยมีรายละเอียดดังนี้

    1) คณะกรรมาธิการยุโรปเห็นชอบให้น้ำมันหอมระเหยอบเชยจีน (cassia essential oil) จากอบเชยจีน (Cinnamomum aromaticum Nees) เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ (feed additive) ภายใต้กลุ่มสารเสริมทางประสาทสัมผัส (sensory additives) โดยมีหน้าที่เป็นสารแต่งกลิ่น (flavouring compounds) และอนุญาตให้ใช้กับสุกร โค สัตว์เคี้ยวเอื้อง สัตว์ปีก ปลา และสัตว์วัยเยาว์อื่นๆ เพื่อขุน ยกเว้นม้า เป็นระยะเวลา 10 ปี ตั้งแต่วันที่กฎระเบียบฯ มีผลบังคับใช้ ไปจนถึงวันที่ 10 พฤษภาคม 2577 เนื่องจากไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพสัตว์ ความปลอดภัยของผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม

     2) คณะกรรมาธิการยุโรปกำหนดการใช้สารเสริมน้ำมันหอมระเหยอบเชยจีน (cassia essential oil) ที่ระดับสูงสุดในสัตว์ ดังนี้

         2.1)  สุกรเพื่อขุน ระดับสูงสุดไม่เกิน 61 มิลลิกรัม/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)

         2.2) หมูป่าเพื่อขุน ระดับสูงสุดไม่เกิน 51 มิลลิกรัม/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)

         2.3) ลูกสุกร-ลูกหมูป่า ระดับสูงสุดไม่เกิน 51 มิลลิกรัม/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)

         2.4) ลูกวัวเพื่อขุน ระดับสูงสุดไม่เกิน 100 มิลลิกรัม/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)

         2.5) โค/แกะ และสัตว์เคี้ยวเอื้องวัยเยาว์เพื่อขุน ระดับสูงสุดไม่เกิน 60 มิลลิกรัม/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)

         2.6) ไก่/สัตว์ปีกวัยเยาว์เพื่อขุน ระดับสูงสุดไม่เกิน 28,5 มิลลิกรัม/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)

         2.7) ไก่งวงเพื่อขุน ระดับสูงสุดไม่เกิน 38 มิลลิกรัม/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)

         2.8) กระต่ายเพื่อขุน ระดับสูงสุดไม่เกิน 25 มิลลิกรัม/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)

         2.9) ปลาซัลมอน และปลาวัยเยาว์ ยกเว้นพ่อแม่พันธุ์ปลา ระดับสูงสุดไม่เกิน 125 มิลลิกรัม/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)

         2.10) สัตว์วัยเยาว์อื่นๆ เพื่อขุน ยกเว้นม้า ระดับสูงสุดไม่เกิน 28,5 มิลลิกรัม/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)

    3) คณะกรรมาธิการยุโรปกำหนดระยะเวลาเปลี่ยนผ่านในการอนุญาต ดังนี้

        (ก) น้ำมันหอมระเหยอบเชยจีน (cassia essential oil) จากอบเชยจีน (Cinnamomum aromaticum Nees) และสารผสมล่วงหน้า (premixture) ที่มีส่วนประกอบของน้ำมันหอมระเหยอบเชยจีน (cassia essential oil) จากอบเชยจีน (Cinnamomum aromaticum Nees) ที่ผลิตและติดฉลากก่อนวันที่ 15 พฤศจิกายน   2567 โดยปฏิบัติตามกฎระเบียบฉบับเดิม ก่อนวันที่ 15 พฤษภาคม 2567 สามารถวางจำหน่ายและใช้กับสัตว์ที่ระบุในภาคผนวกได้จนกว่าสินค้าจะหมดไปจากคลังสินค้า

