สหภาพยุโรปอนุญาตให้ผงเห็ดวิตามิน D2 ขึ้นทะเบียนเป็นอาหารใหม่ (Novel food) 

    คณะกรรมาธิการยุโรปประกาศ Commission Implementing Regulation (EU) 2025/691 ว่าด้วย การอนุญาตให้วางจำหน่ายผงเห็ดวิตามิน D₂ เป็นอาหารใหม่ (novel food) ภายใต้ Regulation (EU) 2015/2283 ซึ่งเป็นการปรับแก้ Commission Implementing Regulation (EU) 2017/2470 ใน EU Official Journal L seriesโดยมีรายละเอียดดังนี้

1. เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2563 บริษัท Luxidum GmbH ของเยอรมนี ได้ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมาธิการยุโรปเพื่อขอขึ้นทะเบียนผงเห็ดวิตามิน D₂ เป็นอาหารใหม่ภายใต้ Regulation (EU) 2015/2283 มาตรา 10(1)
2. หน่วยงานความปลอดภัยอาหารประจำสหภาพยุโรป (European Food Safety Authority: EFSA) ได้ทำการประเมินและลงความเห็นว่า ผงเห็ดวิตามิน D₂ มีความปลอดภัยต่อการบริโภค และเป็นไปตามข้อกำหนดของ Regulation (EU) 2015/2283 จึงเห็นชอบให้ผงเห็ดวิตามิน D₂ บรรจุอยู่ในบัญชีรายชื่อ อาหารใหม่ (Novel food) ใน Commission Implementing Regulation (EU) 2017/2470 โดยอนุญาตให้ใช้ในธัญพืชอาหารเช้า ขนมปัง/ขนมอบที่ทำจากยีสต์ ผลิตภัณฑ์จากพาสต้า/ผลิตภัณฑ์ที่คล้ายคลึงกัน เครื่องดื่มผลไม้/ผัก เครื่องดื่มโยเกิร์ต เครื่องดื่มจากนมหมักชนิดอื่น นมปรุงแต่งรส นมเข้มข้น นมผง  ผงครีม เวย์ ขนมหวานที่ทำจากนม/ผลิตภัณฑ์ที่คล้ายคลึงกัน  เนยแข็ง อาหารทดแทนเพื่อควบคุมน้ำหนัก เนื้อสัตว์เทียมและนมเทียม ซุป ซุปแห้ง ขนมขบเคี้ยวอัดแท่ง มันฝรั่งทอดกรอบ อาหารเพื่อวัตถุประสงค์ทางการแพทย์พิเศษ และอาหารเสริม (ยกเว้นอาหารเสริมสำหรับทารกและเด็กเล็ก)  โดยกำหนดสัดส่วนการบริโภคสูงสุด (Maximum levels) ระหว่าง 1,2 – 98,4 ไมโครกรัม/100 กรัม หรือ 100 มิลลิลิตร (ขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์) และที่ระดับ 15 ไมโครกรัม/วัน ในอาหารเสริม  และระบุบนฉลากว่า « มีส่วนผสมของผงเห็ดวิตามิน D₂ ที่ผ่านกรรมวิธีรังสียูวี (UV-treated) »

3. การขึ้นทะเบียนผงเห็ดวิตามิน D₂ เป็นอาหารใหม่ให้แก่บริษัทผู้ยื่นคำร้อง Luxidum GmbH ของเยอรมนีในครั้งนี้  ไม่ได้ถือเป็นการกีดกันให้ผู้ยื่นคำร้องรายอื่น ๆ ไม่สามารถขอขึ้นทะเบียนสินค้าชนิดเดียวกันได้ หากข้อมูลที่ใช้ประกอบการยื่นคำร้องมีความถูกต้อง/ครบถ้วนเป็นไปตามกฎระเบียบ แม้ว่า บริษัท Luxidum GmbH จะได้ยื่นขอการปกป้องข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่เป็นกรรมสิทธิ์ เป็นเวลา 5 ปี จนถึงวันที่ 30 เมษายน 2573

4.กฎระเบียบดังกล่าวมีผลบังคับใช้ 20 วัน หลังจากที่ประกาศใน EU Official Journal (ประกาศ ณ วันที่ 10 เมษายน 2568) ทั้งนี้ รายละเอียดของกฎระเบียบดังกล่าว สามารถสืบค้นเพิ่มเติมได้จาก QR code