สหภาพยุโรปปรับแก้ข้อกำหนดสุขอนามัยอาหาร

คณะกรรมาธิการยุโรปประกาศ Commission Regulation (EU) 2021/382 ว่าด้วย การปรับแก้ Regulation (EC) No 852/2004 ว่าด้วย สุขอนามัยอาหาร ในส่วนที่ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการอาหารที่ก่อให้เกิดการแพ้ การกระจายสินค้าอาหาร และวัฒนธรรมความปลอดภัยอาหาร ใน EU Official Journal L 74/3 โดยมีรายละเอียดดังนี้

1. แก้ไข Regulation (EC) No 852/2004 ภาคผนวก I (ว่าด้วย การผลิตขั้นพื้นฐาน) โดยให้เพิ่มข้อ 5a ใน Part A Section II ดังนี้
   • ห้ามใช้อุปกรณ์ ยานพาหนะ และ/หรือคอนเทนเนอร์ที่ใช้สำหรับการเก็บเกี่ยว การขนส่ง หรือการจัดเก็บสารหรือสินค้า ที่ก่อให้เกิดการแพ้ (allergies) หรือการแพ้แฝง (intolerances) ตาม Regulation (EU) No 1169/2011 ภาคผนวก II ในการเก็บเกี่ยวการขนส่ง หรือการจัดเก็บอาหาร ที่ไม่มีส่วนประกอบของสารหรือสินค้านั้น ๆ เว้นแต่จะมีการทำความสะอาดและตรวจสอบว่าไม่มีร่องรอยของสารหรือสินค้านั้น ๆ
2. แก้ไข Regulation (EC) No 852/2004 ภาคผนวก II (ว่าด้วย ข้อกำหนดสุขอนามัยทั่วไปสำหรับผู้ประกอบการธุรกิจอาหาร) ดังนี้
   1. บทนำ (introduction) ให้เปลี่ยนใหม่ ดังนี้
      • บทนำ
        • ปรับใช้บท (Chapters) ที่ V, Va, VI, VII, VIII, IX, X, XI, XIa และ XI กับทุกขั้นตอนการผลิต การแปรรูป และการกระจายอาหาร โดบบทอื่น ๆ ให้ปรับใช้ ดังนี้
          • บทที่ I ปรับใช้กับสถานที่ประกอบอาหารทั้งหมด ยกเว้นสถานที่ที่ปรับใช้บทที่ III
          • บทที่ II ปรับใช้กับห้องทั้งหมดที่มีการเตรียม การจัดการ หรือการแปรรูปอาหาร ยกเว้นพื้นที่รับประทานอาหาร และสถานที่ที่ปรับใช้บทที่ III
          • บทที่ III ปรับใช้กับสถานที่ที่ระบุไว้ในหัวข้อ (heading) ของบทดังกล่าว
          • บทที่ IV ปรับใช้กับการขนส่งทั้งหมด
   2. เพิ่มบทที่ Va ดังนี้
      • บทที่ Va
        • การกระจายอาหาร
          • ผู้ประกอบการธุรกิจอาหารสามารถกระจายอาหารเพื่อวัตถุประสงค์ในการบริจาคอาหารได้ตามเงื่อนไขดังนี้
            1. ผู้ประกอบการธุรกิจอาหารจะต้องตรวจสอบว่า อาหารภายใต้ความรับผิดชอบไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ และเหมาะสำหรับการบริโภคตาม Regulation (EC) No 178/2002 มาตรา 14(2) ในกรณีที่การตรวจสอบเป็นที่น่าพอใจ ผู้ประกอบการธุรกิจอาหารสามารถแจกจ่ายอาหารตามข้อ (2) :
               • สำหรับอาหารที่มีการใช้วันที่ “ใช้ภายใน (use by)” ตาม Regulation (EU) No 1169/2011 มาตรา 24 ก่อนวันที่นั้นจะหมดอายุ
               • สำหรับอาหารที่มีการใช้วันที่ขั้นต่ำ (date of minimum durability) ตาม Regulation (EU) No 1169/2011 มาตรา 2(2)(r) จนถึงและหลังจากวันดังกล่าว หรือ
               • สำหรับอาหารที่ไม่จำเป็นต้องมีวันที่ขั้นต่ำตาม Regulation (EU) No 1169/2011 ภาคผนวก X 1(d)
            2. ผู้ประกอบการธุรกิจอาหารที่จัดการกับอาหารตามข้อ 1 จะต้องประเมินว่า อาหารไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพและเหมาะสมกับการบริโภค โดยจะต้องพิจารณาอย่างน้อยในมิติต่าง ๆ ดังนี้
               • วันที่ของอายุขัยขั้นต่ำ หรือวันที่ “ใช้ภายใน” เพื่อรับรองว่าอายุของสินค้าที่เหลืออยู่มีจำนวนวันที่เพียงพอต่อการผู้บริโภคขั้นสุดท้ายสามารถบริโภคได้
