free page hit counter

สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ประจำสหภาพยุโรป

Office of Agricultural Affairs | Royal Thai Embassy, Brussels
HomeRegulationสหภาพยุโรปอนุญาตสารเสริมในอาหารสัตว์

สหภาพยุโรปอนุญาตสารเสริมในอาหารสัตว์

Featured Image by Olga Lioncat under Pexels license
  1. Commission Implementing Regulation (EU) 2025/273 ว่าด้วย การอนุญาตให้ preparation of Lactiplantibacillus plantarum DSM 34271 เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ ใน EU Official Journal L series โดยมีรายละเอียดดังนี้ 1)คณะกรรมาธิการยุโรปเห็นชอบอนุญาตให้ preparation of Lactiplantibacillus plantarum DSM 34271 เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ (feed additive) ภายใต้กลุ่มสารเสริมทางเทคโนโลยี (technological additives) โดยมีหน้าที่เป็นสารเร่งปฏิกริยาในหญ้าหมัก (silage additives) และอนุญาตให้ใช้กับสัตว์ทุกชนิด เป็นระยะเวลา 10 ปี ตั้งแต่วันที่กฎระเบียบฯ มีผลบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 5 มีนาคม 2578 เนื่องจากไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพสัตว์ ความปลอดภัยของผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม สารดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงจากการใช้งาน ผู้ใช้งานจึงควรสวมใส่อุปกรณ์ป้องกัน

 2)  กฎระเบียบดังกล่าวมีผลบังคับใช้ 20 วัน หลังจากที่ประกาศใน EU Official Journal (ประกาศ ณ วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568) ทั้งนี้ รายละเอียดของกฎระเบียบดังกล่าว สามารถสืบค้นเพิ่มเติมได้จาก QR code

2. Commission Implementing Regulation (EU) 2025/276 ว่าด้วย การอนุญาตให้ทิงเจอร์กานพลู (clove tincture: Syzygium aromaticum (L.) Merr. & L.M. Perry L.) เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ ใน EU Official Journal L series โดยมีรายละเอียดดังนี้

    1)  คณะกรรมาธิการยุโรปเห็นชอบอนุญาตให้ทิงเจอร์กานพลู (clove tincture: Syzygium aromaticum (L.) Merr. & L.M. Perry L.) เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ (feed additive) ภายใต้กลุ่มสารเสริมทางประสาทสัมผัส (sensory additives) โดยมีหน้าที่เป็นสารแต่งกลิ่น (flavouring compounds) และอนุญาตให้ใช้กับสัตว์ทุกชนิด เป็นระยะเวลา 10 ปี ตั้งแต่วันที่กฎระเบียบฯ มีผลบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 5 มีนาคม 2578 เนื่องจากไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพสัตว์ ความปลอดภัยของผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม สารดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงจากการใช้งาน ผู้ใช้งานจึงควรสวมใส่อุปกรณ์ป้องกัน

     2)  คณะกรรมาธิการยุโรปกำหนดปริมาณการใช้สารเสริมดังกล่าวในอาหารสัตว์ ดังนี้

          – สัตว์ทุกชนิด (ยกเว้นม้า)  ที่ระดับสูงสุดไม่เกิน 50 มิลลิกรัม/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)

         – ม้า ที่ระดับสูงสุดไม่เกิน 200 มิลลิกรัม/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)

     3)  คณะกรรมาธิการยุโรปกำหนดระยะเวลาเปลี่ยนผ่าน ดังนี้

        (ก) ทิงเจอร์กานพลูและสารผสมล่วงหน้า (premixture) ที่มีส่วนประกอบของทิงเจอร์กานพลูที่ผลิตและติดฉลากก่อนวันที่ 5 กันยายน 2568 โดยปฏิบัติตามกฎระเบียบฉบับเดิม ก่อนวันที่ 5 มีนาคม 2568 สามารถวางจำหน่ายและใช้ได้จนกว่าสินค้าจะหมดไปจากคลังสินค้า

        (ข) อาหารสัตว์ผสม (compound feeds) และวัตถุดิบอาหารสัตว์ (feed materials) ที่ใช้สำหรับสัตว์ที่ผลิตเพื่อเป็นอาหาร ที่มีส่วนประกอบของทิงเจอร์กานพลูที่ผลิตและติดฉลากก่อนวันที่ 5 มีนาคม 2569 โดยปฏิบัติตามกฎระเบียบฉบับเดิม ก่อนวันที่ 5 มีนาคม 2568 สามารถวางจำหน่ายและใช้ได้จนกว่าสินค้าจะหมดไปจากคลังสินค้า

        (ค) อาหารสัตว์ผสม (compound feeds) และวัตถุดิบอาหารสัตว์ (feed materials) ที่ไม่ใช้สำหรับสัตว์ที่ผลิตเพื่อเป็นอาหาร ที่มีส่วนประกอบของทิงเจอร์กานพลูที่ผลิตและติดฉลากก่อนวันที่ 5 มีนาคม 2570 โดยปฏิบัติตามกฎระเบียบฉบับเดิม ก่อนวันที่ 5 มีนาคม 2568 สามารถวางจำหน่ายและใช้ได้จนกว่าสินค้าจะหมดไปจากคลังสินค้า                                                                                                     

    4) กฎระเบียบดังกล่าวมีผลบังคับใช้ 20 วัน หลังจากที่ประกาศใน EU Official Journal (ประกาศ ณ วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568) ทั้งนี้ รายละเอียดของกฎระเบียบดังกล่าว สามารถสืบค้นเพิ่มเติมได้จาก QR code

3.Commission Implementing Regulation (EU) 2025/277 ว่าด้วย การอนุญาตให้ preparation of Loigolactobacillus coryniformis DSM 34345 เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ ใน EU Official Journal L series โดยมีรายละเอียดดังนี้

1)คณะกรรมาธิการยุโรปเห็นชอบอนุญาตให้ preparation of Loigolactobacillus coryniformis DSM 34345 เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ (feed additive) ภายใต้กลุ่มสารเสริมทางเทคโนโลยี (technological additives) โดยมีหน้าที่เป็นสารเร่งปฏิกริยาในหญ้าหมัก (silage additives) และอนุญาตให้ใช้กับสัตว์ทุกชนิด เป็นระยะเวลา 10 ปี ตั้งแต่วันที่กฎระเบียบฯ มีผลบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 5 มีนาคม 2578 เนื่องจากไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพสัตว์ ความปลอดภัยของผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม สารดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงจากการใช้งาน ผู้ใช้งานจึงควรสวมใส่อุปกรณ์ป้องกัน

 2)  กฎระเบียบดังกล่าวมีผลบังคับใช้ 20 วัน หลังจากที่ประกาศใน EU Official Journal (ประกาศ ณ วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568) ทั้งนี้ รายละเอียดของกฎระเบียบดังกล่าว สามารถสืบค้นเพิ่มเติมได้จาก QR code

4. Commission Implementing Regulation (EU) 2025/278 ว่าด้วย การอนุญาตให้น้ำมันหอมระเหยไม้ซีดาร์เท็กซัส (cedarwood Texas essential oil: Juniperus deppeana Steud.) เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ ใน EU Official Journal L series โดยมีรายละเอียดดังนี้

    1)  คณะกรรมาธิการยุโรปเห็นชอบอนุญาตให้น้ำมันหอมระเหยไม้ซีดาร์เท็กซัส (cedarwood Texas essential oil: Juniperus deppeana Steud.) เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ (feed additive) ภายใต้กลุ่มสารเสริมทางประสาทสัมผัส (sensory additives) โดยมีหน้าที่เป็นสารแต่งกลิ่น (flavouring compounds) และอนุญาตให้ใช้กับสัตว์ทุกชนิด เป็นระยะเวลา 10 ปี ตั้งแต่วันที่กฎระเบียบฯ มีผลบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 5 มีนาคม 2578 เนื่องจากไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพสัตว์ ความปลอดภัยของผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม สารดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงจากการใช้งาน ผู้ใช้งานจึงควรสวมใส่อุปกรณ์ป้องกัน

     2)  คณะกรรมาธิการยุโรปกำหนดระยะเวลาเปลี่ยนผ่าน ดังนี้

        (ก) น้ำมันหอมระเหยไม้ซีดาร์เท็กซัสและสารผสมล่วงหน้า (premixture) ที่มีส่วนประกอบของน้ำมันหอมระเหยไม้ซีดาร์เท็กซัสที่ผลิตและติดฉลากก่อนวันที่ 5 กันยายน 2568 โดยปฏิบัติตามกฎระเบียบฉบับเดิม ก่อนวันที่ 5 มีนาคม 2568 สามารถวางจำหน่ายและใช้ได้จนกว่าสินค้าจะหมดไปจากคลังสินค้า

