free page hit counter

สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ประจำสหภาพยุโรป

Office of Agricultural Affairs | Royal Thai Embassy, Brussels
HomeRegulationสหภาพยุโรปปรับแก้บัญชีรายชื่อผลิตภัณฑ์และสารที่อนุญาตให้ใช้สำหรับการผลิตอินทรีย์  

สหภาพยุโรปปรับแก้บัญชีรายชื่อผลิตภัณฑ์และสารที่อนุญาตให้ใช้สำหรับการผลิตอินทรีย์  

คณะกรรมาธิการยุโรปประกาศ Commission Implementing Regulation (EU) 2025/973 ว่าด้วย การปรับแก้ Implementing Regulation (EU) 2021/1165 ว่าด้วย การอนุญาตให้ใช้ผลิตภัณฑ์และสารสำหรับการผลิตอินทรีย์ และการจัดทำบัญชีรายชื่อที่เกี่ยวข้อง ใน EU Official Journal L series โดยมีรายละเอียดดังนี้

  1. ปรับข้อกำหนดในมาตรา 10 ของ Regulation (EU) 2021/1165 โดยให้เพิ่มขั้นตอนการอนุญาตเฉพาะสำหรับการใช้ผลิตภัณฑ์และสารในผลิตภัณฑ์อินทรีย์ที่มีแหล่งกำเนิดจากภูมิภาคภายนอกสุดของสหภาพยุโรป (outermost regions of the Union) และให้บรรจุบัญชีรายชื่อของผลิตภัณฑ์และสารดังกล่าวใน Annex VI ของ Regulation (EU) 2021/1165
  2. ภาคผนวก I (Annex I) ของ Regulation (EU) 2021/1165 ดังนี้ 2.1)เพิ่มการอนุญาตให้ใช้สารออกฤทธิ์ที่มีความเสี่ยงต่ำ ดังนี้

            1) lavandulyl senecioat

            2) potassium hydrogen carbonate

            3) straight chain lepidopteran pheromones (acetates)

            4) sheep fat

            5) quartz sand

2.2) ปรับแก้เงื่อนไขการใช้  pheromones and other semio-chemicals โดยให้ใช้เฉพาะกับกับดักและเครื่องจ่ายสาร  (traps and dispensers)  

2.3) ปรับแก้เงื่อนไขเฉพาะและขีดจำกัดของสาร magnesium hydrogen metasilicate silicate mineral (Talc E 553b) ในตารางข้อ 1 Annex I Regulation (EU) 2021/1165   

 3. ปรับข้อกำหนดในภาคผนวก II (Annex II) ของ Regulation (EU) 2021/1165 ดังนี้

3.1) เพิ่มการอนุญาตให้ใช้ผลิตภัณฑ์และผลิตภัณฑ์พลอยได้จากพืชเป็นปุ๋ย ภายใต้กลุ่มปุ๋ย สารปรับสภาพดิน และธาตุอาหาร

3.2)เพิ่มการอนุญาตให้ใช้ stone meal, clays และ clay minerals เป็นสื่อปลูกพืชที่ไม่มีสารอาหาร (inert medium) ในการผลิตเมล็ดเพาะ (sprouted seeds production)

3.3)  เพิ่มการอนุญาตให้ใช้คาร์บอนไดออกไซด์ (carbon dioxide) เพื่อเพิ่มปริมาณสารอาหารในน้ำ ณ แหล่งผลิตสาหร่ายที่เป็นระบบปิดบนบก และการใช้ในเรือนกระจกอินทรีย์

3.4) กำหนดเงื่อนไขการใช้ปุ๋ย calcium acetate เฉพาะบนผักใบในเรือนกระจกและต้นแอปเปิ้ล เพื่อป้องกันการขาดสารแคลเซียม และอนุญาตให้ใช้ในการผลิตอินทรีย์ แต่เฉพาะเมื่อ calcium acetate มาจากกากตะกอนน้ำเสีย (sewage sludge ash) และเฉพาะเมื่อมีอยู่ในผลิตภัณฑ์ที่ปฏิบัติตาม Regulation (EU) 2019/1009 เท่านั้น

3.5) เพิ่มการอนุญาตให้ใช้พรมไฟเบอร์จากพืชที่ไม่มีการผสมปุ๋ย  สารปรับสภาพดิน  และธาตุอาหาร เป็นสื่อปลูกพืชที่ไม่มีสารอาหาร (inert medium)  ในการผลิตเมล็ดเพาะ (sprouted seeds production) โดยพรมไฟเบอร์ต้องผลิตจากเครื่องจักรที่ไม่มีการใช้สารเสริมหรือสารยึดเกาะ และไฟเบอร์จากพืชอินทรีย์

3.6) เพิ่มการอนุญาตให้ใช้ calcium gluconate และ magnesium gluconate ที่ได้จากการหมักจุลินทรีย์

4. ปรับข้อกำหนดในภาคผนวก III (Annex III) ของ Regulation (EU) 2021/1165 ดังนี้

 4.1) กำหนดเงื่อนไขเฉพาะและขอบเขตการใช้ calcium chloride, propylene glycol (feed materials) และ iron dextran 10 % (nutritional additive) และปรับแก้คำนิยามของ « อาหารสัตว์ที่ใช้เพื่อจุดประสงค์ทางโภชนาการเฉพาะ » (feed intended for particular nutritional purposes)

