free page hit counter

สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ประจำสหภาพยุโรป

Office of Agricultural Affairs | Royal Thai Embassy, Brussels
HomeRegulationสหภาพยุโรปอนุญาตสารเสริมในอาหารสัตว์

สหภาพยุโรปอนุญาตสารเสริมในอาหารสัตว์

Featured Image by Thomas Iversen on Unsplash

1. Commission Implementing Regulation (EU) 2023/53 ว่าด้วย การอนุญาตให้ preparation of Pediococcus acidilactici CNCM I-4622 เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ ใน EU Official Journal L 3/8 โดยมีรายละเอียดดังนี้

    1) คณะกรรมาธิการยุโรปเห็นชอบให้ preparation of Pediococcus acidilactici CNCM I-4622  เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ (feed additive) ภายใต้กลุ่มสารเสริมทางเทคโนโลยี (technological additives) โดยมีหน้าที่เป็นสารควบคุมความเป็นกรด (acidity regulators) และอนุญาตให้ใช้กับสัตว์ทุกชนิด เป็นระยะเวลา 10 ปี ตั้งแต่วันที่กฎระเบียบฯ มีผลบังคับใช้ ไปจนถึงวันที่ 24 มกราคม 2576 เนื่องจากไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพสัตว์ ความปลอดภัยของผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม สารดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงจากการใช้งาน ผู้ใช้งานจึงควรสวมใส่ชุดป้องกัน

     2) คณะกรรมาธิการยุโรปกำหนดปริมาณการใช้สารขั้นต่ำสุด ที่ปริมาณ 1 x 109 CFU ของสาร/กิโลกรัมของวัตถุสด (fresh material)    

     3) กฎระเบียบดังกล่าวมีผลบังคับใช้  20  วัน  หลังจากที่ประกาศใน  EU Official Journal  (ประกาศ ณ วันที่ 5 มกราคม 2566) ทั้งนี้ รายละเอียดของกฎระเบียบดังกล่าว สามารถสืบค้นเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ ดังนี้

https://eur-lex.europa.eu/legal-content/EN/TXT/PDF/?uri=CELEX:32023R0053&from=EN

2. Commission Implementing Regulation (EU) 2023/54 ว่าด้วย การอนุญาตให้สารสกัดจากส้มขม (bitter orange extract) เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ ใน EU Official Journal L 3/12 โดยมีรายละเอียดดังนี้

    1) คณะกรรมาธิการยุโรปเห็นชอบให้สารสกัดจากส้มขม (bitter orange extract)  เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ (feed additive) ภายใต้กลุ่มสารเสริมทางประสาทสัมผัส (sensory additives) โดยมีหน้าที่เป็นสารแต่งกลิ่น (flavouring compounds) และอนุญาตให้ใช้กับไก่เพื่อขุน ไก่ไข่ ไก่งวงเพื่อขุน ลูกสุกร สุกรเพื่อขุน แม่สุกร โคนม ลูกวัว วัวเพื่อขุน แกะ แพะ ม้า กระต่าย ปลาซัลมอน ปลาสวยงาม สุนัข และแมว เป็นระยะเวลา 10 ปี ตั้งแต่วันที่กฎระเบียบฯ มีผลบังคับใช้ ไปจนถึงวันที่ 11 พฤษภาคม 2575 เนื่องจากไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพสัตว์ ความปลอดภัยของผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม สารดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงจากการใช้งาน ผู้ใช้งานจึงควรสวมใส่ชุดป้องกัน

     2) คณะกรรมาธิการยุโรปแนะนำปริมาณการใช้สารสกัดจากส้มขม ขั้นสูงสุดในสัตว์แต่ละประเภท ดังนี้

         2.1) ไก่เพื่อขุน ที่ปริมาณ 102 มิลลิกรัมของสาร/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)

          2.2) ไก่ไข่ ที่ปริมาณ 151 มิลลิกรัมของสาร/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)

          2.3) ไก่งวงเพื่อขุน ที่ปริมาณ 136 มิลลิกรัมของสาร/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)

          2.4) ลูกสุกร ที่ปริมาณ 182 มิลลิกรัมของสาร/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)

          2.5) สุกรเพื่อขุน ที่ปริมาณ 217 มิลลิกรัมของสาร/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)

          2.6) แม่สุกร ที่ปริมาณ 268 มิลลิกรัมของสาร/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)

          2.7) โคนม ที่ปริมาณ 259 มิลลิกรัมของสาร/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)

          2.8) ลูกวัว วัวเพื่อขุน แกะ แพะ ม้า ปลาซัลมอน สุนัข และปลาสวยงาม ที่ปริมาณ 400 มิลลิกรัมของสาร/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)

          2.9)  แมว ปริมาณ 80 มิลลิกรัมของสาร/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)

          2.10) กระต่าย ปริมาณ 161 มิลลิกรัมของสาร/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)

     3) กฎระเบียบดังกล่าวมีผลบังคับใช้ 1 วัน หลังจากที่ประกาศใน EU Official Journal (ประกาศ ณ วันที่ 5 มกราคม 2566) ทั้งนี้ รายละเอียดของกฎระเบียบดังกล่าว สามารถสืบค้นเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ ดังนี้

https://eur-lex.europa.eu/legal-content/EN/TXT/PDF/?uri=CELEX:32023R0054&from=EN