               • ความสมบูรณ์ของบรรจุภัณฑ์ หากมี
               • เงื่อนไขการจัดเก็บและการขนส่งที่เหมาะสม รวมถึงข้อกำหนดด้านอุณหภูมิที่เกี่ยวข้อง
               • วันที่ของการแช่แข็งตาม Regulation (EC) No 853/2004 ภาคผนวก II Section IV 2(b) หากมี
               • เงื่อนไขทางประสาทสัมผัส
               • การรับประกันในการตรวจสอบย้อนกลับตาม Commission Implementing Regulation (EU) No 931/2011 ในกรณีที่เป็นสินค้าที่มีแหล่งกำเนิดจากสัตว์
   3. เพิ่มข้อ 9 ในบทที่ IX ดังนี้
      • ห้ามใช้อุปกรณ์ ยานพาหนะ และ/หรือคอนเทนเนอร์ที่ใช้สำหรับการแปรรูป การจัดการ การขนส่ง หรือการจัดเก็บสารหรือสินค้าใดที่ก่อให้เกิดการแพ้ (allergies) หรือการแพ้แฝง (intolerances) ตาม Regulation (EU) No 1169/2011 ภาคผนวก II ในการแปรรูป การจัดการ การขนส่ง หรือการจัดเก็บอาหาร ที่ไม่มีส่วนประกอบของสารหรือสินค้านั้น ๆ เว้นแต่จะมีการทำความสะอาดและตรวจสอบว่าไม่มีร่องรอยของสารหรือสินค้านั้น ๆ
   4. เพิ่มบทที่ XIa หลังจากบทที่ XI ดังนี้
      • บทที่ Xia
        • วัฒนธรรมความปลอดภัยอาหาร
          1. ผู้ประกอบการธุรกิจอาหารต้องจัดทำ รักษา และแสดงหลักฐานของวัฒนธรรมความปลอดภัยอาหารที่เหมาะสม โดยปฏิบัติตามข้อกำหนดดังนี้
             • ความมุ่งมั่นของการจัดการตามข้อ 2 และของพนักงานในการผลิตและกระจายอาหารอย่างปลอดภัย
             • ความเป็นผู้นำต่อการผลิตอาหารอย่างปลอดภัย และการส่งเสริมให้พนักงานมีส่วนร่วมด้านความปลอดภัยอาหาร
             • ความเป็นผู้นำต่อการผลิตอาหารอย่างปลอดภัย และการส่งเสริมให้พนักงานมีส่วนร่วมด้านความปลอดภัยอาหาร
             • การสื่อสารที่เปิดเผยและชัดเจนระหว่างพนักงาน รวมถึงการสื่อสารด้านความเบี่ยงเบนและความคาดหวัง
             • ทรัพยากรที่เพียงพอเพื่อรับรองการจัดการอาหารที่ปลอดภัยและถูกสุขอนามัย
          2. ความมุ่งมั่นในการจัดการ
             • การสื่อสารบทบาทและความรับผิดชอบอย่างชัดเจนของแต่ละกิจกรรมในธุรกิจอาหาร
             • การรักษาความถูกต้องของระบบสุขอนามัยอาหาร เมื่อมีการวางแผนและการดำเนินการที่เปลี่ยนจากเดิม
             • รับรองว่ามีการควบคุมอย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพ รวมถึงเอกสารมีความเป็นปัจจุบัน
             • รับรองว่ามีการฝึกอบรมและการกำกับดูแลที่เหมาะสมสำหรับบุคลากร
             • รับรองการปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง
             • สนับสนุนการปรับปรุงระบบการจัดการความปลอดภัยอาหารอย่างต่อเนื่องตามความเหมาะสม โดยพิจารณาถึงการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และแนวปฏิบัติที่ดีที่สุด
          3. การดำเนินการตามวัฒนธรรมความปลอดภัยอาหารจะต้องพิจารณาถึงลักษณะและขนาดของธุรกิจอาหาร
3. กฎระเบียบดังกล่าวมีผลบังคับใช้ 20 วัน หลังจากที่ประกาศใน EU Official Journal (ประกาศ ณ วันที่ 4 มีนาคม 2564) ทั้งนี้ รายละเอียดของกฎระเบียบดังกล่าว สามารถสืบค้นเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ ดังนี้ https://eur-lex.europa.eu/legal-content/EN/TXT/PDF/?uri=CELEX:32021R0382&from=EN