free page hit counter

สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ประจำสหภาพยุโรป

Office of Agricultural Affairs | Royal Thai Embassy, Brussels
HomeRegulationสหภาพยุโรปเตรียมออกกฎหมายเรื่องการกำกับดูแลและความรับผิดชอบในการประกอบธุรกิจที่เคารพ สิทธิมนุษยชนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

สหภาพยุโรปเตรียมออกกฎหมายเรื่องการกำกับดูแลและความรับผิดชอบในการประกอบธุรกิจที่เคารพ สิทธิมนุษยชนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

สหภาพยุโรปเตรียมออกกฎหมายเรื่องการกำกับดูแลและความรับผิดชอบในการประกอบธุรกิจที่เคารพสิทธิมนุษยชนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สรุปสาระสำคัญ ดังนี้

1.การกำกับดูแลและความรับผิดชอบในการประกอบธุรกิจที่เคารพสิทธิมนุษยชนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Corporate Due Diligence and Accountability)

    คณะกรรมาธิการยุโรปด้านยุติธรรม (DG Justice) กำลังอยู่ในระหว่างจัดทำร่างกฎหมายใหม่เกี่ยวกับการกำกับดูแลและความรับผิดชอบในการประกอบธุรกิจที่เคารพสิทธิมนุษยชนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Corporate due diligence and Accountability) ซึ่งวางกลไกให้ภาคเอกชนในสหภาพยุโรปต้องตรวจสอบห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) และเครือข่ายการผลิตของตน โดยคำนึงถึงความเสี่ยงของการดำเนินธุรกิจที่จะส่งผลกระทบต่อการเคารพสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก ทั้งนี้ เพื่อให้การดำเนินธุรกิจอยู่ภายใต้กรอบธรรมาภิบาลที่ดี มีความโปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้ ซึ่งการร่างกฎหมายดังกล่าวได้รับความเห็นพ้องจากภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมของอียูว่า เป็นกฎหมายที่จะช่วยส่งเสริมความยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจในสหภาพยุโรป

2. กฎหมายใหม่นี้จะกำหนดบรรทัดฐานให้ทุกประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปต้องนำไปปรับใช้ และวางกฎเกณฑ์เกี่ยวกับการกำกับดูแลและความรับผิดชอบในการประกอบธุรกิจภายในประเทศของตน (หน้าที่ตรวจสอบ/ควบคุม ออกบทลงโทษ หรือระงับการดำเนินธุรกิจชั่วคราว รวมถึงห้ามนำเข้าสินค้าที่มีการฝ่าฝืนสิทธิมนุษยชนขั้นรุนแรง (severe human rights violations)  โดยสหภาพยุโรปได้อิงหลักการของสหประชาชาติ อาทิ หลักการว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน (UN’s Guidelines on Business and Human Rights) และแนวปฏิบัติขององค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD Guidelines for Multinational Enterprises) มาพิจารณาในการยกร่างกฎหมายดังกล่าว  

    กรอบเวลาการเสนอร่างกฎหมาย : คาดว่า คณะกรรมาธิการยุโรปจะเตรียมนำเสนอร่างกฎหมายเพื่อเสนอเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของคณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรปและสภายุโรปภายในเดือนธันวาคม 2564 โดยการจัดทำร่างกฎหมายดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของแนวทางขับเคลื่อนการดำเนินงานของสหภาพยุโรป ภายหลังวิกฤต COVID-19 ของสหภาพยุโรป และแผนงาน European Green Deal ซึ่งมุ่งเน้นการร่วมมือเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมบนพื้นฐานของเศรษฐกิจสีเขียวที่ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นตัวขับเคลื่อน และสนองต่อเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน