free page hit counter

สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ประจำสหภาพยุโรป

Office of Agricultural Affairs | Royal Thai Embassy, Brussels
HomeRegulationสหภาพยุโรปปรับปรุงข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้สารที่ใช้ในวัสดุและบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่สัมผัสกับอาหาร

สหภาพยุโรปปรับปรุงข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้สารที่ใช้ในวัสดุและบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่สัมผัสกับอาหาร

Featured Image by Min An under Pexels license

คณะกรรมาธิการยุโรปประกาศ Commission Regulation (EU) 2025/351 ว่าด้วย การปรับปรุงข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้สารที่ใช้ในวัสดุและบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่สัมผัสกับอาหาร ภายใต้ Commission Regulation (EU) No 10/2011, Regulation (EU) 2022/1616, Regulation (EU) 2023/2006 และยกเลิก Regulation (EC) No 282/2008  ใน EU Official Journal L series โดยมีรายละเอียด ดังนี้

  • การกำหนดความชัดเจนของสาร (substance) ที่อนุญาตให้ใช้ใน Chapter II ว่าเป็น สารที่อนุญาตให้ใช้ในการผลิตวัสดุและผลิตภัณฑ์พลาสติก (plastic materials and articles) ไม่ใช่อนุญาตในชั้นพลาสติก (plastic layers)
  • การกำหนดคำนิยามของ « สารเสริม (additive) » ให้มีความชัดเจนยิ่งขึ้น โดยห้ามใช้สารเสริมที่อนุญาตภายใต้ Commission Regulation (EU) No 10/2011 ใช้เป็นสารตั้งต้น (starting substances) และในทางกลับกันห้ามใช้สารตั้งต้นเป็นสารเสริมในการผลิตพลาสติก
  • การกำหนดคำนิยามของ « สาร UVCB (Unknown or Variable composition, Complex reaction products or Biological materials) » ซึ่งเป็นสารเสริมที่มีแหล่งกำเนิดจากธรรมชาติที่อนุญาตให้ใช้ภายใต้ Commission Regulation (EU) No 10/2011 เพื่อให้สอดคล้องกับคำนิยามของสาร UVCB ที่กำหนดไว้ใน Regulation (EC) No 1907/2006
  • การยกเลิกคำว่า « โดยตั้งใจ (intentionally) » ในมาตรา 5 Commission Regulation (EU) No 10/2011 ในกลุ่มสารที่อนุญาตให้ใช้ผลิตวัสดุและผลิตภัณฑ์พลาสติกที่สัมผัสกับอาหาร
  • รายชื่อสารที่อนุญาตตามปรากฏในตารางที่ 1 ภาคผนวก I Commission Regulation (EU) No 10/2011 ระบุหมายเลขประจำตัวสาร (FCM substance number) เลขที่อ้างอิง (reference number) ชื่อทางเคมี (chemical name) และหมายเลขทะเบียน CAS (Chemical Abstracts Service (CAS) registry number) ในกรณีที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับสาร สามารถสอบถามความชัดเจนจาก EFSA
  • การอนุญาตให้ใช้สารออกฤทธิ์ชีวฆาต (biocidal active substance) และผลิตภัณฑ์ชีวฆาต (biocidal products) ที่อนุญาตให้ใช้ในการผลิตวัสดุและผลิตภัณฑ์พลาสติกที่สัมผัสกับอาหารภายใต้ Regulation (EU) No 528/2012
  •  ในกรณีสารที่ได้รับอนุญาตให้ใช้ผลิตวัสดุและผลิตภัณฑ์พลาสติกที่สัมผัสกับอาหารมีค่าถ่ายเทสู่อาหาร (migration into food) มากกว่า 0,15 ไมโครกรัม/กิโลกรัม แต่น้อยกว่า 0,05 มิลลิกรัม/กิโลกรัม กำหนดให้ต้องทำการทดสอบความเป็นพิษต่อยีน (genotoxicity tests)
  • การกำหนดระดับค่าความบริสุทธิ์  (level of purity)  ระดับสูงในสารที่ได้รับอนุญาตให้ใช้ผลิตวัสดุและผลิตภัณฑ์พลาสติกที่ทำจากขยะ (waste)
  • การกำหนดกฎเฉพาะ (specific rules) ของสาร UVCB (Unknown or Variable composition, Complex reaction products or Biological materials)
  •  การกำหนดคำนิยามของ « การนำกลับมาแปรรูปใหม่ (reprocessing) » จากผลิตภัณฑ์พลอยได้จากการผลิตวัสดุและผลิตภัณฑ์พลาสติก ซึ่งมีความปลอดภัยและไม่ถือว่าเป็นขยะ
  •  ตามที่ Directive (EU) 2019/904 กำหนดให้งดการใช้ภาชนะพลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวทิ้งที่สัมผัสกับอาหาร อย่างไรก็ดี การใช้วัสดุหรือบรรจุภัณฑ์พลาสติกซ้ำๆ อาจก่อให้เกิดความเสื่อมสภาพของพลาสติกได้ ดังนั้น จึงกำหนดให้ผู้ประกอบการที่วางจำหน่ายวัสดุและผลิตภัณฑ์พลาสติกที่สัมผัสกับอาหารต้องให้ข้อมูลแก่ผู้ใช้งานเกี่ยวกับการป้องกันหรือชะลอการเสื่อมสภาพและการเปลี่ยนแปลงที่บ่งชี้ถึงการเสื่อมสภาพจากการใช้ภาชนะพลาสติกดังกล่าวซ้ำๆ  