        (ข) อาหารสัตว์ผสม (compound feeds) และวัตถุดิบอาหารสัตว์ (feed materials) ที่ใช้สำหรับสัตว์ที่ผลิตเพื่อเป็นอาหาร ที่มีส่วนประกอบของน้ำมันหอมระเหยไม้ซีดาร์เท็กซัสที่ผลิตและติดฉลากก่อนวันที่ 5 มีนาคม 2569 โดยปฏิบัติตามกฎระเบียบฉบับเดิม ก่อนวันที่ 5 มีนาคม 2568 สามารถวางจำหน่ายและใช้ได้จนกว่าสินค้าจะหมดไปจากคลังสินค้า

        (ค) อาหารสัตว์ผสม (compound feeds) และวัตถุดิบอาหารสัตว์ (feed materials) ที่ไม่ใช้สำหรับสัตว์ที่ผลิตเพื่อเป็นอาหาร ที่มีส่วนประกอบของน้ำมันหอมระเหยไม้ซีดาร์เท็กซัสที่ผลิตและติดฉลากก่อนวันที่ 5 มีนาคม 2570 โดยปฏิบัติตามกฎระเบียบฉบับเดิม ก่อนวันที่ 5 มีนาคม 2568 สามารถวางจำหน่ายและใช้ได้จนกว่าสินค้าจะหมดไปจากคลังสินค้า

    4) กฎระเบียบดังกล่าวมีผลบังคับใช้ 20 วัน หลังจากที่ประกาศใน EU Official Journal (ประกาศ ณ วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568) ทั้งนี้ รายละเอียดของกฎระเบียบดังกล่าว สามารถสืบค้นเพิ่มเติมได้จาก QR code

                                                                                                         

5. Commission Implementing Regulation (EU) 2025/279 ว่าด้วย การอนุญาตให้น้ำมันหอมระเหยเสม็ดขาว (cajeput essential oil: Melaleuca cajuputi Maton & Sm. ex R. Powell and Melaleuca leucadendra (L.) L.) เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ ใน EU Official Journal L series โดยมีรายละเอียดดังนี้

    1)  คณะกรรมาธิการยุโรปเห็นชอบอนุญาตให้น้ำมันหอมระเหยเสม็ดขาว (cajeput essential oil: Melaleuca cajuputi Maton & Sm. ex R. Powell and Melaleuca leucadendra (L.) L.) เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ (feed additive) ภายใต้กลุ่มสารเสริมทางประสาทสัมผัส (sensory additives) โดยมีหน้าที่เป็นสารแต่งกลิ่น (flavouring compounds) และอนุญาตให้ใช้กับสัตว์ทุกชนิด เป็นระยะเวลา 10 ปี ตั้งแต่วันที่กฎระเบียบฯ มีผลบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 5 มีนาคม 2578 เนื่องจากไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพสัตว์ ความปลอดภัยของผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม สารดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงจากการใช้งาน ผู้ใช้งานจึงควรสวมใส่อุปกรณ์ป้องกัน

     2)  คณะกรรมาธิการยุโรปกำหนดระยะเวลาเปลี่ยนผ่าน ดังนี้

        (ก) น้ำมันหอมระเหยเสม็ดขาวและสารผสมล่วงหน้า (premixture) ที่มีส่วนประกอบของน้ำมันหอมระเหยเสม็ดขาวที่ผลิตและติดฉลากก่อนวันที่ 5 กันยายน 2568 โดยปฏิบัติตามกฎระเบียบฉบับเดิม ก่อนวันที่ 5 มีนาคม 2568 สามารถวางจำหน่ายและใช้ได้จนกว่าสินค้าจะหมดไปจากคลังสินค้า

        (ข) อาหารสัตว์ผสม (compound feeds) และวัตถุดิบอาหารสัตว์ (feed materials) ที่ใช้สำหรับสัตว์ที่ผลิตเพื่อเป็นอาหาร ที่มีส่วนประกอบของน้ำมันหอมระเหยเสม็ดขาวที่ผลิตและติดฉลากก่อนวันที่ 5 มีนาคม 2569 โดยปฏิบัติตามกฎระเบียบฉบับเดิม ก่อนวันที่ 5 มีนาคม 2568 สามารถวางจำหน่ายและใช้ได้จนกว่าสินค้าจะหมดไปจากคลังสินค้า

        (ค) อาหารสัตว์ผสม (compound feeds) และวัตถุดิบอาหารสัตว์ (feed materials) ที่ไม่ใช้สำหรับสัตว์ที่ผลิตเพื่อเป็นอาหาร ที่มีส่วนประกอบของน้ำมันหอมระเหยเสม็ดขาวที่ผลิตและติดฉลากก่อนวันที่ 5 มีนาคม 2570 โดยปฏิบัติตามกฎระเบียบฉบับเดิม ก่อนวันที่ 5 มีนาคม 2568 สามารถวางจำหน่ายและใช้ได้จนกว่าสินค้าจะหมดไปจากคลังสินค้า

