- Commission Implementing Regulation (EU) 2020/1092 ว่าด้วย การอนุญาตให้ Lactococcus lactis (NCIMB 30160) เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ ใน EU Official Journal L 241/10 โดยมีรายละเอียดดังนี้
- คณะกรรมาธิการยุโรปเห็นชอบให้ Lactococcus lactis (NCIMB 30160) เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ (feed additive) ภายใต้กลุ่มสารเสริมทางเทคโนโลยี (technological additives) โดยมีหน้าที่เป็นสารเร่งปฏิกิริยาในหญ้าหมัก (silage additives) และอนุญาตให้ใช้กับสัตว์ทุกชนิด เป็นระยะเวลา 10 ปี ตั้งแต่วันที่กฎระเบียบฉบับนี้มีผลบังคับใช้ ไปจนถึงวันที่ 16 สิงหาคม 2573 เนื่องจากไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพสัตว์ ความปลอดภัยของผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม สารดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงจากการใช้งาน ผู้ใช้งานจึงควรสวมใส่ชุดป้องกัน
- กฎระเบียบดังกล่าวมีผลบังคับใช้ 20 วัน หลังจากที่ประกาศใน EU Official Journal (ประกาศ ณ วันที่ 27 กรกฎาคม 2563) ทั้งนี้ รายละเอียดของกฎระเบียบดังกล่าว สามารถสืบค้นเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ ดังนี้ https://eur-lex.europa.eu/legal-content/EN/TXT/PDF/?uri=CELEX:32020R1092&from=EN
- Commission Implementing Regulation (EU) 2020/993 ว่าด้วย การอนุญาตให้ lutein-rich และ lutein/zeaxanthin extracts จาก Tagetes erecta เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ ใน EU Official Journal L 241/23 โดยมีรายละเอียดดังนี้
- คณะกรรมาธิการยุโรปเห็นชอบให้ lutein-rich extract และ lutein/zeaxanthin extract จาก Tagetes erecta เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ (feed additive) ภายใต้กลุ่มประสาทสัมผัส (sensory additives) โดยมีหน้าที่เป็นสารแต่งสี (colourants) เป็นระยะเวลา 10 ปี ตั้งแต่วันที่กฎระเบียบฉบับนี้มีผลบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 16 สิงหาคม 2573 เนื่องจากไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพสัตว์ ความปลอดภัยของผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม สารดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงจากการใช้งาน ผู้ใช้งานจึงควรสวมใส่ชุดป้องกัน
- คณะกรรมาธิการอนุญาตให้ใช้สารเสริมดังกล่าวเฉพาะในอาหารสัตว์เท่านั้น โดยไม่อนุญาตให้ใช้ผสมในน้ำดื่มสำหรับสัตว์ เพื่อหลีกเลี่ยงการได้รับสาร carotenoids และ xanthophylls เกินกว่าค่าที่กำหนด โดยอนุญาตให้ใช้กับสัตว์ดังนี้
- สัตว์ปีกเพื่อขุน (ยกเว้นไก่งวง) และสัตว์ปีกวัยเยาว์เพื่อขุน
- lutein-rich extract ปริมาณสูงสุดไม่เกิน 80 กรัมของสาร/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)
- lutein/zeaxanthin extract ปริมาณสูงสุดไม่เกิน 50 กรัมของสาร/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)
- lutein/zeaxanthin extract ปริมาณสูงสุดไม่เกิน 50 กรัมของสาร/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)
- lutein-rich extract ปริมาณสูงสุดไม่เกิน 80 กรัมของสาร/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)
- lutein/zeaxanthin extract ปริมาณสูงสุดไม่เกิน 50 กรัมของสาร/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)
- สัตว์ปีกเพื่อขุน (ยกเว้นไก่งวง) และสัตว์ปีกวัยเยาว์เพื่อขุน
- คณะกรรมาธิการยุโรปได้อนุโลมช่วงเวลาเปลี่ยนผ่าน ดังนี้