  • ภายใต้ Commission Regulation (EU) No 10/2011 จำกัดการใช้วัสดุพลาสติกที่สัมผัสกับอาหาร กำหนดให้ในกรณีของวัสดุและบรรจุภัณฑ์ที่ยังไม่เคยสัมผัสกับอาหาร ซึ่งต้องมีคำแนะนำพิเศษประกอบเพื่อให้การใช้งานมีความปลอดภัยและถูกต้อง
  •  กำหนดให้ค่าถ่ายเทสู่อาหาร (migration into food) ที่กำหนดโดย Commission Regulation (EU) No 10/2011 ยังคงปรับใช้กับชั้นพลาสติก (plastic layers) ของวัสดุและบรรจุภัณฑ์ที่มีการพิมพ์ เคลือบ หรือติดเข้าด้วยกัน
  •  การกำหนดให้ผู้ผลิตวัสดุและบรรจุภัณฑ์ต้องส่งมอบข้อมูลให้แก่หน่วยงานผู้รับผิดชอบหลัก เกี่ยวกับองค์ประกอบของสารตั้งต้นและเอกสารประกอบในแต่ละขั้นตอนของกระบวนการผลิต รวมถึงเอกสารดังกล่าวต้องแสดงให้เห็นถึงการปฏิบัติตามกฎระดับความบริสุทธิ์ขั้นสูงที่กำหนดโดย Commission Regulation (EU) No 10/2011
  •   การกำหนดให้ผู้ผลิตวัสดุและบรรจุภัณฑ์ต้องอำนวยความสะดวกในการตรวจสอบ โดยให้ผู้ตรวจสอบสามารถเก็บตัวอย่างในขั้นตอนกระบวนการผลิต และเก็บตัวอย่างสารและวัสดุตัวกลางที่ใช้สำหรับการผลิตที่มีอยู่ในสถานที่ผลิตได้
  •  การกำหนดให้ผู้ประกอบการธุรกิจสามารถที่จะเลือกใช้อัตราส่วนพื้นผิวต่อปริมาตรที่แท้จริง (real surface-to-volume ratio) แทนการใช้อัตราส่วนพื้นผิวต่อปริมาตรคงที่ (fixed surface-to-volume ratio) ที่กำหนดไว้เป็นข้อยกเว้น
  •  ปรับแก้การจัดประเภทของเนยแข็ง (cheese) ธรรมชาติ/แปรรูป เนยแข็งสุก/ไม่สุก รวมถึงกำหนด food simulant ที่เกี่ยวข้อง
  •  การกำหนดให้ต้องมีข้อมูลเกี่ยวกับสารที่ไม่ได้เติมลงไปโดยไม่ได้ตั้งใจ (non-intentionally added substances) อาทิ  สิ่งเจือปน ปฏิกิริยากลาง การสลายตัว หรือผลิตภัณฑ์จากปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นระหว่างกระบวนการผลิตวัสดุหรือบรรจุภัณฑ์พลาสติก และที่อาจมีอยู่ในวัสดุหรือบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่สัมผัสอาหารขั้นสุดท้าย
  •  ปัจจุบันของสหภาพยุโรปยังไม่ได้กำหนดให้ต้องมีการระบุว่า วัสดุพลาสติกนั้นๆ ผลิตจากสารที่ผลิตจากขยะหรือไม่ ดังนั้น เพื่อให้ผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติกขั้นสุดท้ายได้รับข้อมูลที่เพียงพอเพื่อรับรองการปฏิบัติตามข้อกำหนดที่กำหนดไว้ใน มาตรา 3(1) Regulation (EC) No 1935/2004 ว่าวัสดุและบรรจุภัณฑ์พลาสติกจะต้องไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพมนุษย์ จึงเห็นควรเพิ่มการระบุรายละเอียดดังกล่าวร่วมด้วย
  •  การกำหนดเกณฑ์การตรวจสอบในการทดสอบการปฏิบัติตาม (compliance testing) ในภาคผนวก V Regulation (EU) No 10/2011
  • ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการผลิตวัสดุและบรรจุภัณฑ์พลาสติกรีไซเคิล ให้เพิ่มข้อกำหนดเพิ่มเติมว่า ความบริสุทธิ์ขั้นสูงให้ปรับใช้เฉพาะกับสารที่ใช้ในกระบวนการรีไซเคิล   กระบวนการที่ก่อให้เกิดปฏิกิริยากลาง การสลายตัว หรือการเกิดปฏิกิริยาจากสารดังกล่าวเท่านั้น 
  •  การกำหนดกฎเกณฑ์เกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติที่ดีในการผลิตวัสดุและบรรจุภัณฑ์พลาสติกรีไซเคิลใน Regulation (EC) No 2023/2006 เกี่ยวกับการนำผลิตภัณฑ์พลอยได้จากวัสดุและบรรจุภัณฑ์พลาสติกกลับมาแปรรูปใหม่ (reprocessing) และรีไซเคิล
  •  การกำหนดกฎเกณฑ์เกี่ยวกับแนวทางการปฏิบัติตามมาตรา 15 Regulation (EU) No 10/2011 (เพิ่มเติม) ใน Regulation (EC) No 2023/2006 เกี่ยวกับการระบุข้อมูลที่จำเป็นเกี่ยวกับการแปรรูปใหม่และข้อมูลการใช้งานเฉพาะที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการใช้ผลิตภัณฑ์พลอยได้ของพลาสติกในทางวัตถุประสงค์ที่ไม่เหมาะสมและหลีกเลี่ยงการปนเปื้อนของผลิตภัณฑ์พลอยได้ของพลาสติกตั้งแต่แหล่งที่ผลิตไปจนถึงแหล่งแปรรูป
  •  คณะกรรมาธิการยุโรปอนุโลมช่วงเวลาเปลี่ยนผ่าน ดังนี้

– วัสดุและบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่ปฏิบัติตาม Regulation (EU) No 10/2011 ก่อนที่กฎระเบียบฉบับนี้หรือกฎระเบียบใดที่เกี่ยวข้องจะปรับใช้ ที่มีการวางจำหน่ายในตลาดก่อนวันที่ 16 กันยายน 2569 อนุญาตให้สามารถวางจำหน่ายในตลาดได้ไปจนกว่าสินค้าจะหมดไปจากคลังสินค้า

– ในกรณีที่ผลิตภัณฑ์จากขั้นตอนกลาง (intermediate stage) จากการผลิตวัสดุและบรรจุภัณฑ์พลาสติกหรือสารที่ใช้ในการผลิตผลิตภัณฑ์ วัสดุ หรือบรรจุภัณฑ์ เป็นไปตาม Regulation (EU) No 10/2011  ซึ่งปรับใช้ก่อนที่กฎระเบียบนี้จะมีผลบังคับใช้ และมีการวางจำหน่ายในตลาดหลังวันที่ 16 ธันวาคม 2568 โดยไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบนี้ กำหนดให้คำสำแดงการปฏิบัติตาม (declaration of compliance) ที่แนบไปกับสารหรือผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจะต้องระบุว่า « ไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบนี้ (Commission Regulation (EU) 2025/351) » และอนุโลมให้สามารถใช้ในการผลิตวัสดุและบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่มีการวางในตลาดก่อนวันที่ 16 กันยายน 2569 เท่านั้น

  • กฎระเบียบดังกล่าวมีผลบังคับใช้ 20 วันหลังจากวันที่ประกาศใน EU Official Journal (ประกาศในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2568) รายละเอียดกฎระเบียบดังกล่าวสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้จาก QR code