free page hit counter

สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ประจำสหภาพยุโรป

Office of Agricultural Affairs | Royal Thai Embassy, Brussels
HomeRegulationสหภาพยุโรปกำหนดปริมาณโควตาจัดสรรก๊าซเรือนกระจกในคลังคาร์บอนสำรองเสถียรภาพทางตลาด (MSR) ไปจนถึงปี 2573

สหภาพยุโรปกำหนดปริมาณโควตาจัดสรรก๊าซเรือนกระจกในคลังคาร์บอนสำรองเสถียรภาพทางตลาด (MSR) ไปจนถึงปี 2573

house near field
Photo by João Jesus on Pexels.com

    คณะกรรมาธิการยุโรปประกาศ Decision (EU) 2023/852  ว่าด้วย การปรับแก้ไข Decision (EU) 2015/1814 เกี่ยวกับปริมาณจัดสรรก๊าซเรือนกระจกในคลังคาร์บอนสำรองเสถียรภาพทางตลาด (Market Stability Reserve: MSR)*  สำหรับระบบการซื้อ-ขายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของสหภาพยุโรปจนถึงปี 2573 ใน EU Official Journal L 110/21 โดยมีรายละเอียดดังนี้

    1) คณะกรรมาธิการยุโรปพิจารณาแล้วเห็นควรให้ปรับแก้ไข มาตรา 1(5) วรรคย่อยที่ 1 ของ Decision (EU) 2015/1814  โดยให้เปลี่ยนประโยคสุดท้ายใหม่ ดังต่อไปนี้  

          « การละเว้นการปฏิบัติตามประโยคที่ 1 และประโยคที่ 2 ของวรรคย่อยนี้ เปอร์เซ็นต์และการจัดสรร โควตา จำนวน 100 ล้าน ตามที่ระบุไว้ในประโยคดังกล่าว กำหนดให้มีปริมาณเป็น 2 เท่าไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2573 » (กล่าวคือ กำหนดเปอร์เซนต์ของโควตาคาร์บอนเครดิตในคลังคาร์บอนสำรองเสถียรภาพทางตลาดประจำปีให้อยู่ที่ปริมาณ 2 เท่า จากร้อยละ 12 เป็นร้อยละ 24 ไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2573 ซึ่งเดิมกำหนดไว้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2566)

    2) กฎระเบียบดังกล่าวมีผลบังคับใช้ 20 วัน หลังจากที่ประกาศใน EU Official Journal (ประกาศ ณ วันที่ 25 เมษายน 2566) ทั้งนี้ รายละเอียดของกฎระเบียบดังกล่าว สามารถสืบค้นเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ ดังนี้

https://eur-lex.europa.eu/legal-content/EN/TXT/PDF/?uri=CELEX:32023D0852

*คลังคาร์บอนสำรองเสถียรภาพทางตลาด (Market Stability Reserve: MSR)  อยู่ภายใต้มาตรการตลาดคาร์บอนเครดิตในสหภาพยุโรป (Emission Trading Scheme: ETS) เพื่อก่อให้เกิดความสมดุลทางโครงสร้างระหว่างอุปสงค์และอุปทานในการจัดสรรคาร์บอนในตลาดคาร์บอน โดย Decision (EU) 2015/1814 ได้ริเริ่มให้มีคลังคาร์บอนสำรองเสถียรภาพทางตลาด (Market Stability Reserve: MSR)  ขึ้น เพื่อรองรับระบบการซื้อ-ขายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของสหภาพยุโรป โดยมีผลปรับใช้ตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นมา คลังสำรองฯ ดังกล่าวมีไว้เพื่อใช้ในสภาวะฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต และเพื่อให้สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ด้านความเป็นกลางทางสภาพภูมิอากาศของสหภาพยุโรปภายในปี 2593 และการปล่อยก๊าซให้เป็นศูนย์หลังจากนั้น ตามที่ระบุไว้ใน Regulation (EU) 2021/1119