free page hit counter

สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ประจำสหภาพยุโรป

Office of Agricultural Affairs | Royal Thai Embassy, Brussels
HomeRegulationสหภาพยุโรปอนุญาตการใช้วัตถุเจือปนอาหาร

สหภาพยุโรปอนุญาตการใช้วัตถุเจือปนอาหาร

Featured Image by Mehrad Vosoughi under Pexels license
  1. คณะกรรมาธิการยุโรปประกาศ Commission Regulation (EU) 2021/1532 ว่าด้วย การอนุญาตให้ใช้วัตถุเจือปนอาหาร 3-(1-((3,5-dimethylisoxazol-4-yl)methyl)-1H-pyrazol-4-yl)-1(3-hydroxyben- zyl)imidazolidine-2,4-dione ภายใต้บัญชีรายชื่อวัตถุเจือปนอาหาร กลุ่มสารแต่งกลิ่น (Union list flavouring substances)  ใน EU Official Journal L 330/69 ดังนี้
    • เห็นชอบให้ใช้สาร 3-(1-((3,5-dimethylisoxazol-4-yl)methyl)-1H-pyrazol-4-yl)-1(3-hydro-xybenzyl)imidazolidine-2,4-dione เลขที่ FL 16.127 ภายใต้บัญชีรายชื่อวัตถุเจือปนอาหารในกลุ่มสารแต่งกลิ่น (Union list flavouring substances)  ในกลุ่มอาหาร ดังนี้
      • อาหารกลุ่ม 1.4 ผลิตภัณฑ์นมหมักแต่งกลิ่น รวมถึงผลิตภัณฑ์ผ่านกระบวนการความร้อน (Flavoured fermented milk products including heat-treated products) ปริมาณการใช้สูงสุด 4 มิลลิกรัม/กิโลกรัม  
      • อาหารกลุ่ม 1.8 ผลิตภัณฑ์เลียนแบบนม รวมถึงผลิตภัณฑ์นมที่ใช้เติมเครื่องดื่ม (Dairy analogues, including beverage whiteners) ปริมาณการใช้สูงสุด 8 มิลลิกรัม/กิโลกรัม
      • อาหารกลุ่ม 3 ไอศกรีมหวานเย็น (Edible ices)  ปริมาณการใช้สูงสุด 4 มิลลิกรัม/กิโลกรัม
      • อาหารกลุ่ม 5.1 ผลิตภัณฑ์โกโก้และชอคโกแลตภายใต้ Directive 2000/36/EC  (Cocoa and chocolate products as covered by Directive 2000/36/EC) ปริมาณการใช้สูงสุด 15 มิลลิกรัม/กิโลกรัม
      • อาหารกลุ่ม 5.2 ลูกกวาดอื่นๆ รวมถึงลูกอมขนาดเล็กเพื่อลมหายใจสดชื่น (Other confectionery including breath freshening micro-sweets) ปริมาณการใช้สูงสุด 16 มิลลิกรัม/กิโลกรัม  
      • อาหารกลุ่ม 5.3 หมากฝรั่ง (Chewing gum) ปริมาณการใช้สูงสุด 30 มิลลิกรัม/กิโลกรัม  
      • อาหารกลุ่ม 5.4 ผลิตภัณฑ์ใช้ตบแต่ง เคลือบ หรือเติมหน้าขนม ยกเว้นผลิตภัณฑ์เติมหน้าขนมที่ทําจากผลไม้ ตามหมวด 4.2.4  (Decorations, coatings and fillings, except fruit-based fillings covered by category 4.2.4) ปริมาณการใช้สูงสุด 15 มิลลิกรัม/กิโลกรัม
      • อาหารกลุ่ม 6.3 ธัญพืชอาหารเช้า (Breakfast cereals) ปริมาณการใช้สูงสุด 25 มิลลิกรัม/กิโลกรัม
      • อาหารกลุ่ม 12.1 เกลือและสารที่ใช้เทนเกลือ (Salt and salt substitutes) ปริมาณการใช้สูงสุด 75 มิลลิกรัม/กิโลกรัม  