4.2)เพิ่มการอนุญาตโปรตีนเซลล์เดี่ยว (single cell proteins) จาก Trichoderma viride และ Aspergillus oryyzae และผลิตภัณฑ์จาก Bacillus subtilis อุดมไปด้วยโปรตีนใช้เป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์ (feed materials) และ lecithins ใช้เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ (feed additives in feed) และ ethanol และ papain ใช้เป็นตัวช่วยในการแปรรูปอาหารสัตว์อินทรีย์ เพิ่มการอนุญาต calcium stearate ใช้เป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์ (feed materials) กำหนดให้สารเสริมอาหารสัตว์ต้องมีหมายเลข E number และหมายเลขกลุ่มฟังก์ชัน (functional group) ของสารเสริม และเพิ่มการอนุญาต calcium propionate ใช้เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ที่ใช้เพื่อจุดประสงค์ทางโภชนาการเฉพาะ (feed intended for particular nutritional purposes)

4.3) เพิ่มการอนุญาต  Iron(II) fumarate ใช้เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ (feed additive)

5. ปรับข้อกำหนดในภาคผนวก V (Annex V) ของ Regulation (EU) 2021/1165 ดังนี้

5.1) กำหนดให้บัญชีรายชื่อวัตถุเจือปนอาหาร (food additives) และบัญชีรายชื่อสารช่วยในการผลิตอาหาร (food processing aids) ที่ปรากฏใน Part A, Sections A1 และ A2 Annex V Regulation (EU) 2021/1165 ควรรวมเป็นบัญชีเดียวกัน รวมถึงให้มีการกำหนดเงื่อนไขเฉพาะสำหรับสารช่วยในการผลิตอาหารเพื่อให้สามารถใช้เป็นวัตถุเจือปนอาหารได้ ทั้งนี้ ในส่วนของวัตถุเจือปนอาหาร calcium carbonate ไม่จำเป็นต้องระบุเงื่อนไขเฉพาะ เนื่องจากมีการกำหนดไว้แล้วใน Part IV ข้อ 2.2.2(c), (d) และ (f)  Annex II Regulation (EU) 2018/848

5.2) เพิ่มการอนุญาตให้ buffered vinegar เป็นวัตถุเจือปนอาหารและบรรจุอยู่ในบัญชีรายชื่อวัตถุเจือปนอาหาร (food additives) และบัญชีรายชื่อสารช่วยในการผลิตอาหาร (food processing aids) ใน Part A Annex V Regulation (EU) 2021/1165

  • กำหนดค่าปริมาณขีดจำกัดที่ยอมรับได้สูงสุด (maximum levels) สำหรับ sodium nitrite และ potassium nitrate เป็น nitrite ion และ nitrate ion ตามค่าที่ยอมรับได้ต่อวัน (Acceptable Daily Intakes :ADIs) โดย EFSA รวมถึงแฟคเตอร์เปลี่ยนหน่วย (conversion factor) ระหว่าง sodium nitrite และ nitrite ion ที่ระดับ 0,67 และระหว่าง sodium nitrate และ nitrate ion ที่ระดับ 0,73
  •  อนุโลมให้วัตถุเจือปนอาหาร Gellan gum (E418) ที่ไม่ใช่อินทรีย์ (non-organic) สามารถใช้ในการผลิตอินทรีย์ได้ โดยให้บรรจุในบัญชีฯ Part A  Annex V  Regulation (EU) 2021/1165 และมีผลปรับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2569 เป็นต้นไป
  •  ยกเลิกการระบุเงื่อนไขเฉพาะสำหรับการใช้ hydrochloric acid, hydrogen peroxide และ ammonium hydroxide ในการผลิตเจลาติน ใน Part A  Section A1 Annex V  Regulation (EU) 2021/1165

  •  กำหนดให้สารกระตุ้นการหมัก (fermentation activators) ที่ประกอบด้วยสารอาหารของสารสกัดยีสต์หรือออโตไลเซต (autolysate) บรรจุใน Part C Annex V Regulation (EU) 2021/1165 โดยเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับอนุญาตภายในขีดจำกัด 5% ของสารตั้งต้น (substrate)   
  • เพิ่มการอนุญาตให้ยีสต์และแบคทีเรียที่ผลิตกรดแล็กทิก (yeasts and lactic acid bacteria) เป็นสารควบคุมความเป็นกรด (acidity regulators) ในการผลิตไวน์อินทรีย์ โดยบรรจุใน Part D Annex V Regulation (EU) 2021/1165

  6.  ปรับข้อกำหนดในภาคผนวก VI (Annex VI) ของ Regulation (EU) 2021/1165 ดังนี้

  • เพิ่มการอนุญาตให้ใช้สารเอทิลีน (ethylene) เป็นสารออกฤทธิ์ในผลิตภัณฑ์อารักขาพืช เพื่อชักนำให้สับปะรดออกดอกและสิ่งมีชีวิตที่ไม่ได้มาจากการดัดแปลงพันธุกรรม (Non GMO microorganisms) ในการเพาะปลูกอินทรีย์

   7. กฎระเบียบดังกล่าวมีผลบังคับใช้ 20 วัน หลังจากที่ประกาศใน EU Official Journal (ประกาศ ณ วันที่ 26 พฤษภาคม 2568) รายละเอียดของกฎระเบียบดังกล่าว สามารถสืบค้นเพิ่มเติมได้จาก QR code