free page hit counter

สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ประจำสหภาพยุโรป

Office of Agricultural Affairs | Royal Thai Embassy, Brussels
HomeRegulationสหภาพยุโรปอนุญาตสารเสริมในอาหารสัตว์

สหภาพยุโรปอนุญาตสารเสริมในอาหารสัตว์

Featured Image by chatnarin pramnapan on Unsplash

1. Commission Implementing Regulation (EU) 2022/1382 ว่าด้วย การอนุญาตให้ preparation of Propionibacterium freudenreichii DSM 33189 และ Lentilactobacillus buchneri DSM 12856 เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ ใน EU Official Journal L 207/16 โดยมีรายละเอียดดังนี้

    1) คณะกรรมาธิการยุโรปเห็นชอบให้ preparation of Propionibacterium freudenreichii DSM 33189 และ Lentilactobacillus buchneri DSM 12856 เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ (feed additive) ภายใต้กลุ่มสารเสริมทางเทคโนโลยี (technological additives) โดยมีหน้าที่เป็นสารเร่งปฏิกิริยาในหญ้าหมัก (silage additives) และอนุญาตให้ใช้กับสัตว์ทุกชนิด เป็นระยะเวลา 10 ปี ตั้งแต่วันที่กฎระเบียบฯ มีผลบังคับใช้ ไปจนถึงวันที่ 29 สิงหาคม 2575 เนื่องจากไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพสัตว์ ความปลอดภัยของผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม สารดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงจากการใช้งาน ผู้ใช้งานจึงควรสวมใส่ชุดป้องกัน

     2) กฎระเบียบดังกล่าวมีผลบังคับใช้ 20 วัน หลังจากที่ประกาศใน EU Official Journal (ประกาศ ณ วันที่ 9 สิงหาคม 2565) ทั้งนี้ รายละเอียดของกฎระเบียบดังกล่าว สามารถสืบค้นเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ ดังนี้

https://eur-lex.europa.eu/legal-content/EN/TXT/PDF/?uri=CELEX:32022R1382&from=EN

2. Commission Implementing Regulation (EU) 2022/1383 ว่าด้วย การอนุญาตให้สารสกัดกำยาน (olibanum extract) จาก Boswellia serrata Roxb.ex Colebr. เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ ใน EU Official Journal L 207/19 โดยมีรายละเอียดดังนี้

    1) คณะกรรมาธิการยุโรปเห็นชอบให้สารสกัดกำยาน (olibanum extract) จาก Boswellia serrata Roxb.ex Colebr. เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ (feed additive) ภายใต้กลุ่มสารเสริมทางประสาทสัมผัส (sensory additives) โดยมีหน้าที่เป็นสารแต่งกลิ่น (flavouring compounds) และอนุญาตให้ใช้กับม้าและสุนัข เป็นระยะเวลา 10 ปี ตั้งแต่วันที่กฎระเบียบฯ มีผลบังคับใช้ ไปจนถึงวันที่ 29 สิงหาคม 2575 เนื่องจากไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพสัตว์ ความปลอดภัยของผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม สารดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงจากการใช้งาน ผู้ใช้งานจึงควรสวมใส่ชุดป้องกัน

    2) คณะกรรมาธิการยุโรปแนะนำการใช้งานขั้นสูงสุด สำหรับม้า ที่ปริมาณ 100 มิลลิกรัมของสาร/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12) และสำหรับสุนัข ที่ปริมาณ 330 มิลลิกรัมของสาร/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)

    3) คณะกรรมาธิการยุโรปได้กำหนดมาตรการเปลี่ยนผ่านดังนี้

        (ก) สารสกัดกำยาน (olibanum extract) จาก Boswellia serrata Roxb.ex Colebr. และสารผสมล่วงหน้า (premixture) ที่มีส่วนประกอบของสารดังกล่าวที่ผลิตและติดฉลากก่อนวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 โดยปฏิบัติตามกฎระเบียบฉบับเดิม ก่อนวันที่ 29 สิงหาคม 2565 สามารถวางจำหน่ายและใช้ได้จนกว่าสินค้าจะหมดไปจากคลังสินค้า

        (ข) อาหารสัตว์ผสม (compound feeds) และวัตถุดิบอาหารสัตว์ (feed materials) ที่ใช้สำหรับสัตว์ที่ผลิตเพื่อเป็นอาหาร ที่มีส่วนประกอบของสารสกัดกำยาน (olibanum extract) จาก Boswellia serrata Roxb.ex Colebr.  ที่ผลิตและติดฉลากก่อนวันที่ 29 สิงหาคม 2566 โดยปฏิบัติตามกฎระเบียบฉบับเดิม ก่อนวันที่ 29 สิงหาคม 2565 สามารถวางจำหน่ายและใช้ได้จนกว่าสินค้าจะหมดไปจากคลังสินค้า