- สารเสริม lutein-rich extract และ lutein/zeaxanthin extract และสารผสมล่วงหน้า (premixture) ที่มีส่วนประกอบของสารดังกล่าว ที่ผลิตและติดฉลากก่อนวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2564 โดยปฏิบัติตามกฎระเบียบเดิม ก่อนวันที่ 16 สิงหาคม 2563 สามารถวางจำหน่ายและใช้ได้จนกว่าสินค้าจะหมดไปจากคลังสินค้า
- อาหารสัตว์ผสม (compound feeds) และวัตถุดิบอาหารสัตว์ (feed materials) สำหรับสัตว์ที่ใช้เป็นอาหาร ที่มีส่วนประกอบของสารดังกล่าว ที่ผลิตและติดฉลากก่อนวันที่ 16 สิงหาคม ๒๕64 โดยปฏิบัติตามกฎระเบียบเดิม ก่อนวันที่ 16 สิงหาคม 2563 สามารถวางจำหน่ายและใช้ได้จนกว่าสินค้าจะหมดไปจากคลังสินค้า
- กฎระเบียบดังกล่าวมีผลบังคับใช้ ๒๐ วัน หลังจากที่ประกาศใน EU Official Journal (ประกาศ ณ วันที่ 27 กรกฎาคม ๒๕๖3) ทั้งนี้ รายละเอียดของกฎระเบียบดังกล่าว สามารถสืบค้นเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ ดังนี้ https://eur-lex.europa.eu/legal-content/EN/TXT/PDF/?uri=CELEX:32020R1097&from=EN
- Commission Implementing Regulation (EU) 2020/1098 ว่าด้วย การอนุญาตให้น้ำมันหอมระเหยกระวาน (cardamom essential oil) จาก Elettaria cardamomum (L.) Maton เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ ใน EU Official Journal L 241/28 โดยมีรายละเอียดดังนี้
- คณะกรรมาธิการยุโรปเห็นชอบให้น้ำมันหอมระเหยกระวาน (cardamom essential oil) จาก Elettaria cardamomum (L.) Maton เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ (feed additive) ภายใต้กลุ่มประสาทสัมผัส (sensory additives) โดยมีหน้าที่เป็นสารแต่งกลิ่น (flavouring compounds) และอนุญาตให้ใช้กับสัตว์ทุกชนิด เป็นระยะเวลา 10 ปี ตั้งแต่วันที่กฎระเบียบฉบับนี้มีผลบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 16 สิงหาคม 2573 เนื่องจากไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพสัตว์ ความปลอดภัยของผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม
- ณะกรรมาธิการยุโรปอนุญาตให้ใช้สารเสริมดังกล่าวในระดับไม่เกิน 5 มิลลิกรัม/กิโลกรัมของอาหารสัตว์(ที่มีความชื้นร้อยละ 12) อย่างไรก็ตาม สารดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงจากการใช้งาน ผู้ใช้งานจึงควรสวมใส่ชุดป้องกัน
- คณะกรรมาธิการยุโรปได้อนุโลมช่วงเวลาเปลี่ยนผ่าน ดังนี้
- น้ำมันหอมระเหยกระวาน รวมทั้งสารผสมล่วงหน้า (premixture) ที่ผลิตและติดฉลากก่อนวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2564 ซึ่งได้ปฏิบัติตามกฎระเบียบเดิมก่อนวันที่ 16 สิงหาคม 2563 สามารถวางจำหน่ายและใช้ได้จนกว่าสินค้านั้นจะหมดไปจากคลังสินค้า
- อาหารสัตว์ผสม (compound feeds) และวัตถุดิบอาหารสัตว์ (feed materials) สำหรับสัตว์ที่ใช้เป็นอาหาร ที่มีส่วนประกอบของน้ำมันหอมระเหยกระวาน โดยผลิตและติดฉลากก่อนวันที่ 16 สิงหาคม 2564 ซึ่งได้ปฏิบัติตามกฎระเบียบเดิมก่อนวันที่ 16 สิงหาคม 2563 สามารถวางจำหน่ายและใช้ได้จนกว่าสินค้านั้นจะหมดไปจากคลังสินค้า
- อาหารสัตว์ผสม (compound feeds) และวัตถุดิบอาหารสัตว์ (feed materials) สำหรับสัตว์ที่ไม่ใช้เป็นอาหาร ที่มีส่วนประกอบของน้ำมันหอมระเหยกระวาน โดยผลิตและติดฉลากก่อนวันที่ 16 สิงหาคม 2565 ซึ่งได้ปฏิบัติตามกฎระเบียบเดิมก่อนวันที่ 16 สิงหาคม 2563 สามารถวางจำหน่ายและใช้ได้จนกว่าสินค้านั้นจะหมดไปจากคลังสินค้า
- กฎระเบียบดังกล่าวมีผลบังคับใช้ 20 วัน หลังจากที่ประกาศใน EU Official Journal (ประกาศ ณ วันที่ 27 กรกฎาคม 2563)
- ทั้งนี้ รายละเอียดของกฎระเบียบดังกล่าว สามารถสืบค้นเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ ดังนี้
https://eur-lex.europa.eu/legal-content/EN/TXT/PDF/?uri=CELEX:32020R1098&from=EN