        (ข) อาหารสัตว์ผสม (compound feeds) และวัตถุดิบอาหารสัตว์ (feed materials) ที่มีส่วนประกอบของน้ำมันหอมระเหยอบเชยจีน (cassia essential oil) จากอบเชยจีน (Cinnamomum aromaticum Nees) ที่ผลิตและติดฉลากก่อนวันที่ 15 พฤษภาคม 2568 โดยปฏิบัติตามกฎระเบียบฉบับเดิม ก่อนวันที่ 15 พฤษภาคม 2567 สามารถวางจำหน่ายและใช้กับสัตว์ที่ระบุในภาคผนวกได้จนกว่าสินค้าจะหมดไปจากคลังสินค้า

    5) คณะกรรมาธิการยุโรปกำหนดระยะเวลาเปลี่ยนผ่านในการถอนสินค้าออกจากตลาด ดังนี้

         (ก) สต็อกคงค้างของน้ำมันหอมระเหยอบเชยจีน (cassia essential oil) จากอบเชยจีน (Cinnamomum aromaticum Nees)  สามารถวางจำหน่ายและใช้กับสัตว์ นอกเหนือจากที่ระบุในภาคผนวกได้ถึงวันที่ 15 พฤษภาคม 2568

        (ข) สารผสมล่วงหน้า (premixture) ที่มีส่วนประกอบของน้ำมันหอมระเหยอบเชยจีน (cassia essential oil) จากอบเชยจีน (Cinnamomum aromaticum Nees)  สามารถวางจำหน่ายและใช้กับสัตว์ นอกเหนือจากที่ระบุในภาคผนวกได้จนถึงวันที่ 15 สิงหาคม 2568

        (ค) อาหารสัตว์ผสม (compound feeds) และวัตถุดิบอาหารสัตว์ (feed materials)  ที่มีส่วนประกอบของน้ำมันหอมระเหยอบเชยจีน (cassia essential oil) จากอบเชยจีน (Cinnamomum aromaticum Nees) สามารถวางจำหน่ายและใช้กับสัตว์ นอกเหนือจากที่ระบุในภาคผนวกได้จนถึงวันที่ 15 พฤษภาคม 2569

    6) กฎระเบียบดังกล่าวมีผลบังคับใช้ 20 วัน หลังจากที่ประกาศใน EU Official Journal (ประกาศ ณ วันที่ 25 เมษายน 2567) ทั้งนี้ รายละเอียดของกฎระเบียบดังกล่าว สามารถสืบค้นเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ ดังนี้

https://eur-lex.europa.eu/legal-content/EN/TXT/PDF/?uri=OJ:L_202401195

3. Commission Implementing Regulation (EU) 2024/1325 ว่าด้วย การอนุญาตให้ preparation of cyanocobalamin (vitamin B12) ที่ผลิตโดย Ensifer adhaerens CGMCC 21299 เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ ใน EU Official Journal L series โดยมีรายละเอียดดังนี้

    1) คณะกรรมาธิการยุโรปเห็นชอบอนุญาตให้ preparation of cyanocobalamin (vitamin B12) ที่ผลิตโดย Ensifer adhaerens CGMCC 21299  เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ (feed additive) ภายใต้กลุ่มสารเสริมทางโภชนาการ (nutritional additives) โดยมีหน้าที่เป็นวิตามิน โปรวิตามิน และสารเคมีที่มีผลคล้ายคลึง (vitamins, pro-vitamins and chemically well-defined substances having similar effect) และอนุญาตให้ใช้กับสัตว์ทุกชนิด เป็นระยะเวลา 10 ปี ตั้งแต่วันที่กฎระเบียบฯ มีผลบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 2 มิถุนายน 2577 เนื่องจากไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพสัตว์ ความปลอดภัยของผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม สารดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงจากการใช้งาน ผู้ใช้งานจึงควรสวมใส่ชุดป้องกัน

    2) กฎระเบียบดังกล่าวมีผลบังคับใช้ 20 วัน หลังจากที่ประกาศใน EU Official Journal (ประกาศ ณ วันที่ 13 พฤษภาคม 2567) ทั้งนี้ รายละเอียดของกฎระเบียบดังกล่าว สามารถสืบค้นเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ ดังนี้

https://eur-lex.europa.eu/legal-content/EN/TXT/PDF/?uri=OJ:L_202401325