    4) กฎระเบียบดังกล่าวมีผลบังคับใช้ 20 วัน หลังจากที่ประกาศใน EU Official Journal (ประกาศ ณ วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568) ทั้งนี้ รายละเอียดของกฎระเบียบดังกล่าว สามารถสืบค้นเพิ่มเติมได้จาก QR code

6. Commission Implementing Regulation (EU) 2025/281 ว่าด้วย การอนุญาตให้ propyl gallate เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ ใน EU Official Journal L series โดยมีรายละเอียดดังนี้

    1) คณะกรรมาธิการยุโรปเห็นชอบอนุญาตให้ propyl gallate เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ (feed additive) ภายใต้กลุ่มสารเสริมทางเทคโนโลยี (technological additives) เพื่อช่วยต้านอนุมูลอิสระ (antioxidants) และอนุญาตให้ใช้กับสัตว์ทุกชนิด เป็นระยะเวลาไม่จำกัด เนื่องจากไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพสัตว์ ความปลอดภัยของผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม สารดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงจากการใช้งาน ผู้ใช้งานจึงควรสวมใส่อุปกรณ์ป้องกัน

     2) คณะกรรมาธิการยุโรปกำหนดการใช้สารเสริมที่ระดับสูงสุดในสัตว์ ดังนี้

          – วัว แกะ แพะ กวาง อูฐ สุกรเพศเมีย ม้า ปลาและปลาแซลมอน ระดับสูงสุดไม่เกิน 40 มิลลิกรัม/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)

         – ปลาสวยงาม ระดับสูงสุดไม่เกิน 100 มิลลิกรัม/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)

         – ไก่เพื่อขุน สัตว์ปีกวัยเยาว์เพื่อขุน/เพื่อไข่/เพื่อเพาะพันธุ์ และนกสวยงาม ระดับสูงสุดไม่เกิน 15 มิลลิกรัม/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)

         -ไก่งวงเพื่อขุน ไก่ไข่ สัตว์ปีกวัยเยาว์เพื่อไข่/เพื่อเพาะพันธุ์ และกระต่าย ระดับสูงสุดไม่เกิน 20 มิลลิกรัม/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)

         – ลูกสุกร สุกรเพื่อขุน/เพื่อเพาะพันธุ์ ระดับสูงสุดไม่เกิน 27 มิลลิกรัม/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)

         – สุนัข และแมว ระดับสูงสุดไม่เกิน 71 มิลลิกรัม/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)

         – สัตว์อื่นๆ ระดับสูงสุดไม่เกิน 15 มิลลิกรัม/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)

    3) กฎระเบียบดังกล่าวมีผลบังคับใช้ 20 วัน หลังจากที่ประกาศใน EU Official Journal (ประกาศ ณ วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568) ทั้งนี้ รายละเอียดของกฎระเบียบดังกล่าว สามารถสืบค้นเพิ่มเติมได้จาก QR code

7. Commission Implementing Regulation (EU) 2025/313 ว่าด้วย การอนุญาตให้ lanthanum carbonate octahydrate เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ ใน EU Official Journal L series โดยมีรายละเอียดดังนี้

    1) คณะกรรมาธิการยุโรปเห็นชอบให้ lanthanum carbonate octahydrate เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ (feed additive) ภายใต้กลุ่มสารเสริมเฉพาะทางสำหรับสัตว์ (zootechnical additives) เพื่อช่วยลดการขับฟอสฟอรัสออกทางปัสสาวะ (decrease in phosphorus excretion via urine) และอนุญาตให้ใช้กับสุนัข เป็นระยะเวลา 10 ปี ตั้งแต่วันที่กฎระเบียบฯ มีผลบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 10 มีนาคม 2578 เนื่องจากไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพสัตว์ ความปลอดภัยของผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม สารดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงจากการใช้งาน ผู้ใช้งานจึงควรสวมใส่อุปกรณ์ป้องกัน

    2) คณะกรรมาธิการยุโรปกำหนดให้ใช้สารเสริมดังกล่าว ระดับต่ำสุดที่ปริมาณ 1,500 มิลลิกรัม/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12) และระดับสูงสุดที่ปริมาณ 7,500 มิลลิกรัม/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)

    3) กฎระเบียบดังกล่าวมีผลบังคับใช้ 20 วัน หลังจากที่ประกาศใน EU Official Journal (ประกาศ ณ วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2568) ทั้งนี้ รายละเอียดของกฎระเบียบดังกล่าว สามารถสืบค้นเพิ่มเติมได้จาก QR code