        (ค) วัตถุดิบอาหารสัตว์ (feed materials) และอาหารสัตว์ผสม (compound feeds) ที่ไม่ใช้สำหรับสัตว์ที่ผลิตเพื่อเป็นอาหาร ที่มีส่วนประกอบของสารสกัดกำยาน (olibanum extract) จาก Boswellia serrata Roxb.ex Colebr.  ที่ผลิตและติดฉลากก่อนวันที่ 29 สิงหาคม 2567 โดยปฏิบัติตามกฎระเบียบฉบับเดิม ก่อนวันที่ 29 สิงหาคม 2565 สามารถวางจำหน่ายและใช้ได้จนกว่าสินค้าจะหมดไปจากคลังสินค้า                                                                                                              

    4) กฎระเบียบดังกล่าวมีผลบังคับใช้ 20 วัน หลังจากที่ประกาศใน EU Official Journal (ประกาศ ณ วันที่ 9 สิงหาคม 2565) ทั้งนี้ รายละเอียดของกฎระเบียบดังกล่าว สามารถสืบค้นเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ ดังนี้

https://eur-lex.europa.eu/legal-content/EN/TXT/PDF/?uri=CELEX:32022R1383&from=EN

3. Commission Implementing Regulation (EU) 2022/1374 ว่าด้วย การอนุญาตให้ potassium diformate เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ ใน EU Official Journal L 206/35 โดยมีรายละเอียดดังนี้

    1) คณะกรรมาธิการยุโรปเห็นชอบให้ potassium diformate เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ (feed additive) ภายใต้กลุ่มสารเสริมทางเทคโนโลยี (technological additives) โดยมีหน้าที่เป็นสารกันเสีย (preservatives) และอนุญาตให้ใช้กับลูกสุกรเพื่อขุน สุกรเพื่อขุน และแม่สุกร เป็นระยะเวลา 10 ปี ตั้งแต่วันที่กฎระเบียบฯ มีผลบังคับใช้ ไปจนถึงวันที่ 28 สิงหาคม 2575 เนื่องจากไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพสัตว์ ความปลอดภัยของผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม สารดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงจากการใช้งาน ผู้ใช้งานจึงควรสวมใส่ชุดป้องกัน

     2) คณะกรรมาธิการยุโรปกำหนดการใช้งานขั้นสูงสุด สำหรับแม่สุกร ที่ปริมาณ 12,000 มิลลิกรัมของสาร/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12) และสำหรับลูกสุกรเพื่อขุน และสุกรเพื่อขุน ที่ปริมาณ 6,000 มิลลิกรัมของสาร/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)

     3) คณะกรรมาธิการยุโรปได้กำหนดมาตรการเปลี่ยนผ่านดังนี้

        (ก) potassium diformate และสารผสมล่วงหน้า (premixture) ที่มีส่วนประกอบของสารดังกล่าวที่ผลิตและติดฉลากก่อนวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 โดยปฏิบัติตามกฎระเบียบฉบับเดิม ก่อนวันที่ 28 สิงหาคม 2565 สามารถวางจำหน่ายและใช้ได้จนกว่าสินค้าจะหมดไปจากคลังสินค้า

        (ข) อาหารสัตว์ผสม (compound feeds) และวัตถุดิบอาหารสัตว์ (feed materials) ที่ใช้สำหรับสัตว์ที่ผลิตเพื่อเป็นอาหาร ที่มีส่วนประกอบของ potassium diformate ที่ผลิตและติดฉลากก่อนวันที่ 28 สิงหาคม 2566 โดยปฏิบัติตามกฎระเบียบฉบับเดิม ก่อนวันที่ 28 สิงหาคม 2565 สามารถวางจำหน่ายและใช้ได้จนกว่าสินค้าจะหมดไปจากคลังสินค้า

        (ค) วัตถุดิบอาหารสัตว์ (feed materials) และอาหารสัตว์ผสม (compound feeds) ที่ไม่ใช้สำหรับสัตว์ที่ผลิตเพื่อเป็นอาหาร ที่มีส่วนประกอบของ potassium diformate ที่ผลิตและติดฉลากก่อนวันที่ 28 สิงหาคม 2567 โดยปฏิบัติตามกฎระเบียบฉบับเดิม ก่อนวันที่ 28 สิงหาคม 2565 สามารถวางจำหน่ายและใช้ได้จนกว่าสินค้าจะหมดไปจากคลังสินค้า

     4) กฎระเบียบดังกล่าวมีผลบังคับใช้ 20 วัน หลังจากที่ประกาศใน EU Official Journal (ประกาศ ณ วันที่ 8 สิงหาคม 2565) ทั้งนี้ รายละเอียดของกฎระเบียบดังกล่าว สามารถสืบค้นเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ ดังนี้

https://eur-lex.europa.eu/legal-content/EN/TXT/PDF/?uri=CELEX:32022R1374&from=EN