      • อาหารกลุ่ม 12.2 สมุนไพร เครื่องเทศ เครื่องปรุงรส (Herbs, spices, seasonings) ปริมาณการใช้สูงสุด 100 มิลลิกรัม/กิโลกรัม  
      • อาหารกลุ่ม 12.3 น้ำส้มสายชูและกรดแอซีติกเจือจาง (เจือจางด้วยน้ำที่ระดับ 4-30% โดยปริมาตร) (Vinegars and diluted acetic acid (diluted with water to 4-30 % by volume)) ปริมาณการใช้สูงสุด 25 มิลลิกรัม/กิโลกรัม
      • อาหารกลุ่ม 12.4 มัสตาร์ด (Mustard) ปริมาณการใช้สูงสุด 25 มิลลิกรัม/กิโลกรัม  
      • อาหารกลุ่ม 12.5 ซุป (Soups and broths) ปริมาณการใช้สูงสุด 4 มิลลิกรัม/กิโลกรัม  
      • อาหารกลุ่ม 13.2 ผลิตภัณฑ์อาหารทางการแพทย์พิเศษ ตามระบุใน Directive 1999/21/EC (ยกเว้นผลิตภัณฑ์จากอาหารกลุ่ม  13.1.5) (Dietary foods for special medical purposes defined in Directive 1999/21/EC (excluding products from food category 13.1.5)) ปริมาณการใช้สูงสุด 4 มิลลิกรัม/กิโลกรัม  
      • อาหารกลุ่ม 13.3 อาหารสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก ที่ใช้บริโภคแทนอาหารปกติ ทั้งวันหรือใช้แทนอาหารบางมื้อ (Dietary foods for weight control diets intended to replace total daily food intake or an individual meal) ปริมาณการใช้สูงสุด 4 มิลลิกรัม/กิโลกรัม  
      • อาหารกลุ่ม 14.1.4 เครื่องดื่มแต่งกลิ่นรส (Flavoured drinks) ปริมาณการใช้สูงสุด 4 มิลลิกรัม/กิโลกรัม) (สำหรับเครื่องดื่มที่ทำจากนมเท่านั้น)  
      • อาหารกลุ่ม 14.1.5 กาแฟ เครื่องดื่มสกัดจากกาแฟและชิโครี ชา ชาสมุนไพร ชาผลไม้ เครื่องดื่มแทนกาแฟ กาแฟผสม และส่วนผสมสำหรับเครื่องดื่มร้อน (Coffee, coffee and chicory extracts, tea, herbal- and fruit-infusions; coffee substitutes, coffee mixes and mixes for ‘hot beverages) ปริมาณการใช้สูงสุด 8 มิลลิกรัม/กิโลกรัม  
      • อาหารกลุ่ม 15.1 ขนมขบเคี้ยวที่มีมันฝรั่ง ธัญชาติ แป้งหรือสตาร์ชเป็นส่วนประกอบ (Potato-, cereal-, flour- or starch-based snacks) ปริมาณการใช้สูงสุด 20 มิลลิกรัม/กิโลกรัม  
      • อาหารกลุ่ม 16 ขนมหวาน ยกเว้นผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม 1, 3 และ 4  (Desserts excludingproducts covered in categories 1, 3 and 4) ปริมาณการใช้สูงสุด 4 มิลลิกรัม/กิโลกรัม (สำหรับขนมหวานที่ทำจากนมเท่านั้น)
  2. กฎระเบียบดังกล่าวมีผลบังคับใช้ 20 วัน หลังจากที่ประกาศใน EU Official Journal (ประกาศ ณ วันที่ 20 กันยายน 2564) ทั้งนี้ รายละเอียดของกฎระเบียบดังกล่าว สามารถสืบค้นเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ ดังนี้

https://eur-lex.europa.eu/legal-content/EN/TXT/PDF/?uri=CELEX:32021R1532&from=EN